บท
ตั้งค่า

๘ เรื่องน่าอับอาย (๓)

กวาดสายตาไปทั่วบริเวณพบว่าทุกคนเริ่มสนุกสนานกับงาน ต่างถือแก้วน้ำไว้ในมือแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่แค่น้ำผลไม้หรือน้ำหวานธรรมดา หล่อนเลิกจะสนใจคนรอบข้างแล้วยืนก้มหน้าภาวนาให้ตัวเองได้กลับบ้านสักที

“ผมขอขนมสักชิ้นหน่อยสิครับ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงทุ้มหวานที่ดังขึ้น เธอไม่ได้มองหน้าเขาทำเพียงหยิบขนมให้อีกฝ่าย กลายเป็นคนรับใช้ของสถานบันเทิงแห่งนี้ไปโดยปริยาย ชุดที่สวมอยู่ก็ซอมซ่อเหลือเกิน

อยากให้ตัวเองถูกไล่ออกไปจากที่นี่...เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว

“นี่ค่ะ” ยื่นให้เขาแต่กลับถูกคว้ามือเอาไว้ จึงเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องอย่างเอาเรื่อง แต่ดูเหมือนฝ่ายชายจะไม่สะท้านสักนิด

“ขอบคุณนะครับ...สวยขนาดนี้มีแฟนหรือยังนะ” เธอทำหน้านิ่งทันที กล่าวตอบเสียงแข็งใช้ความสัมพันธ์ที่เคยตกลงกับคีรีภัทรให้เป็นประโยชน์

“มีแล้วค่ะ มีแล้ว”

ถึงจะเป็นแค่การโกหกก็ตาม...

“เสียดายจังเลย อุตส่าห์อยากขายขนมจีบสักหน่อย เอาไว้ถ้าวันไหนแฟนเผลอก็ติดต่อมาได้ตลอดนะครับ ผมพร้อมเสมอ” ขนาดบอกชัดเจนว่าตัวเองมีแฟนแล้วยังถูกสายตากะลิ้มกะเหลี่ยจากคนไม่รู้จักจับจ้องจนนึกขยะแขยง

เธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้นแล้วคอยเสิร์ฟขนมให้แก่คนที่เดินเข้ามาหาไม่หยุด ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งอึดอัดมากเท่านั้น แค่อยู่กับนภานรีก็ทำให้หวั่นเกรงแล้ว ยังต้องอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคยอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกปล่อยให้กลับสักที

“ดื่มหน่อยสิ บริการเพื่อนฉันนานแล้วน่าจะหิวน้ำไม่ใช่เหรอ” คนที่ทิ้งเธอไปคุยสนุกกับเพื่อนเลือกจะเดินกลับมาแล้วยื่นน้ำให้เพชรแพรวา

“ขอบคุณค่ะ” รับมาถือเอาไว้แต่ไม่กล้าดื่ม

ไม่รู้ว่าน้ำในแก้วเป็นแอลกอฮอล์หรือเปล่า แต่พอเห็นว่านภานรีไม่ยอมเดินหลบไปทางไหน จ้องเธออยู่อย่างนั้นราวกับจะบอกว่าถ้าดื่มไม่หมดจะไม่ยอมเดินไปไหน จึงต้องยกแก้วขึ้นดื่มในรวดเดียวค่อยพรูลมหายใจโล่งอก ไม่ทันสังเกตมุมปากที่ยกยิ้มของคนตรงหน้า

“กลับบ้านเลยก็ได้นะ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เดี๋ยวฉันค่อยตามกลับทีหลัง นี่มันก็ดึกแล้วเธอต้องไปทำงานหรือเปล่าพรุ่งนี้” ถึงจะอายุน้อยกว่าแต่กลับทำเหมือนเป็นผู้ใหญ่กว่า นภานรีมักวางท่ายามอยู่ต่อหน้าเพชรแพรวาเสมอ

“ไม่ค่ะ วันหยุด” พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เธอสามารถนอนพักผ่อนทำงานอดิเรกอยู่บ้านได้

“งั้นก็ใช้วันพักผ่อนให้เต็มที่ นอนให้สุขสบายไปเลย” ไม่ได้สงสัยในคำพูดนั้นนอกจากพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะกระชับสายกระเป๋าสะพายให้มั่น วางแก้วลงบนโต๊ะก่อนมองประตูทางออกแววตาเป็นประกาย

จะได้กลับบ้านแล้ว...

ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่น่าแปลกที่การมองเห็นเริ่มลดลง ภาพพร่ามัวก็ลำคอแห้งผาก แล้วร่างกายที่เริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มหายใจแรงขึ้นกับอกที่กระเพื่อมขึ้นลง ใบหน้าหวานก้มมองพื้นพยายามสะบัดศีรษะไปมาเรียกสติให้ตัวเอง

โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวกลับมีผู้ชายสองคนเดินมาหิ้วปีกตน ถึงจะตกใจและพยายามผลักออกเท่าไหร่กลับไม่เป็นผล เหมือนเสียงทั้งหมดได้หายไป เรี่ยวแรงก็เช่นเดียวกันจนเธอตกใจกับการกระทำของตัวเองที่ยอมเดินตามอย่างง่ายดาย

เหตุการณ์ตรงหน้าดูเหมือนจะเป็นไปตามที่ลูกสาวคนกลางของบ้านภัทรเทวาต้องการ หล่อนจ้องผู้หญิงที่พรากความสุขไปจากตนด้วยแววตามุ่งร้าย ไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนจ้องมองการกระทำนั้นตลอด

ชั้นสองของสถานบันเทิงชื่อมีไว้สำหรับแขกพิเศษ ซึ่งวันนี้ถูกเหมาเอาไว้ทั้งชั้นเพื่อฉลองการกลับมาของนักธุรกิจผู้ครอบครองอาณาจักรกว่าหมื่นล้าน เจ้าตัวไม่ค่อยมีเวลาให้เพื่อนกว่าจะหาเวลาว่างได้ก็ผ่านมาหลายเดือน

ตอนแรกจะปฏิเสธไม่มาแล้ว แต่เพราะทุกคนคะยั้นคะยอจึงต้องตกปากรับคำ นั่งดื่มน้ำสีอำพันแล้วพูดคุยถึงเรื่องในอดีต โดยไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอเรื่องสนุกเข้าจนได้

ผู้หญิงคนนั้น...คงโดนอะไรบางอย่างเข้าไปสินะ

“นั่นนายจะไปไหน” ลุกจากโซฟาที่นั่งมาตลอดหนึ่งชั่วโมง วางแก้วของตัวเองไว้บนโต๊ะก่อนก้าวเท้าไปยังบันได คนที่เห็นจึงรีบท้วงเพราะงานเพิ่งเริ่มไปไม่นาน แต่เหมือนเจ้าของงานจะต้องการกลับบ้านเสียแล้ว

“ไปดูเรื่องสนุกสักหน่อย พวกนายดื่มตามสบายเลย...คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง” วางบัตรสีดำเอาไว้บนโต๊ะ ไม่ฟังคำค้านของเพื่อนก็เดินลงมาข้างล่างโดยไม่ได้เร่งรีบมากนัก ขึ้นนั่งบนรถเพื่อขับตามคันข้างหน้าไปยังโรงแรมสี่ดาวใกล้กับสถานเริงรมย์

โรงแรมนี้...เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่นี่น่า

เพียงแค่ชายหนุ่มให้คนอื่นเข้ามาบริหารไม่ได้นั่งทำงานเอง เพราะกิจการที่อยู่ในความดูแลก็งานล้นมือแล้ว

“สองคนนั้นเหมือนจะพาผู้หญิงไปทำมิดีมิร้าย ผมว่าถ้าไม่อยากให้โรงแรมโดนหางเลขไปด้วยควรพาเขาออกไปนะ” เดินเข้าไปหาพนักงานชายที่ยืนอยู่แผนกบริการส่วนหน้า ชี้ไปยังชายสองคนที่ประคองเอวผู้หญิงคนหนึ่งไว้ อาการของหล่อนคล้ายคนไม่มีสติ

“ครับ” เห็นท่าไม่ดีจึงพยักหน้ารับ แต่ตาก็ยังมองผู้ชายที่เข้ามาแจ้งเรื่องดังกล่าวคล้ายกังขา เขาเห็นอย่างนั้นจึงยื่นนามบัตรของตัวเองออกมา

“เปิดห้องพิเศษครับ” อย่างไรก็คงไม่ได้กลับบ้านอยู่แล้ว

เขามีห้องพักพิเศษที่นี่ไม่ได้ใช้มาหลายปีปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ วันนี้ขอเปิดพักหน่อยแล้วกัน

“คุณเพลิง!” แค่อ่านชื่อก็รู้ว่าเป็นใคร

เขาคือหุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมไงล่ะ!

ทุกอย่างดูวุ่นวายขึ้นมาทันทีเมื่อทราบถึงความยิ่งใหญ่ของคนตรงหน้า เขาโบกมือไปมาบอกไม่ให้ทำอะไรวุ่นวาย จากนั้นจึงเดินตามชายทั้งสองไปอย่างเงียบเชียบ สบโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังจะเปิดประตูเข้าห้องพักก็พุ่งหมัดใส่ไม่ยั้ง

เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที...ผู้ชายสองคนนั้นก็หมดสติอยู่หน้าห้อง

พนักงานรักษาความปลอดภัยจึงได้พาไปไว้ยังห้องพักที่สามารถล็อคจากข้างนอกตามคำสั่งเจ้านาย

ขณะที่หญิงสาวซึ่งคล้ายกับไม่ได้สติก็ถูกร่างหนาอุ้มด้วยท่าเจ้าหญิง เท้าหนักก้าวไปยังห้องพักของตนแล้วระงับอารมณ์บางสิ่งที่วิ่งพล่านในร่างกาย เพราะริมฝีปากอวบอิ่มเอาแต่แตะที่ลำคอของเขา แขนเรียวก็โอบรอบคอหนาเอาไว้ยามถูกอุ้ม

เธอ...กำลังทดสอบความอดทนกันหรือไง

“อื้อ คุณ...ฉัน ฉันร้อนไปทั้งตัวเลย” ไม่รู้ว่าหล่อนทราบหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรและเขาเป็นใคร ดวงตาของเธอพร่าเลือนคล้ายจะมองเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัดด้วยซ้ำ ถึงจะจ้องเขาแต่คล้ายกับมีหมอกหนากั้นเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel