๙ ความผิดติดตัว (๓)
เพียงแค่มองตาก็รู้ว่าท่านประธานต้องการอะไร ครั้งก็ถือเอกสารสำคัญที่ให้คนไปสืบค้น ก่อนจะยื่นให้ร่างสูงด้วยท่าทีนอบน้อมถึงจะอายุมากกว่าเกือบสองรอบก็ตาม อย่างไรคนตรงหน้าก็เป็นเจ้านายเขา อายุไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก
เงินต่างหากที่กำหนดทุกอย่าง
“นี่ครับ”
“ครบถ้วนไหม” รับเอกสารมาเปิดอ่านข้อความข้างใน มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น แต่คนที่ทำงานด้วยกันมานานรู้ดีว่าเพลิงรพีค่อนข้างพึงพอใจ จึงลอบถอนหายใจโล่งอกที่งานลุล่วงไปด้วยดี
เขาไม่ได้ถามเกี่ยวกับเหตุผลที่เจ้านายให้หาประวัติของผู้หญิงที่ชื่อเพชรแพรวา ชมนาด เลือกจะทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียว พร้อมรายละเอียดที่ครอบคลุมหมดทุกอย่างกระทั่งรูปภาพตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ค่อนข้างหายากเพราะเธอเป็นคนเก็บตัว
แต่ในเมื่อท่านประธานต้องการ มีหรือที่ผู้ช่วยจะทำไม่ได้
“ครบครับ ผมหามาอย่างละเอียดตามที่คุณเพลิงต้องการ” บอกเสียงขรึมด้วยความมั่นใจ
“ขอบคุณครับ” เขาเปิดดูเอกสารทุกหน้าแล้วไล่สายตาอ่านประวัติคร่าวๆ ไม่ได้ลงลึกมากนักเพราะต้องการสั่งบางอย่างกับคนของตัวเอง
“พรุ่งนี้ผมมีงานตอนเย็นหรือเปล่า” งานของเขาไม่มีเวลาตายตัว
ช่วงที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศก็ต้องเคลียร์งานจนดึกดื่น เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้บอร์ดบริหารและผู้ถือหุ้นจนบัดนี้เขาสามารถยืดอกแล้วบอกกับคนอื่นได้แล้วว่าตนคือประธานบริษัทที่ได้ทุกอย่างมาจากความชอบธรรมและความสามารถของตัวเอง
ช่วงเวลาวัยเด็กถูกพรากไปด้วยการตั้งใจเรียนและศึกษางานจากบิดา รู้ดีว่ามันคือหนทางเดียวที่จะทำให้แม่มีความสุข จึงได้ละทิ้งความสุขของตัวเอง แล้วใช้ชีวิตที่เป็นเหมือนถ้วยรางวัลใบใหญ่ของคุณเทวิกา ความร่าเริงเริ่มจางหายแปรเปลี่ยนเป็นเด็กชายผู้เงียบขรึมเก็บอารมณ์
หุ่นยนต์ที่เคยชอบ การ์ตูนที่เคยดูถูกเก็บเข้ากล่องแล้วนำไปไว้ที่ห้องเก็บของ ไม่เคยเอากลับมาชื่นชมเลยสักครั้งถึงจะรักมันมากแค่ไหน แต่ความรู้สึกนั้นได้หมดไปแล้วเมื่อต้องทำทุกอย่างให้สถานะของมารดากับตัวเองมั่นคง
เขาต้องเป็นผู้สืบทอดชีวา กรุ๊ป...ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากผู้หญิงคนอื่น!
“ไม่มีครับ” ตารางงานตอนเย็นว่างเป็นครั้งแรก เพราะนักธุรกิจที่นัดคุยด้วยขอเลื่อนเป็นสัปดาห์หน้า เขาได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าพลางยกยิ้มมุมปาก เหมือนกับว่าทุกอย่างจะเป็นใจให้เขาได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่
เริ่มคิดถึงดวงตากลมแสนโศกเศร้านั้นเสียแล้วสิ ยิ่งคิดว่ามันแปรเปลี่ยนเป็นความต้องการ ที่มีเพียงเขาได้ครอบครองกลับยิ่งลิงโลดกว่าเดิม
ของเล่นชิ้นนี้ถูกใจเขาเหลือเกิน
“จองห้องพักที่โรงแรมแล้วก็จัดอาหารไปให้ผมด้วย...สำหรับสองที่นะครับ” น้ำเสียงสุภาพกับคำสั่งเฉียบขาดที่ตนทำได้เพียงรับคำอย่างเดียว ค้อมศีรษะให้เจ้านายแล้วทำตามความต้องการของชายหนุ่ม
“ครับคุณเพลิง”
เลขานุการคนสนิทเดินออกจากห้อง เหลือเพียงเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มขนาดใหญ่ เปิดเอกสารอ่านเนื้อหาข้างในด้วยความอยากรู้ ก่อนจะทราบว่าเพชรแพรวาที่นภาลดาบอกว่าเป็นเด็กในอุปถัมภ์ แท้จริงคือน้องสาวต่างมารดาต่างหาก
นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง ไล่อ่านประวัติของเธอโดยคร่าวตั้งแต่อยู่กับแม่ถึงสิบขวบแล้วย้ายมาอยู่กับยายได้สองปีก็ถูกลุงพามายังบ้านภัทรเทวา เหมือนละครเรื่องหนึ่งที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุกมากกว่าเดิม มุมปากหยักยกยิ้มสูงกว่าเดิม แล้วไล่มองภาพวัยเด็กจนถึงตอนโตของเธอ
สวย...ช่างเป็นผู้หญิงที่เขาถูกใจเสียจริง
“น่าสนุกดี...หึหึ” การกลับมารับช่วงต่อบริษัทของครอบครัว ทำให้มีเพียงเรื่องงานกับความน่าเบื่อหน่ายของการสวมหน้ากากเข้าหากัน แต่ดูเหมือนเธอจะทำให้เขาค้นพบความสนุกได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
ต่อจากนี้...คงไม่น่าเบื่ออีกแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นที่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการผ่านการแนะนำของนภาลดาก็เหมือนว่าเธอจะเหม่อลอยมากกว่าเดิม รอยยิ้มของพี่ยังติดตรึงอยู่ในใจยิ่งทำให้หัวใจดำดิ่งมากกว่าเดิม แค่คิดว่าคืนนั้นตนเองทำสิ่งเลวร้ายมากเพียงใดก็คลื่นเหียนจนต้องอาเจียนตัวโยนกินอะไรก็ออกมาหมดแล้วยังไม่ค่อยหิวอีก
แต่เธอก็ต้องกินข้าวกับบรรดาแม่บ้านที่มาเรียกอยู่หน้าห้อง กลับจากทำงานก็ขังตัวเองในห้องนอนสี่เหลี่ยม พยายามไม่คิดถึงเรื่องคืนนั้นต่อต้านในใจเพราะรู้ดีว่าเธอกำลังยุ่งกับผู้ชายของคนอื่น
เหมือนแม่...ผู้หญิงที่ทุกคนเกลียด
“น้องแพรเป็นอะไรหรือเปล่า หมู่นี้เหม่อบ่อยนะ เครียดเรื่องงานเหรอ” ร่างบางเอาแต่นั่งเงียบแล้วมองอาหารด้วยแววตาว่างเปล่า เขี่ยข้าวไปมาไม่ยอมกินสักที คนร่วมโต๊ะก็หันมองหน้ากันด้วยความวิตก ก่อนน้าสวยจะเป็นคนถาม
ความจริงก็พอรู้ว่าคงไม่ใช่เรื่องงาน อาการเหมือนคนอกหักจนคิดว่าอาจมีเรื่องกับคีรีภัทรหรือเปล่า รักทางไกลไม่ง่ายเลยสักนิด อีกอย่างครอบครัวฝ่ายชายก็กีดกัน คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจสงสารหลานสาวแสนดีของตัวเอง
“เปล่าค่ะ แค่...อ่านนิยายเลยนอนไม่พอน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” รีบส่ายหน้าแล้วยกยิ้มมุมปากไม่อยากให้คนอื่นคิดมากด้วย เธอพยายามทำตัวปกติแต่ก็ยากเพราะมันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป...
“กินข้าวลูก มีแต่ของที่หนูชอบทั้งนั้นเลย” ป้าสมใจเห็นอย่างนั้นก็ตักอาหารใส่จานของหลาน นางรู้ว่าคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ถึงจะเป็นห่วงก็ไม่อยากคาดคั้น สิ่งสำคัญคือสุขภาพของหญิงสาวมากกว่า ยิ่งเห็นแววตาเศร้าหมองก็ยิ่งสงสารมากกว่าเดิม
“ค่ะ”
จำต้องตักข้าวเข้าปากถึงจะไม่หิวก็ตาม ไม่อยากทำให้คนอื่นเป็นห่วงจึงรีบบอกตัวเองให้ทิ้งความกังวลทั้งหมดไป คงไม่มีเรื่องใดให้ต้องวิตกแล้วล่ะ อีกไม่นานเขาจะแต่งงานกับพี่สาวแล้วเราจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า
อย่างไรเธอก็ไม่ได้ความบริสุทธิ์ให้ผู้ชายของคนอื่นสักหน่อย มันแค่ฤทธิ์ยาที่ทำให้สูญเสียความเป็นตัวเองเท่านั้น บอกตัวเองซ้ำหลายรอบก่อนตักข้าวเข้าปากได้ไม่กี่คำก็รวบช้อนแล้วดื่มน้ำ ป้าสมใจเริ่มเป็นห่วงจึงได้ถาม
“กินน้อยจังเลยลูก”
“กินขนมมาจากข้างนอกบ้างแล้วค่ะ” ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบ
เธอกำลังจะลุกเอาจานของตัวเองไปล้าง กลับมีแม่บ้านอีกคนเข้ามาเรียกเสียก่อน จึงได้หันไปมองพลางพยักหน้ารับ เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับทุกคน เมื่อก่อนเธอแทบไม่ได้ขึ้นตึกใหญ่ ตอนนี้ถูกเรียกไปพบเป็นว่าเล่น
“น้องแพร คุณท่านเรียกไปพบ” แม่บ้านที่ดูแลเพชรแพรวามาแต่เล็กแต่น้อยก็นึกตื้นตันใจที่หล่อนเป็นที่รักของคนในบ้านเพิ่มขึ้นสักที
เมื่อก่อนมีเพียงนภาลดาที่เข้ามาพูดคุยเล่นด้วย คนอื่นต่างมองหญิงสาวเหมือนอากาศ คุณวราลีถึงจะส่งเสียเลี้ยงดูก็ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น แต่บัดนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลง ประมุขของบ้านเรียกหาหลานสาวคนนี้ทุกวัน
“ค่ะ” ล้างมือเรียบร้อยก็ออกจากห้องครัวทันที
