บท
ตั้งค่า

๖ ชีวิตที่แตกต่าง (๑)

ชีวิตที่แตกต่าง

คำตอบที่เธอได้บอกเขาไปเมื่อหลายปีก่อนยังคงตามมาอยู่ในฝันของหญิงสาวไม่เปลี่ยน จำได้กระทั่งแววตาโศกเศร้าแต่ริมฝีปากยังยิ้มของคีรีภัทรได้ไม่ลืม หล่อนเองก็หนักใจเหมือนกันที่ต้องตอบคำนั้นกลับไป

แต่สำหรับเธอแล้วเขาคือพี่ชายแสนดีที่ไม่อยากเสียไป อีกทั้งหัวใจก็ไม่ได้สั่นไหวยามจ้องเข้าไปในแววตาคู่นั้น เธอไม่ต้องการหลอกเขาหรือหลอกตัวเอง ที่สำคัญคือรู้ดีว่าหากเรื่องของเราเข้าหูคุณโสมสุดา พฤกษ์ศักดาเข้าคงเป็นเรื่องใหญ่

คนอย่างเธอไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าได้หรอก เป็นแค่หญิงต่ำต้อยด้อยค่าไร้ราคาเพียงเท่านั้น ทราบดีว่าตนจะไม่ถูกยอมรับจากครอบครัวของชายหนุ่ม จึงไม่เคยคิดฝันไปไกลเกินกว่านั้น เจียมตัวอยู่ในที่ของตัวเอง

เคารพความเป็นตนและยังคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีที่มีมาตลอด...

‘ขอโทษนะคะ คือว่าแพร…’ คำตอบนั้นทำให้เขารู้ดีว่าประโยคต่อมาที่เธอจะเอ่ยคืออะไร แววตาของหญิงสาวที่มองมามันแน่ชัดแล้วว่าเธอไม่เคยคิดอะไรกับเขาเลยสักนิด ทว่าคีรีภัทรกลับเลือกแทรกขัดพร้อมรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตา

สารภาพรักครั้งแรกกับคนที่แอบรักมาหลายปี ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายตัวเองอาจไม่สมหวังก็อยากลองดูสักครั้ง รักมันล้นอกจนไม่อาจเก็บไว้คนเดียวได้อีกต่อไป สบโอกาสจึงมัดมือชกเธออย่างคนขี้แพ้ พร้อมประวิงเวลาเพื่อให้เราได้อยู่ในสถานะนี้ต่อไปในสายตาคนอื่น

ถึงจะเป็นแค่แฟนจอมปลอมก็ตาม

‘ไม่ต้องให้คำตอบพี่ตอนนี้ก็ได้ พี่จะรอวันที่แพรพร้อม...พี่รอเก่งอยู่แล้ว’ พูดจบก็ยื่นเค้กที่อยู่ในกล่องให้เธอ แล้วหันหลังเดินออกจากบ้านภัทรเทวาโดยไม่อยู่รอฟังคำค้านสักนิด หญิงสาวพรูลมหายใจหนักอก ก้มมองเค้กแล้วก็ทำได้เพียงนั่งกินอยู่หน้าบ้านลำพัง

เรื่องของณพลกับนภานรีไม่ได้สำคัญอีกต่อไป เมื่อเธอคิดถึงเรื่องของพี่ชายข้างบ้าน ซึ่งนับแต่นี้ต่อไปเราอาจจะไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน คำพูดของเขาที่ไม่อาจหวนกลับ ความรู้สึกอึดอัดของเธอที่มียามเผชิญหน้ากับชายหนุ่มก็เช่นเดียวกัน

ทำไมเรา...ถึงต้องมีความรักด้วยล่ะ

เพราะหญิงสาวไม่เคยตกหลุมรักจึงไม่อาจเรียนรู้คำว่ารัก ทำได้เพียงถอนหายใจก่อนมองต้นมะม่วงหน้าห้องที่มีเพียงใบสีเขียวแต่ไร้ผล

ไม่รู้ทำไมหลังเกิดเหตุการณ์ถูกชายแปลกหน้าตกต้นไม้ล้มทับถึงได้ชอบนั่งมองมันนัก สิ่งที่น่าประหลาดกว่าคือมันทำให้หัวใจเธอกลับมาเต้นอย่างสงบได้เพียงแค่มอง ก่อนแววตาของเขาจะผุดขึ้นจนต้องรีบสลัดความคิดนั้นออก

เธอทำได้เพียงถอนหายใจกับเรื่องวุ่นวายที่พบเจอ

อีกไม่นานมันก็จะจบลง แล้วเธอก็ใช้ชีวิตไปเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

ทุกอย่างเป็นไปตามที่หญิงสาวคิดเอาไว้ เธอไปมหาวิทยาลัยในเช้ามืดแล้วกลับถึงบ้านตอนค่ำ หลีกเลี่ยงการพบเจอกับเพื่อนสนิทของนภานรี ทั้งยังพยายามกลับมาเป็นน้องสาวคนเดิมของคีรีภัทร แต่เขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากเป็นแค่พี่ชายของเธอ

คนอื่นก็เข้าใจไปด้วยว่าเราสองคนคบกัน...จากคำโกหกของว่าที่คุณหมอ

“น้องแพรกลับมาแล้วเหรอลูก” เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเพชรแพรวาเดินเข้ามาในห้องครัวโดยที่ยังสวมเสื้อเชิ้ตเข้ารูปกับกระโปรงเข้ารูปสีดำยาวเลยเข่าลงมาเล็กน้อย

เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยได้สองปีแล้ว ทั้งยังได้ทำงานด้านบัญชีที่บริษัทขนาดเล็กใกล้บ้านซึ่งพี่สาวเป็นคนฝากให้ด้วยตัวเอง นอกจากบริษัทกับบ้านแล้วเธอก็แทบไม่ได้ไปไหนเลยด้วยซ้ำ การเดินทางไม่ได้เหนื่อยเหมือนไปมหาวิทยาลัย ทั้งยังประหยัดค่าอาหารการกินเพราะห่อไปเองทุกวัน

ชีวิตเรียบง่ายของหล่อน...

ป้าสมใจกับแม่ครัวที่เธอสนิทสนมยังคงกลมเกลียวกันเหนียวแน่น สิ่งหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวยังคงอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปคือทุกคนดีกับเธอ เป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ไปแล้ว หากต้องออกไปอยู่ลำพังคงคิดถึงคนที่นี่มากแน่ๆ

โดยเฉพาะป้าใจที่ดูแลหล่อนมาแต่เด็ก เป็นเหมือนตัวแทนของยายผู้ล่วงลับ แล้วอย่างนี้จะกล้าทิ้งนางแล้วไปอยู่ลำพังได้อย่างไร

ถึงจะถูกแกล้งจากนภานรี โดนคุณผู้หญิงคุณผู้ชายเกลียด แต่อย่างน้อยก็ยังได้รับความรักและการเอาใจใส่จากป้าแม่บ้าน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับตนแล้ว

“ค่ะ วันนี้งานเสร็จเร็วกว่ากำหนดก็เลยได้กลับบ้านเร็ว มีอะไรให้กินหรือเปล่าคะตอนนี้หิวจนกินช้างทั้งโขลงได้แล้ว แต่ว่าอยากกินฝีมือของป้าใจมากกว่า” ตรงเข้ามากอดที่เอวนุ่มของคุณป้าที่เริ่มมีร่องรอยแห่งวัยมากกว่าเดิม ผมก็เริ่มขาวจนเธออาสาจะย้อมสีให้กลับมาดำขลับเป็นสาวเหมือนวันวาน

หอมแก้มหัวหน้าแม่บ้านแล้วกลับมานั่งปอกลำไยกินอย่างเอร็ดอร่อยที่โต๊ะกลาง มองพี่แม่บ้านคนอื่นที่กำลังเริ่มเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำมื้อเย็นของเจ้านาย

คุณบุริศร์กลับมาบ้านก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เดินสายเยี่ยมเยียนเพื่อนทั้งยังลงทุนธุรกิจร่วมกัน บางครั้งก็รับสอนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชั่วคราว ส่วนคุณชวาลินีก็เข้าไปช่วยงานในมูลนิธิสำหรับผู้หญิงไม่ได้อยู่ติดบ้านเช่นเดียวกัน

แต่สิ่งที่ทำให้เธอดีใจคือน้องสาวตัวปัญหาอย่างนภานรีย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียมในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แทบจะไม่ค่อยกลับบ้านทำให้เวลาสี่ปีที่ผ่านมาของเธอค่อนข้างสงบสุข

อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป...

“ของกินเยอะเลย เดี๋ยวป้าจะทำให้พิเศษเลยนะ” มักจะแบ่งอาหารมาให้หลานสาวคนโปรดเสมอ

นางมองเพชรแพรวาเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว รักยิ่งกว่าลูกสาวเสียอีก จึงไม่แปลกที่คนในครัวจะบอกว่าหล่อนเป็นลูกของป้าใจไปเรียบร้อย

“ค่ะ”

นั่งเล่นสักพักก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของป้าสมใจ เพราะห้องเธอไม่มีห้องน้ำ ยามอยากใช้ก็ต้องไปที่ห้องของคุณป้า ส่วนยามกลางคืนถ้าอยากใช้สุขาก็มีห้องน้ำรวมของแม่บ้าน จึงไม่ได้ลำบากมากนัก อีกอย่างเธอก็ชินไปแล้วด้วย

สวมเสื้อคอบัวผ้าโปร่งลายจุดกับกางเกงขายาวออกมาเตรียมรับประทานอาหาร แต่กินไปได้สองสามคำก็มีแม่บ้านเดินมาเรียกหล่อนให้ขึ้นตึกใหญ่ มือบางจึงชะงักแล้วรีบดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว

“น้องแพร คุณท่านเรียกขึ้นไปพบ” ช่วงหลังเหมือนคุณวราลีจะเรียกเธอขึ้นไปรับใช้บนตึกใหญ่บ่อยกว่าปกติ ยังดีที่ท่านเรียกตอนคนอื่นอยู่ข้างนอก ไม่เช่นนั้นคงโดนค่อนขอดไม่หยุด

“ค่ะ แพรจะไปเดี๋ยวนี้...แล้วจะรีบลงมากินนะคะ” หันไปบอกหัวหน้าแม่บ้านแล้วค่อยล้างมือให้สะอาดก่อนเดินออกจากครัวเพื่อขึ้นไปยังตึกใหญ่ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง อยู่ต่อหน้าท่านก็ยังเกร็งเหมือนเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel