บท
ตั้งค่า

๖ ชีวิตที่แตกต่าง (๒)

แต่เหมือนคุณวราลีจะไม่ได้ดุเหมือนเดิม กลับมีแววตาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แม่บ้านที่เห็นว่าเธอเดินออกไปจากครัวก็รีบหันไปพูดคุยกัน

“ช่วงนี้คุณท่านเรียกหาน้องแพรบ่อย สงสัยจะเริ่มชอบหลาน...น้องแพรขึ้นบ้างแล้วหรือว่าเหงาก็ไม่รู้เนอะ ขนาดลูกชายกับลูกสะใภ้กลับมาอยู่บ้านยังไม่ค่อยเรียกหาเท่าไหร่เลย อยากให้น้องแพรเป็นคนโปรดบ้างจัง”

คนในบ้านต่างหวังดีกับเด็กหญิงตัวน้อยที่เติบใหญ่เป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย อีกทั้งตอนนี้ยังคบหากับชายที่เพียบพร้อมอีกต่างหาก

ระหว่างที่ทำอาหารก็หันไปพูดคุยกันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เริ่มจากวันที่คุณท่านไม่สบายแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน จึงไม่มีทางเลือกมากนักต้องให้เพชรแพรวาปรนนิบัติ หลังจากนั้นก็เรียกใช้หญิงสาวบ่อยครั้งถึงจะมีแม่บ้านคนอื่นอยู่ใกล้ก็ตาม

คนในบ้านทราบดีถึงสถานะของเพชรแพรวา แต่คนข้างนอกหากไม่ใช่คนสนิทก็ไม่มีใครรู้ เพราะทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่าหล่อนคือเด็กที่คุณวราลีอุปถัมภ์เท่านั้น

ใครจะกล้าพูดว่าคุณผู้ชายเสียท่าให้เด็กรับใช้ในบ้านจนอีกฝ่ายตั้งท้องกันล่ะ...

“เรื่อง...” ป้าสมใจทนฟังสักพัก จึงได้หันไปจ้องหน้าอีกฝ่าย พร้อมเอ่ยเสียงเรียบแต่พูดได้แค่คำเดียวก็ถูกทุกอย่างพูดขัดอย่างพร้อมเพรียง

“ของเจ้านายอย่าไปยุ่ง...ทราบแล้วค่ะคุณหัวหน้าแม่บ้าน” ห้องครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แล้วเร่งมือทำอาหารเย็นเพื่อจะได้ขึ้นโต๊ะทันเวลา

ขณะที่ร่างบางซึ่งเดินเข้ามาในตึกใหญ่พยายามเดินเบาที่สุด เลี่ยงไปยังห้องเรือนกระจกที่ผนังกรุด้วยกระจกทั้งหลัง มองเห็นสวนดอกไม้ทั้งยังอยู่ใกล้สวนที่เนรมิตให้เป็นน้ำตก คล้ายกับอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติแต่ไม่ค่อยมีใครเข้ามาใช้ห้องนี้ยกเว้นคุณวราลีที่เริ่มอยู่ติดบ้าน

น่าเสียดายที่ห้องนอนของเธออยู่อีกฝั่งจึงไม่ค่อยได้เดินมาทางนี้เท่าไหร่ หญิงสาวพยายามอยู่แค่ในที่ของตัวเองไม่อยากเพ่นพ่านเดินไปรอบบ้านให้โดนเขม่น จึงใช้โอกาสนี้มองน้ำตกก็พอจะทำให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวแล้ว

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ความจริงอาจเรียกว่าแต่เกิดเลยด้วยซ้ำ นอกจากบ้านกับโรงเรียนแล้วเธอก็แทบไม่รู้จักสถานที่อื่นเลย โลกของหญิงสาวค่อนข้างแคบพอสมควร

“คุณท่านให้คนไปเรียกแพรมามีอะไรหรือเปล่าคะ” คลานเข่าเข้ามาหาท่าน

คุณวราลีนั่งอยู่บนโซฟาพลางหยิบยาหอมขึ้นมาดม เธอจึงถามเสียงเบากลัวรบกวนอีกฝ่าย นั่งพับเพียงแล้ววางมือบนตักอย่างเรียบร้อย

“อ่านต่อที่เหลือให้ฟังหน่อยสิ” หนังสือนิทานเวตาลเล่มเก่าถูกยื่นมาตรงหน้า ปากอวบอิ่มยกยิ้มเล็กน้อย

หยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่านจากที่เหลือให้จบ ท่านมักชมว่าเสียงของตนไพเราะแล้วการอ่านก็เว้นวรรคได้ดีเยี่ยมมีอารมณ์ร่วมกับเนื้อเรื่อง คนฟังจึงสนุกไปด้วย

“ค่ะ”

เริ่มอ่านหนังสือต่อจากที่ค้างไว้ ขยับเข้ามาใกล้ท่านมากกว่าเดิม ขณะที่เจ้าของบ้านเลือกจะเอนกายพิงพนัก หยิบถาดดอกมะลิมาวางบนตักก่อนจะเริ่มร้อยมาลัยพลางฟังนิทานโปรดไปด้วย ความจริงก็อ่านจบหลายรอบแล้ว เพียงแต่การฟังเพชรแพรวาอ่านเหมือนจะสนุกมากกว่าเดิม

เธอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการอ่านเนื้อหาที่เหลือจนจบ ก่อนปิดหนังสือพร้อมกับบอกท่านด้วยแววตาใสซื่อ จนคนที่กำลังร้อยมาลัยถึงกับมองนิ่ง

“จบแล้วค่ะคุณท่าน...” คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับทราบ

“มีงานในครัวหรือเปล่า”

“ไม่มีค่ะ” ส่ายหน้าเพราะตนไม่ได้มีงานอื่นแล้ว

เพียงแค่อยากรับประทานอาหารแต่จะให้พูดไปก็ไม่กล้า การที่ถามเช่นนี้คงมีเรื่องอื่นให้ช่วยอีก จึงได้นั่งอยู่ตรงนั้นต่อโดยเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่เหนือกว่าตัวเอง

“ร้อยมาลัยให้ฉันหน่อย พรุ่งนี้จะไปทำบุญกับแม่นีอยากจะเอาไปถวายพระ ร้อยสักพวงไหวไหม” ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนั้นมาก่อน แค่ท่านให้อ่านหนังสือให้ฟังก็น่าเหลือเชื่อแล้ว ครั้งนี้ยังยอมให้เธอร้อยพวงมาลัยกับท่านอีก หญิงสาวแทบไม่เชื่อหูตัวเองแต่ก็รับถาดมะลิมาไว้บนตัก

“ได้ค่ะ”

เริ่มร้อยมาลัยที่ได้รับการสอนอย่างดีจากวังบวรทัต สายตาของหญิงสูงวัยมองหลานสาวที่ไม่อยากยอมรับด้วยแววตาที่อ่อนลงมาก การเรียนในอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง จบมาก็ได้งานทำเลย ไม่เคยสร้างปัญหาสักครั้ง การบ้านการเรือนก็เก่งจนกำแพงที่เคยกั้นหนาลดลงมาบ้างแล้ว

เสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงภายในห้องไม่ให้เงียบจนเกินไป หล่อนร้อยมาลัยเพียงครู่เดียวก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ทำเป็นประจำด้วยความเคยชิน ท่านเองก็มองเพชรแพรวาอย่างเพลิดเพลิน มาลัยกรองตรงหน้าก็สวยจนนึกอยากชมแต่เลือกถามเรื่องอื่น

“ยังคบกับคีรีหรือเปล่า” มือบางชะงัก เธอหลุบตามองมาลัยตรงหน้าไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

“เอ่อ...” เสียงอยู่ในลำคอไม่สามารถเปล่งออกมาได้ ก่อนจะนึกถึงวันที่ตัดสินใจบอกชายหนุ่มไปตามตรงถึงความรู้สึกของตัวเอง

‘ขอโทษค่ะพี่คี แพรคิดกับพี่แค่พี่ชายจริงๆ เราคงเป็นมากกว่านั้นไม่ได้’ ชายหนุ่มทำตามที่บอกคือการรอแต่ก็ยังคงหมั่นมาหาเธอเสมอถึงจะเรียนหนักแค่ไหน กระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีจึงต้องไปใช้ทุนที่ต่างจังหวัด

เขาใช้โอกาสนี้มาถามเธอให้แน่ชัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราที่ควรจะพัฒนามากกว่าพี่น้อง กลับได้รับคำตอบเหมือนเดิม พร้อมแววตาเจือความรู้สึกผิดที่ไม่อาจคิดกับคีรีภัทรได้มากกว่าการเป็นพี่ชาย เธอไม่อยากหลอกชายหนุ่มจึงตัดสินใจพูดความจริง

‘ไม่ได้เลยเหรอ...แพรไม่ลองคิดดูให้ดีอีกครั้งล่ะ’ ยังคงเว้าวอนพร้อมมองหล่อนเหมือนต้องการให้เปลี่ยนใจ

แต่หญิงสาวแน่วแน่กับความรู้สึกของตัวเอง อีกทั้งเห็นแต่อุปสรรคในภายภาคหน้า จึงก้มหน้าพึมพำเสียงเบา ส่งความรู้สึกผิดไปถึงเขาจนร่างสูงเค้นยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง

‘ขอโทษค่ะ’

เธอทำได้เพียงขอโทษที่ไม่อาจคิดมากเกินพี่น้องกับคนตรงหน้าได้ ส่วนหนุ่มนักศึกษาแพทย์ก็พรูลมหายใจเสียงเบาคล้ายคนหมดแรง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel