บท
ตั้งค่า

๔ ปัญหาเข้ามาไม่หยุด (๒)

เรื่องน่าอายแบบนั้นจะกล้าเล่าให้คนอื่นฟังได้ยังไงกัน!

“ยุงกัดค่ะเลยเกาแรงไปหน่อย หนูขอไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ อ่านจบแล้วจะออกมาช่วย...” ใช้ห้องครัวเป็นที่หลบภัยมาหลายชั่วโมงแล้วจึงอยากกลับห้องของตัวเอง แต่ก็อยากช่วยงานครัวจึงพยายามแบ่งรับแบ่งสู้

“ไม่ต้องลูก ไปอ่านหนังสือเถอะ งานแค่นี้ทำแปบเดียวก็เสร็จแล้ว” ถูกไล่ออกจากห้องครัวจนได้เข้ามานั่งเหม่อในห้องนอนของตัวเองที่บัดนี้แฝงไปด้วยความอบอุ่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีโซฟานุ่มที่ทำจากไม้ไม่ใช่แล้วโดยคุณลุงคนสวนเป็นคนทำให้หลานสาวโดยเฉพาะ เอาไว้นั่งเล่นในห้องนอนทั้งยังอยู่ติดหน้าต่างสามารถเปิดม่านออกมาชมสวนได้

ร่างบางทรุดกายลงนั่งบนโซฟา ค่อยนั่งชันเข่าแล้วกอดขาเอาไว้พร้อมถอนหายใจเสียงดัง หัวใจเต้นรัวยามนึกถึงดวงตาที่ทำให้เธอดำดิ่งเข้าในโลกไม่คุ้นเคย พลันใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ รีบก้มหน้าซุกลงที่เข่าทันที

มันก็แค่อาการข้างเคียงจากการใกล้ชิดเพศตรงข้ามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเท่านั้นแหละ

ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก!

เพชรแพรวาบอกตัวเองแล้วรีบลุกจากโซฟาเพื่อหยิบหนังสือนวนิยายสืบสวนมาอ่านให้ลืมเรื่องทั้งหมด เธอใช้ยางรัดผมเส้นใหม่รวบผมที่ยาวประบ่ามันเป็นหางม้า ค่อยล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง เริ่มตั้งสมาธิอ่านหนังสือตรงหน้า ไม่นานก็ดำดิ่งสู่เนื้อเรื่องน่าตื่นเต้น ลืมช่วงเวลายามได้สบตากับเขาที่คล้ายหยุดโลกของเธอไปทั้งใบ

กาลเวลาทำให้เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเพียงแค่อดีต เมื่อเหตุการณ์ที่พบเจอในแต่ละวันทำให้ความทรงจำของตนที่มีต่อเขาถูกลบเลือนไป เธอก็กลับมาใช้ชีวิตปกติที่ตื่นเช้ามาใส่บาตรแล้วเร่งรีบขึ้นรถเพื่อไปให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยไม่ลืมห่ออาหารกลางวันไปกินด้วยกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

นักเรียนชั้นมอสี่ในวันนั้น เลื่อนชั้นขึ้นมอห้าในวันนี้พร้อมกับผลการเรียนซึ่งเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก เธออาจไม่ได้ครองที่หนึ่งของชั้นเรียนเหมือนพี่สาว แต่อันดับก็ไม่ได้ตกเกินที่สิบ เกรดเฉลี่ยก็อยู่ในเกณฑ์ดีน่าพึงพอใจ

“แย่แล้วล่ะแพร” คาบแรกผ่านไปอย่างน่าเบื่อ ระหว่างที่คุณครูยังไม่เข้ามาเสียงในห้องก็เริ่มดังขึ้นเมื่อทุกคนหันมาพูดคุยกันราวนกแตกรัง หม่อมหลวงคนสวยก็โอดครวญเสียงเบาพร้อมหันมามองคนที่นั่งข้างกัน

“ผ้าที่เธอปักให้ฉันน่ะ...คุณหญิงป้ารู้แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือของฉัน” เจ้าตัวพูดจบก็ปิดหน้าคล้ายจะร้องไห้

การกลับเข้าไปอาศัยในวังทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรอบที่เรียกว่าขนบธรรมเนียม ผู้หญิงต้องเรียนรู้งานบ้านงานเรือนไม่ว่าจะร้อยมาลัย เย็บปักถักร้อยหรือการเรียนมารยาทที่แสนน่าเบื่อ คล้ายย้อนไปสมัยปลายอยุธยาไม่ก็ต้นรัตนโกสินทร์ ถึงพยายามค้านเพียงไรก็ไม่อาจขัดใจคนที่ดูแลตนเองได้

กระทั่งบุพการีของเธอยังไม่อาจมีปากเสียงกับคุณหญิงป้าที่กุมอำนาจทุกอย่างเอาไว้ในมือ ตนจึงต้องมานั่งเรียนเรื่องที่ไม่ถนัด และไม่ว่าจะเรียนนานเท่าไหร่ก็เป็นแค่เรื่องน่าเบื่อเสมอ

“ไม่แปลกหรอกที่จะรู้...ฉันก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวสอนให้เอง เธอน่ะไม่ยอมเรียนรู้” สนิทสนมจนกลายเป็นสามารถต่อปากต่อคำได้แล้ว หยาดดาราพรูลมหายใจเสียงดังแล้วยกมือขึ้นยีศีรษะจนผมด้านหน้าชีฟูเล็กน้อย

“ก็มันยากนี่น่า! เข็มชอบทิ่มมือจนเลือดออกประจำเลย งานอะไรก็ไม่รู้ยากชะมัด ฉันมันพวกใจร้อนด้วยทำงานแบบนี้ไม่ได้หรอก” เพราะเหตุนี้จึงไม่อยากเข้าไปอยู่ในวังกับคุณหญิงป้า ขยาดกับความเป็นราชนิกุลสูงศักดิ์ต่างจากนิสัยเป็นลิงทโมนของเธอ

ให้ไปปีนต้นไม้ยังง่ายกว่าเย็นปักถักร้อยเลย แค่คิดก็อยากทึ้งหัวตัวเองแกล้งบ้าให้รู้แล้วรู้รอด เพชรแพรวาเห็นอย่างนั้นก็นึกขำจึงถามด้วยความเป็นห่วง จำได้ว่าครั้งก่อนที่ร้อยมาลัยไม่สวยดังใจคุณหญิงป้าสักทีก็โดนทำโทษให้นั่งร้อยมาลัยอยู่แบบนั้นจนเข็มทิ่มนิ้วพรุน ไม่รู้ตอนนี้จะโดนอะไรอีกไหม

“แล้วโดนทำโทษหรือเปล่า”

“ไม่ แต่คุณหญิงป้าอยากชวนเธอไปที่วัง บอกว่าชอบงานฝีมือของเธอ...ไปนะ เดี๋ยวฉันจะพาทัวร์บ้าน...วังเอง” เปลี่ยนท่าแล้วรีบเข้ามากอดแขนเพื่อนเอาไว้ อยากชวนเพชรแพรวาไปเที่ยวที่วังของตนนานแล้ว สบโอกาสจึงรีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว ขณะที่เจ้าตัวมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก

“แต่ว่า...คนที่บ้านฉันคงไม่อนุญาตหรอก” แค่มีเพื่อนสนิทเป็นหม่อมหลวงก็ถูกนภานรีค่อนขอดอยู่ทุกวัน หากไปเยี่ยมถึงวังก็ไม่แคล้วอาจโดนกลั่นแกล้งอีกก็เป็นได้ สีหน้ากังวลของหล่อนฉายชัดจนหม่อมหลวงยิ้มกริ่ม

“ไม่เป็นปัญหา ฉันจะให้คุณหญิงป้าจัดการเอง” คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้เธอเชื่อเท่าไหร่

แต่ไม่นานคุณวราลีก็อนุญาตให้ไปเยือนวังบวรทัตได้โดยย้ำเตือนถึงมารยาทขั้นพื้นฐาน ห้ามทำให้เสียชื่อเสียงของตระกูลภัทรเทวาเป็นอันขาด

การไปครั้งนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้งานบ้านงานเรือนฉบับชาววัง กลายเป็นต้องไปเรียนทุกเสาร์อาทิตย์จนเป็นคนโปรดไปโดยปริยาย ซึ่งหม่อมหลวงหยาดดาราดีใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคุณหญิงป้าชอบเพื่อนของเธอและพยายามถ่ายทอดวิชาต่างๆ ก็จะไม่ได้ให้ความสนใจหลานสาวหรือเคี่ยวเข็ญงานฝีมืออีกต่อไป

รอดตัวแล้ว...

บ้านภัทรเทวาไม่ค่อยได้ต้อนรับแขกบ่อยนัก ตั้งแต่ว่าที่คู่หมั้นของลูกสาวคนโตมาเยือนก็แทบไม่เปิดบ้านต้อนรับใครอีกเลย มีเพียงเพื่อนของนภานรีที่ค่อนข้างมาบ่อย ซึ่งเพชรแพรวาก็มักจะขลุกตัวในห้องของตัวเอง

ไม่ว่าใครจะมาเธอก็ต้องทำตัวให้จืดจางที่สุด...

ใกล้ช่วงสอบจึงใช้เวลาอ่านหนังสืออยู่บ้าน คุณหญิงป้าของหยาดดาราเสียดายที่ไม่ได้เจอลูกศิษย์คนโปรด เธอช่วงชิงตำแหน่งหลานรักจากเพื่อน นึกกลัวอีกฝ่ายอาจจะโกรธแต่กลับไม่เป็นแบบนั้น เหมือนเจ้าตัวจะดีใจเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องถูกจับไปเรียนงานชาววังที่ไม่ถนัดเลยสักอย่าง

เรื่องราวกำลังจะผ่านไปเหมือนทุกวัน เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา โชคดีที่เรียนหญิงล้วนจึงไม่มีเรื่องผู้ชายมากวนใจ เพศตรงข้ามที่สนิทสนมด้วยก็คงมีแค่ลุงคนสวนกับคนรถของบ้านหลังนี้

อ่ะ...ลืมคีรีภัทรไปเสียสนิท

เขากลายเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอไปแล้วเมื่อยอมให้ยืมหนังสือนิยายเล่มโต ได้ติดต่อกันบ้างผ่านทางอีเมลซึ่งเธอไม่ค่อยว่างตอบเท่าไหร่ ความจริงก็แทบไม่ค่อยใช้อินเตอร์เน็ตเลยด้วยซ้ำ กลัวจะกลายเป็นบุญคุณให้ต้องตอบแทน

โน้ตบุ๊กที่ได้มาก็จากความกรุณาของพี่สาว ตอนแรกเธอปฏิเสธไม่ขอรับ แต่นภาลดาบอกว่าเป็นของเก่าที่กำลังจะทิ้งอยู่แล้ว จึงจำต้องรับมาด้วยความซาบซึ้ง ได้ใช้ทำรายงานส่งคุณครู ในใจจึงยิ่งนับถือคุณหนูคนโตของบ้านเพิ่มมากกว่าเดิม

“ขอน้ำเพิ่มหน่อยครับ” เธอออกจากห้องเพื่อมาช่วยแม่บ้านทำขนมเสิร์ฟแขกของนภานรี เพราะแม่บ้านบางคนจำต้องติดสอยห้อยตามคุณวราลีไปทำอาหารแจกเด็กกำพร้า ตามโครงการล่าสุดที่ท่านร่วมทำขึ้นกับเพื่อน บ้านหลังนี้จึงเหลือคนไม่มาก มีอะไรช่วยได้ก็ต้องช่วยกันไปก่อน

หล่อนเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าแต่ส่วนสูงกลับแซงหน้า ตอบรับอย่างสุภาพพร้อมทั้งเว้นระยะห่างชัดเจน

“ค่ะ” รินน้ำหวานใส่แก้วให้เขา พร้อมวางบนถาดทั้งหมดห้าแก้วตามจำนวนคนที่มาบ้าน กำลังจะเบี่ยงกายเพื่อนำเข้าไปเสิร์ฟกลับต้องชะงักเมื่อคนตรงหน้าเอื้อมมาคว้าถาดเอาไว้ โดยที่วางมือทับกับมือของเธอ จนร่างบางรีบปล่อยถาดนั้นอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel