๘ เรื่องน่าอับอาย (๔)
เพลิงรพีเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเอง จ้องดวงหน้าหวานที่ยังคงพรมจูบไปทั่วลำคอของเขา ทั้งยังอ้อนเสียงพร่าอย่างที่คนฟังแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ปวดหนึบไปทั่วแก่นกายชายก็ต้องอดทนเอาไว้ รู้ได้ในทันทีกับการกระทำของเธอว่าหญิงสาวโดนยาอะไร
ยาเสียสาวที่เขาเรียกกันสินะ...
“ช่วยด้วย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม ไม่ไหวแล้ว มันรู้สึก...เหมือน เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในตัว ช่วยจับมันออกไป เอามันออกไป” เกาะเกี่ยวเขาไว้แน่นกว่าเดิม โดยที่ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำที่กรุด้วยกระจก มองเห็นรอบทิศยามเข้าใช้ทั้งยังไม่อาจล็อคประตูได้อีกต่างหาก
“เรื่องนี้ฉันคงช่วยเธอได้มากสุด...ก็คือการเปิดน้ำ” วางเธอลงใต้ฝักบัวจากนั้นก็จัดการเปิดน้ำให้ทันทีจนหญิงสาวสะดุ้งโหยง ผวาจะเดินตามเขากลับถูกชายหนุ่มกดให้นั่งลงใต้ฝักบัวดังเดิม
“อยากหายร้อนก็ต้องอาบน้ำ” สายตาคมดุกับคำพูดคล้ายสั่งทำให้เธอเชื่อฟังโดยดี นั่งอยู่ใต้สายน้ำแล้วชันเข่าขึ้นกอด พลางมองแผ่นหลังกว้างที่ตนโหยหายเดินห่างออกไป มองเขาทุกอิริยาบถค่อยละสายตาก้มมองพื้น
อาการเหล่านี้ยังไม่ยอมหายไปสักที เธอร้อนจนทนไม่ไหวเหมือนเสื้อผ้าเกะกะไปหมด ความต้องการบางอย่างก็พุ่งสูงเช่นเดียวกัน เป็นความรู้สึกที่อยากให้มือหนาสัมผัสร่างกายตนเอง
“อึก” เม้มปากแน่นกลั้นเสียงครางเมื่อเริ่มเอามือของตนถูไถไปตามร่างกาย เริ่มรู้สึกดีอย่างประหลาด จึงตัดสินใจถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากตัว ทิ้งไว้มุมห้องจากนั้นจึงนั่งพิงผนังกำแพงพร้อมชันเข่าขึ้น แหวกขาของตัวเองออกก่อนใช้นิ้วสัมผัสจุดซ่อนเร้นจนตัวบิดเกร็ง
“อ่า...” สอดนิ้วเข้าไปในความอุ่นนุ่มแล้วปรือตามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างนอก
เจ้าของห้องเดินไปหยิบบรั่นดีมารินใส่แก้วแล้วนั่งลงที่โซฟาซึ่งหันไปทางห้องน้ำ ดวงตาคมเบิกกว้างกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น ชาไปทั้งร่างก่อนความร้อนในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
“ให้ตายสิ...” เหมือนว่าสติสัมปชัญญะของหล่อนสูญสิ้น แล้วเขาเองก็ใกล้จะหมดความยับยั้งชั่งใจเช่นเดียวกัน
แววตาของเธอหวานฉ่ำยิ่งกว่าน้ำเชื่อมจ้องมายังหนุ่มร่างแกร่งซึ่งกำลังนั่งไขว้ห้างมองหล่อนอยู่บนโซฟานุ่ม ลมหายใจร้อนกับทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วกว่าปกติ ร่างกายเปลือยเปล่าที่อยู่ใต้สายน้ำเย็น
ห้องน้ำเป็นกระจกใสไม่มีม่านปิดกั้น จึงสามารถมองเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรบ้าง แล้วมันก็ช่างเร้าใจคนมองเสียเหลือเกิน เขาจ้องเธอตาไม่กระพริบ รู้สึกว่าเริ่มหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดวงตาคมไล่ไปตามใบหน้าหวานก่อนจะมองมายังริมฝีปากอวบอิ่มซึ่งกำลังขบเม้มแน่นไม่ให้เปล่งเสียประหลาดออกมา
ผมยาวสีดำขลับตัดกับผิวขาวนวลเปียกลู่ไปตามร่างกายเมื่อถูกน้ำกระทบ สายตาของเขามองไปยังลำคอระยาวระหงรับกับลาดไหล่เนียนสวยมายังไหปลาร้าที่เป็นแอ่งงดงาม ทรวงอกกลมกลึงได้รูปกับปลายยอดสีหวานกลืนกับสีผิว มองแล้วปลุกความต้องการได้ง่ายทีเดียว เพียงแต่เขาไม่ชอบบังคับจิตใจใครตอนเธอตกอยู่ใต้ฤทธิ์ยา
จึงทำได้เพียงขังหญิงสาวเอาไว้ในห้องน้ำ เปิดฝักบัวเพื่อให้น้ำรดกายอาจทำให้หล่อนดีขึ้นก็ได้ ก่อนนั่งมองภาพงดงามตรงหน้าที่เหมือนประติมากรรมชิ้นเลิศ
เหมือนว่าสติของเธอยังไม่เต็มร้อย หรือไม่ก็คงยังไม่กลับมาด้วยซ้ำจึงได้ทรุดกายลงนั่งบนพื้น พร้อมแหวกเรียวขาวยาวทั้งสองข้างออก เผยให้เห็นดอกไม้กลีบงามที่เบ่งบานเต็มที่ จนคนมองต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หยิบน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลงบนโต๊ะเสียงดัง มือหนาปลดเนกไทออกพร้อมกับวางไว้บนโต๊ะอย่างร้อนรุ่ม
“อ่า อ่ะ...” มาแค่ภาพแทบคลั่งแล้ว ยังมีเสียงหวานดังลอดออกมาจากห้องน้ำที่ปิดสนิทอีก เขานึกอยากเอามือทึ้งหัวตัวเองก็ต้องกำพนักโซฟาแน่น
เธอกำลังบิดเร้าอยู่ใต้สายน้ำที่หล่นเป็นเม็ดไม่ขาดสาย มือบางข้างซ้ายลูบไล้ตามทรวงอก สะกิดปลายยอดที่ชูชันแล้วขยี้อย่างเมามัน ขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนมายังจุดอ่อนไหวแล้วใช้นิ้วแหย่เข้าไปข้างในอย่างงกเงิน ชั่ววินาทีก็เปลี่ยนเป็นความชำนาญ เธอดึงนิ้วเข้าออกแล้วเผยอปากส่งเสียงครวญครางไม่หยุดคล้ายเจอจุดที่ทำให้มีความสุข
ให้ตาย...หล่อนสวยเหลือเกิน
สบถในใจแล้วจ้องมองภาพตรงหน้าไม่อาจละสายตาไปไหนได้ เธอเองก็สบตาเขาอย่างอาจหาญเช่นเดียวกัน ทั้งที่ปกติมักจะหลบสายตาเสมอ ผิวขาวนวลเริ่มขึ้นสีแดงไปทั่วทั้งตัว จนชายหนุ่มต้องยอมรับกับตัวเองว่าชอบภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก
อยากสร้างรอยไว้บนเรือนร่างแบบบางบ้าง ต้องการได้ยินเสียงครางของหล่อนดังอยู่ข้างหู ความปรารถนาเหล่านั้นแทบจะกลืนกินความตั้งใจเดิมของเขาที่อยากนั่งเฉยมองภาพตรงหน้าอย่างเดียว บัดนี้เขาตัดสินใจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ค่อยปลดเสื้อออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นท่อนบนที่ตั้งใจออกกำลังกายจนมีมัดกล้ามและซิกแพคที่สวยงาม
“อื้อ อ่า อ่า...” เธอบิดเร้าอยู่ใต้สายน้ำเหมือนเดิม แล้วเหมือนว่าปลายทางของความสุขจะอยู่ไม่ไกล เพราะไม่นานน้ำสีขุ่นก็ไหลออกมาจากกลีบแสนหวาน ปะปนกับสายน้ำใสจนแทบแยกไม่ออก ร่างกายแบบบางสั่นไหวเพียงครู่ก็หยุดนิ่ง พร้อมกับลมหายใจที่เริ่มเบาบางลง ดวงตาปรือเล็กน้อยก่อนจะหลับลงอย่างเหน็ดเหนื่อย
กระนั้นความต้องการก็ไม่ได้มอดดับเสียทีเดียว เหมือนว่ายิ่งได้รับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งโหยหามากเท่านั้น ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต เธอจึงไม่รู้วิธีรับมือกับมัน พยายามควบคุมสติตัวเองเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้สักที นอกจากการช่วยตัวเองให้ถึงฝั่งฝัน
“เล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไรล่ะ ให้ฉันช่วยไม่ดีกว่าเหรอ” เสียงที่ดังเหนือศีรษะกับเงาซึ่งทาบทับกายทำให้เธอเงยมองเขา
หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่นไปแล้วก่อนขังตัวเองในห้องน้ำ การเจอเขาในสภาพนี้ค่อนข้างน่าอายพอสมควร อยากเปล่งเสียงร้องไห้แต่ทว่าเสียงที่ออกมาคือครวญครางอย่างเสียวกระสัน ซึ่งบัดนี้เธอนึกเกลียดเสียงของตัวเองเหลือเกิน
“อย่า...” พยายามปฏิเสธแต่เหมือนจะไม่ทัน สายน้ำหยุดไหลไปแล้วก่อนที่ร่างแบบบางจะถูกดึงให้มานั่งบนตักแกร่ง เขาเพิ่งเคยนั่งลงบนพื้นห้องน้ำเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ก่อนจะโอบอุ้มหญิงสาวจากทางด้านหลัง แล้วค่อยแยกขาของตนออกให้เธอนั่งตรงกลางเพื่อความถนัด
เหมือนว่าเพชรแพรวาจะพยายามหุบขาของตัวเอง แต่เขากลับใช้มือสอดผ่านรักแร้เนียนมาจับต้นขาเรียวเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงใช้นิ้วทั้งสามแหวกจุดอ่อนไหวเข้าไปสัมผัสความอุ่นนุ่มที่ขมิบรัดนิ้วจนแก่นกายชายเริ่มปวดหนึบ
ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันและเป็นครั้งแรกที่เธออยู่ใกล้ผู้ชายมากขนาดนี้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะตลอดเวลามักมีระยะห่างกับเพศตรงข้ามเสมอ บัดนี้กลับยอมให้มือหนาลูบไล้ตามร่างกาย สัมผัสทรวงอกแล้วขยี้ที่ปลายถันของหล่อนอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ
“เจ็บ อ่า” เธอบอกเขาขณะที่พยายามหักห้ามใจเอาไว้ อยากขืนตัวออกแต่เพราะมือของชายหนุ่มที่กำลังสร้างความหรรษาให้แก่ตน จนเผลอแอ่นสะโพกรับอย่างลืมตัว เขาเห็นอย่างนั้นก็เพิ่มความเร็วของนิ้วจนร่างบางครางเสียงหลง
จุดรอยยิ้มบนปากหยักเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างที่บิดเบี้ยวของเธอ ที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นได้เห็น น่าแปลกที่ใจของชายหนุ่มกลับพองฟูเมื่อคิดเช่นนั้น ก้มมองน้ำสีขุ่นที่ไหลเยิ้มออกมาแล้วยกขึ้นดูแววตาคล้ายภูมิใจแต่ก็สงสัยอยู่ในที
“ไม่เคยช่วยตัวเองเหรอ” เห็นจำนวนของเหลวที่ไหลออกมาก็อดถามไมได้ ใบหน้าหวานแดงก่ำมากกว่าเดิม พยายามขืนตัวออกห่างแต่ก็เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาที่ยังคงบีบเคล้นดอกบัวงามเล่นอย่างสนุกสนาน
“ไม่ ปล่อย...” เสียงกระท่อนกระแท่นที่ตอบออกไป ทำให้ร่างสูงยิ่งเอ็นดูคนในอ้อมกอดมากกว่าเดิม เขาตัดสินใจขยับกายเข้าไปใกล้หล่อน จนแก่นกายชายถูไถกับบั้นท้ายงาม
“ฉันช่วยเธอไปแล้ว ถึงคราวเธอช่วยฉันบ้างล่ะกัน” พูดจบก็อุ้มเธอให้ลุกยืนถึงหญิงสาวจะขาสั่นก็ตาม ดันหล่อนจนชิดกับผนังกระจกห้องน้ำ แล้วจับเอวคอดเอาไว้ค่อยถูไถส่วนแข็งขืนเข้ากับร่องก้นของหล่อนโดยไม่ยอมสอดใส่
เริ่มขยับสะโพกขณะที่เอื้อมมือมากอบกุมทรวงอกนุ่มทั้งสองข้าง บีบเคล้นจนขึ้นรอยแดงพร้อมกับเปล่งเสียงครางทุ้มต่ำคล้ายสัตว์ร้ายซึ่งกำลังกัดกินเหยื่อตัวน้อยอย่างเอร็ดอร่อย แทบไม่ต้องใช้เวลานานน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกเปื้อนบั้นท้ายกลมกลึง พร้อมกับแรงที่รัดรอบเอวโอบแน่น ลมหายใจร้อนเป่ารดที่แผ่นหลังของเธอ มือหนาก็ปัดป่านไปทั่วเรือนร่างด้านบน
ไม่รู้ว่าห่างหายจากเรื่องอย่างว่าไปนานหรือเปล่า เพียงแค่ครั้งเดียวเขารู้สึกว่ามันไม่เต็มอิ่ม แล้วดูเหมือนฤทธิ์ของยาในร่างกายเธอก็คงไม่หมดไปง่ายๆ แต่การที่เขาทำแบบนี้ก็ถือว่าเลวทรามมากแล้ว
ฉะนั้นไม่ควรทำมากกว่านี้อีก...
เขาเตือนตัวเองอย่างนั้นแต่ก็รู้ดีว่าหักห้ามใจยาก เรือนร่างงดงามของคนที่อยู่ในความทรงจำอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ตนก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะทนได้ ยิ่งมองดวงหน้าหวานกับเสียงครวญครางแหบพร่าก็เตลิดอย่างง่ายดาย
และก่อนที่เขาจะทำบางสิ่งที่ไม่สมควร ชายหนุ่มก็เลือกหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบตัวหล่อนเอาไว้ แล้วอุ้มเธอไปนอนยังเตียงกว้างเพื่อปิดจบความต้องการทุกอย่าง กอดเธอเอาไว้ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าไม่ต่างกัน
พอตื่นเช้ามาคนที่นอนข้างกันก็หายไปแล้ว...
