ตอนที่ 3 ผมมีสิทธิ์ปล้ำ
เพชรน้ำหนึ่งตื่นขึ้นภายในห้องนอนได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ไม่ไกลเลยพยายามมองไปทางเสียงที่ได้ยินเห็นลุงกับป้านั่งคุยกันบนโซฟา
“น้ำหนึ่งคงยังทำใจไม่ได้เลยซึมเศร้าเหมือนคนใจสลาย”
“นั่นสิไปเรียนเมืองตั้งห้าปีได้กลับมาดูใจแม่แค่วันเดียวเอง”
“หนูรู้สึกเพลียอยากนอนพอลุกเดินก็มึนหัว บางทีก็ลืมว่าเคยอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่บางทีก็จำได้แวบ ๆ” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยแทรกก่อนจะค่อย ๆ เขยิบตัวนั่งสีหน้าอ่อนเพลียขอบตาบวมดำคล้ำ
“เป็นเพราะหลานเครียดเรื่องแม่นั่นแหละ” ธารทิพย์มองไปทางหลานสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไปพบจิตแพทย์ดีกว่า” ธนัตกอดอกมองสายตาไม่เป็นมิตร
“หนูไม่ได้บ้านะคะ”
“คนบ้าชอบพูดว่าตัวเองไม่ได้บ้า!”
“พอเถอะพี่ ธารว่าน้ำหนึ่งไม่ได้เป็นอะไรหรอก” ธารทิพย์ขัดขึ้นเมื่อสถานการณ์เริ่มตึงเครียดเพราะธนัตเป็นคนเจ้าอารมณ์พูดจาขวานผ่าซากทำให้มีเรื่องทะเลาะกันในครอบครัวบ่อยครั้ง
“ทำใจให้สบายอย่าคิดมากเรื่องบางเรื่องเสียใจไปก็ทำอะไรไม่ได้ น้ำหนึ่งโตแล้วไม่ว่าเรื่องหนักแค่ไหนก็ต้องสู้และอยู่กับมันให้ได้” ธารทิพย์ยืนขึ้นมองคล้ายห่วงใยแต่น้ำเสียงช่างห้วนไม่รื่นหู
“ไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเราก็กลับกันเถอะ” ธนัตมองเหวี่ยงแล้วเดินลิ่วออกจากห้องไปดื้อ ๆ
“นอนพักผ่อนเยอะ ๆ อย่าคิดมาก” ธารทิพย์บอกกับหลานสาวก่อนจะเดินตามพี่ชายไป เพชรน้ำหนึ่งนั่งเวียนหัวหน้างอไม่พอใจเมื่อไม่มีแม่อยู่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องดูจะอึมครึมหนักกว่าที่เคย
ช่วงค่ำ
เพชรน้ำหนึ่งนอนหลับด้วยความอ่อนเพลียแม้จะนอนทั้งวันก็ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มจนเวลาผ่านไปจนค่ำเปลือกตาสวยกลอกกลิ้งรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงกุกกักภายในห้องนอน
เมื่อลืมตาขึ้นเห็นเพียงความสลัวมีแสงจากไฟรอดออกมาจากห้องน้ำเลยนึกว่าตัวเองอาจลืมเปิดไฟห้องน้ำทิ้งไว้แต่ไม่ทันจะคิดอะไรมากกว่านั้นก็มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเชิ้ตพับแขนถึงข้อศอกกางเกงสแลคเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เข้ามาทำอะไรในห้องฉัน!” กายบางสะดุ้งลุกนั่งหน้าตาตื่นตกใจที่เห็นพสุธาอยู่ในห้องนอนของเธอ
“ป้าพึงบอกว่าคุณไม่ค่อยสบาย ผมเลยมาดู” พสุธาสีหน้าเรียบเฉยพลางเอาผ้าขนหนูชุบน้ำผืนเล็กที่ตั้งใจมาเช็ดหน้าให้เธอซ่อนไว้ข้างหลัง
“ฉันจะฟ้องคุณแม่ว่านายถือวิสาสะเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต!”
“จะฟ้องใครนะ?” สายตาคมหรี่ลงมองเธอผ่านแสงไฟสลัว
“คุณแม่ไง ลูกรักอย่างนายได้เสียคะแนนนิยมแน่” หน้าซีดยกยิ้มเยาะคนโปรดของแม่ก่อนจะหลบตาลงนึกแวบขึ้นมาได้ว่าแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว เพชรน้ำหนึ่งก้มหน้าเครียดตกใจที่ตัวเองลืมเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ทั้งที่ไม่ควร
“เป็นอะไร?” เสียงทุ้มเอ่ยถามข้างหูทำให้คนจิตตกสะดุ้งสุดตัวเงยมองใบหน้าหล่อคมคายกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ หน้าซีดเอนถอยห่างกำผ้านวมแน่นอย่างประหม่าก่อนจะถูกรวบเอวดึงเธอเข้าให้เข้าใกล้ชิดกับเขา
“อยู่นิ่ง ๆ มองตาผม”
“กล้าดียังไงมาแตะตัวฉัน” แววตาสวยกลอกกลิ้งไม่กล้าสบตาซึ่งดูหลุกหลิกแปลก ๆ
“โดนเล่นเข้าให้แล้ว” คิ้วเข้มขมวดขึงขังเพียงไม่กี่วันที่พลาดไม่ได้อยู่ด้วยทำให้เธอโดนเล่นงาน
“ปล่อย ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” กายบางหยุกหยิกหวั่นไหวไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงหัวใจเธอกำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะจากการใกล้ชิดและวงแขนแกร่งที่โอบล้อมล็อกเอวบางให้วาบหวาม
“ตำรวจเขาไม่รับแจ้งเรื่องผัวเมีย” ริมฝีปากหนายกยิ้มค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าใกล้ชิดขึ้นเรื่อง ๆ นึกสนุกกับการแกล้งแหย่คนขี้โวยวาย
“อย่าลามปาม สำนึกไว้ด้วยว่าฉันเป็นใครแล้วนายเป็นใคร!”
“นึกให้ดี ๆ คุณน้ำหนึ่งเราจดทะเบียนสมรสเป็นผัวเมียกันแล้วผมมีสิทธิ์ปล้ำเมียตัวเอง”
“อย่า...” หน้าซีดเซียวเบี่ยงหนีลมหายใจอุ่นรดพวงแก้ม มือเรียวยกขึ้นยันอกแกร่งให้ออกแต่เหมือนว่ามัดกล้ามหน้าอกใต้ร่มผ้ายิ่งสร้างความหวั่นไหวเขินหน้าแดงแทบจะซุกหน้ามุดที่นอน
“ใจเต้นแรงเชียวนะ” น้ำเสียงแหบแห้งกระเส่าข้างหูก่อนจะผละห่างยิ้มเยาะอาการประหม่าของหญิงสาว
“บ้า!” หน้าซีดเซียวบึ้งตึงขบกรามโมโหคนแกล้งแหย่ให้โมโห พสุธาทำลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะคว้าข้อมือเรียวดึงให้เธอลุกขึ้นแต่เธอกระชากข้อมือกลับพยายามขืนตัวไม่ยอมทำตาม
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“ชู่ว.....” เสียงทุ้มแผ่วเบาลากยาวนิ้วชี้แตะริมฝีปากหนาให้เธอไม่โวยวาย เพชรน้ำหนึ่งนิ่งงันมองเคลิ้มคล้ายอยู่ในภวังค์
“ไปกับผม คุณต้องเชื่อใจผม”
“นายจะทำร้ายฉันไหม?”
“หน้าที่ผมคือปกป้องไม่ใช่ทำลาย” หน้าคมเคร่งขรึมจริงจังส่งผลให้คนสับสนแพ้ทางอ่อนลงตามคำพูดหว่านล้อม หน้าซีดเซียวครุ่นคิดก่อนจะยอมลุกเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย..............
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
พสุธานั่งกอดอกมองเพชรน้ำหนึ่งนอนบนเตียงคนไข้ท่ามกลางความมืดพลางนึกถึงผลตรวจพบสารกดประสาททำให้มีอาการหลอนและสับสนไม่รู้ว่าสิ่งไหนจริงหรือสิ่งไหนนึกคิด พสุธาครุ่นคิดถึงตัวการที่ทำให้เพชรน้ำหนึ่งได้รับสารอันตรายเกือบถึงชีวิตเหตุผลเดียวคือเรื่องของมรดกมหาศาลที่เธอจะได้รับในอนาคต
เช้าวันรุ่งขึ้น
แพทย์เจ้าของไข้ได้บอกเกี่ยวกับสารที่เพชรน้ำหนึ่งได้รับเข้าไปในร่างกายจึงแนะนำให้พักรักษาตัวอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์และต้องรักษาต่อเนื่องเพื่อขับสารพิษออกให้หมดไม่อย่างนั้นเธอจะมีอาการทางประสาท
