บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 มาทวงคืน

สองอาทิตย์ผ่านไปหลังจากเปิดพินัยกรรม

อาคารสำนักงานสูงล้อมด้วยกระจกบานใหญ่

พนักงานประจำออฟฟิศแต่งกายสุภาพเดินเข้ามาในอาคารทำงานกันมากมาย แต่ไม่ว่าคนจะเยอะแค่ไหนก็ไม่อาจกลบรัศมีของหญิงสาวสวยราวนางงามผมสีน้ำตาลลอนยาวรูปร่างสูงสง่าผิวขาวอมชมพูสวมชุดเดรสรัดรูปกระโปรงยาวคลุมเขาพร้อมกับเสื้อคลุมถักของแบรนด์ดังเดินเชิดคอเฉิดฉายปะปนอยู่กับเหล่าพนักงานที่หันมองกันอย่างแปลกใจ ร่างสูงระหงเดินมายังทางเข้าลิฟต์มีแท่นกั้นพนักงานต่างใช้บัตรสแกนเข้าแต่เธอไม่มีแล้วพยายามเดินแทรกตามเข้าไปแต่ไม่ทันจนเครื่องร้องเตือนพนักงานหันมองกันเหลอหลา รปภ.จึงรีบเดินมาหา

“ถ้าไม่มีบัตรต้องแลกบัตรที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก่อนนะครับ”

“อ๋อค่ะ ขอบคุณค่ะ” หน้าสวยยิ้มเจื่อนไม่รู้ว่าบริษัทของแม่มีการรักษาความปลอดภัย

“คุณน้ำหนึ่งเป็นผู้บริหาร ไม่ต้องแลกบัตร” เสียงทุ้มจากด้านหลัง เพชรน้ำหนึ่งรู้ได้ทันทีว่าเป็นพสุธา

“สวัสดีครับคุณพสุธา”

“สวัสดีครับ” พสุธาโน้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทายรปภ. ก่อนจะสแกนบัตรของตัวเองแล้วผายมือให้เพชรน้ำหนึ่งเดินเข้าก่อน ร่างระหงเดินเคียงคู่กับพสุธาระหว่างทางที่เดินไปยังลิฟต์มีพนักงานยกมือไหว้เขาและเธอ ซึ่งพสุธาก็ไหว้รับด้วยเช่นกันเพชรน้ำหนึ่งเลยรีบยกมือไหว้ตามอย่างที่เขาทำ

“ผู้บริหารอยู่ชั้นเก้าเป็นเลขคี่ต้องขึ้นลิฟต์ฝั่งนี้ถ้าเลขคู่ฝั่งนั้น” เขายืนชี้ลิฟต์ที่มีอยู่สองฝั่งให้เธอดู เพชรน้ำหนึ่งหันมองพยักหน้าเข้าใจ

“วันนี้นึกยังไงถึงมาที่นี่?”

“ฉันจะมาทวงทุกอย่างที่ควรเป็นของฉันคืน ถ้าเราหย่ากันตำแหน่งผู้บริหารก็ควรเป็นของฉัน ว่าแต่นายกล้าชิงตำแหน่งกับฉันไหมล่ะ” หน้าสวยเชิดขึ้นท้าทายสามีในนามซึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของบริษัทแค่ชั่วคราว

“ผมยินดีแข่งชิงตำแหน่งกับคุณ ถ้าใครใจเสาะก่อนคนนั้นเป็นหมา”

“นายเตรียมหอนรอไว้ได้เลย” ไหล่บางยกขึ้นมั่นใจว่าตัวเองต้องชนะ พสุธากระตุกมุมปากนิด ๆ ดีใจที่เธอมีความกระตือรือร้นทำงานโดยไม่ต้องบังคับ

สักพักทั้งสองก็ขึ้นลิฟต์ว่างที่ไม่มีพนักงานกล้าขึ้นมาพร้อมกับผู้บริหาร นอกจากหญิงสาวสวยแต่งกายเรียบหรูดูแพงวิ่งหน้าตาตื่นถือถุงขนมมาเต็มสองมือ

“ขอบใจที่รอนะดิน” หญิงสาวสวยหันมายิ้มแป้นกับพสุธาราวกับว่าโลกนี้มีแค่เราสอง

“แวะซื้อขนมมาเยอะอีกแล้ว” พสุธาเอ่ยขึ้นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างที่เพชรน้ำหนึ่งไม่เคยเห็น

“แหม ก็ซื้อมาฝากตัวด้วยนั่นแหละ อ่ะ ช่วยถือหน่อย” รินรดายื่นถุงขนมให้พสุธาถือไว้ทั้งสองมือแล้วคว้าเนกไทของพสุธามาผูกใหม่

“ผูกเนกไทเบี้ยวตลอด ตอนนี้เป็นผู้บริหารต้องเนี้ยบกว่านี้นะ” มือเรียวผูกเนกไทปากก็บ่นพึมพำไม่ว่าผ่านไปกี่ปีเขาก็เป็นเหมือนเดิม

“ครับคุณป้า” พสุธาอมยิ้มแกล้งแซวเพื่อนสนิท

“ตาบ้าชอบว่าเราแก่”

“ก็แก่จริง ๆ ปีนี้อายุเยอะแล้วเลือกหนุ่ม ๆ ที่มาจีบสักคนสิ”

“จะเลือกได้ไงคนที่รออยู่ เขาไม่มาจีบสักที” รินรดาเสียงอ่อนเงยมองสบตากับพสุธาที่กำลังก้มมองเธอ

“ฮึ่ม....จีบกันตรงนี้ก็ได้เหรอคะ?” เพชรน้ำหนึ่งหน้างอหมั่นไส้จีบกันไม่ว่าแต่ไม่เห็นหัวเธอกันบ้างเลยหรือไง

“เราเป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่ได้จีบกันว่าแต่คุณคือ....” รินรดาหันมาตอบด้วยสีหน้าสดใสแต่การแต่งกายผิวพรรณดูรวยของเธอคนนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แค่พนักงาน

“คุณเพชรน้ำหนึ่งลูกสาวคนเดียวของคุณหทัยชนก” พสุธาผายมือแนะนำเพชรน้ำหนึ่งอย่างให้เกียรติ

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเพชรน้ำหนึ่ง เสียใจกับการจากไปของคุณแม่ด้วยนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“แล้ววันนี้มาทำอะไรคะ ทราบข่าวคุณแม่ไม่ได้ยกตำแหน่งอะไรในบริษัทนี้ให้เลยนี่คะ” รินรดาลากเสียงกรุ้มกริ่มพลางยกยิ้มเหมือนจะมีมารยาทแต่เจ้าเล่ห์

“แสนรู้ อุ้ย ! รู้ดีจังเลยค่ะ ต้องซอรี่ด้วยนะคือแบบอยู่เมืองนานเลยพูดคำไทยไม่ค่อยถูก” เพชรน้ำหนึ่งเล่นหน้าเล่นตาแสยะยิ้มเหยียดมองเคือง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” รินรดากระแทกเสียงขุ่นมองกลับอย่างท้าทาย

“ค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งกระแทกเสียงปรายตามองหัวจรดเท้า

“ค่ะ” รินรดาไม่ยอมลดละเขม่นกันตั้งแต่นาทีแรกที่ได้เจอ พสุธาหน้าตึงอึกอักกลืนน้ำลายลำบากก่อนที่ประตูจะลิฟต์เปิดออกที่ชั้นผู้บริหารราวกับระฆังช่วยชีวิต

“ถึงแล้วลงลิฟต์กันเถอะ”

“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวกระแทกเสียงหน้าบึ้งพร้อมกัน รินรดาสะบัดหน้าเดินออกไปก่อน เพชรน้ำหนึ่งเดินตามไปติด ๆ พสุธาถอนหายใจโล่งอกแล้วเดินออกจากลิฟต์ซึ่งรินรดาเดินหายเข้าไปในห้องทำงานของแผนกแล้วเหลือแต่เพชรน้ำหนึ่งยืนหน้างอตาขวางใส่เขา

“เราไปทางนี้”

“ไม่เอาขนมไปให้เพื่อนนายก่อนเหรอ” เสียงหวานกระแหนะกระแหนเหลือบมองถุงขนมเต็มมือของชายหนุ่ม พสุธานึกได้รีบเดินเอาถุงขนมเข้าไปให้ยังแผนกของรินรดา เพชรน้ำหนึ่งจ้องตามองอย่างมาดหมายสงสัยจะเจอคู่ปรับตัวแสบเข้าให้แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel