บท
ตั้งค่า

๒ สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย (๓)

เวลาผ่านไปทำให้เด็กหญิงคนนั้นเติบโตเป็นสาวสวย ผมสั้นเพียงติ่งหูตามกฎระเบียบของโรงเรียน ไม่ได้บดบังใบหน้าอันงดงามกับผิวขาวเนียนได้เลย นับวันหล่อนยิ่งสวยจนชายในโรงเรียนต่างเข้ามาทำความรู้จัก แต่เพชรแพรวาก็ขีดเส้นชัดเจนว่าให้เป็นแค่เพื่อนหรือรุ่นพี่ ไม่คิดสานต่อเนื่องจากเกรงเรื่องจะไปถึงหูของคุณผู้ชาย

ยังจำสายตาของคุณบุริศร์ยามมองตนได้เสมอ มีทั้งความรังเกียจเหยียดหยามและกล่าวโทษทุกขณะ คำพูดปรามาสที่บอกว่าอีกไม่นานหล่อนอาจจะท้องไม่มีแม่ เหมือนผู้หญิงใจหยาบที่กล้าทำลายครอบครัวคนอื่น

เธอไม่อยากให้คำดูถูกเป็นความจริง จึงตีกรอบตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มีแฟนถ้าชีวิตยังไม่ประสบความสำเร็จ มุ่งเรียนหนังสืออย่างหนักได้เกรดเฉลี่ย 4.00 และลำดับที่หนึ่งทุกเทอม สร้างความภาคภูมิใจแก่ป้าสมใจที่เลี้ยงดูหนูน้อยเป็นอย่างดี

อีกไม่กี่เดือนเด็กหญิงคนนี้ก็จะเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาวแล้ว...เติบโตขึ้นอีกก้าว

“อะไรกัน ทำไมพี่ลดาต้องให้มันมาเรียนโรงเรียนเดียวกับเราด้วย! นรีไม่ยอมนะคะคุณย่า ไม่เด็ดขาดค่ะ!” ร่างบางนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น มือประสานไว้บนหน้าตักเมื่อได้รับคำสั่งให้มาหาคุณท่านบนตึกใหญ่ที่เหยียบย่างเข้ามานับครั้งได้

ส่วนมากเธอจะขลุกอยู่ที่ห้องของตัวเอง ไม่ก็ครัวหลังบ้านและสวนด้านหลัง พื้นที่ของเธอมีจำกัดแต่ก็ไม่ได้อึดอัดในความรู้สึก สิ่งที่ทำให้อึดอัดก็คือการขึ้นมาบนตึกโอ่อ่าแห่งนี้ต่างหาก แค่หายใจยังรู้สึกลำบากเลย

อยากรีบคุยรีบเสร็จแล้วออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

แต่ดูท่าจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อนภาลดาเป็นคนเอ่ยขอร้องคุณวราลีว่าหลังจากเพชรแพรวาเรียนจบมัธยมต้นที่โรงเรียนใกล้บ้าน อยากให้น้องสาวมาเรียนด้วยกันที่โรงเรียนเอกชนหญิงล้วน ซึ่งค่าเทอมค่อนข้างแพงและเข้ายาก นอกจากผู้ปกครองจะเป็นศิษย์เก่าหรือให้เงินค่าทำนุบำรุงการศึกษาเล็กน้อย

ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณท่านที่มีเพื่อนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน การจะฝากเด็กคนหนึ่งเข้าไปแสนง่ายดาย

“คุณย่าคะ ลดาอยากให้น้องได้เรียนตามความสามารถของตัวเอง แพรเป็นคนเก่งค่ะ ถ้าน้องได้เรียนที่นี่จะต้องเก่งมากกว่าเดิม ให้น้องมาเรียนกับเราเถอะนะคะ...คุณย่าจะหักค่าเทอมจากเงินประจำวันของลดาก็ได้ค่ะ” คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีบอกอย่างแน่วแน่ กระทั่งเพชรแพรวายังต้องตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องที่คุยกับพี่สาวจะเป็นจริง

โรงเรียนเอกชนหญิงล้วนชื่อดังของเมืองหลวง ใครบ้างจะไม่รู้จัก ถือเป็นสถานบันมีชื่อเสียง คนที่เข้าศึกษาก็ล้วนเป็นลูกท่านหลานเธอมีเงินถุงเงินถังทั้งนั้น คนอย่างเธอไม่มีโอกาสกระทั่งจะเดินผ่านหน้าโรงเรียนด้วยซ้ำ แต่ไม่คิดว่านภาลดาจะเสนอให้ไปเรียนด้วยกัน

“พี่ลดา!!” คนค้านหัวชนฝาคือนภานรี ตะโกนเสียงดังจนคุณย่าถึงกับหรี่ตามองหลานสาวคนเล็กที่ตนเป็นผู้ดูแล

“เอาล่ะ ไม่ต้องเสียงดังหรอกนรี...ย่าไม่ว่าอะไรถ้าลดาต้องการอย่างนั้น แต่เด็กคนนี้จะสอบเข้าได้หรือเปล่าล่ะ” การปรามก็ยังใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างอ่อนโยน ไม่เหมือนยามพูดกับเธอสักนิด ร่างบางเก็บความน้อยใจเอาไว้ กุมมือบนหน้าตักแน่นแล้วพยายามก้มหน้าไม่สบตาใคร ฟังคุณวราลีคุยกับหลานคนโปรดอย่างนภาลดา ค่อยปรายตามามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้น

“เอ่อ หนูอยู่โรงเรียนเดิมก็ได้นะคะ” ไม่อยากให้เกิดเรื่องราว จึงบอกเช่นนั้นก็ถูกสนับสนุนความคิด พร้อมกับประโยคที่เต็มไปด้วยการจิกกัด

“เห็นไหมพี่ลดา คนมันใฝ่ต่ำไม่อยากก้าวหน้าก็ช่างมันเถอะจะไปสนใจทำไม อีกอย่างมันไม่มีทางสอบได้หรอก ที่หนึ่งโรงเรียนบ้านนอกก็เหมือนที่สุดท้ายของโรงเรียนเรานั่นแหละ อย่าไปสนใจเลย” กอดหมอนแล้วยิ้มกว้าง ก่อนมุมปากจะเป็นเส้นตรงยามสบตากับคุณย่าที่จ้องอย่างเอาเรื่อง

“นรี ไปเรียนรู้คำพูดพวกนั้นมาจากไหน หยาบคาย...ย่าไม่ชอบ” พ่อแม่ก็เป็นผู้ดี ไม่รู้ว่าหลานคนนี้ไปได้คำพูดคล้ายพวกแม่ค้าปากตลาดมาจากไหน กระนั้นก็ไม่อยากสนใจมากนัก เลือกจะมองผู้อาศัยที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ตอบโต้ เห็นแล้วก็นึกขัดลูกตา

“ขอโทษค่ะคุณย่า” ตอบเสียงเบาแล้วปล่อยให้ผู้ใหญ่จัดการเรื่องทั้งหมด

“ไปสอบดูแล้วกัน ถ้าผ่านฉันจะส่งเสียเอง...นี่คือคำสั่ง” ท่านไม่ต้องการให้เพชรแพรวาคัดค้านจึงบอกท้ายประโยคเสียงเข้ม เธอจำต้องตอบรับอย่างเดียว พร้อมกับความมุ่งมั่นที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ท่าทีสงบ

“ค่ะคุณท่าน”

ในเมื่อคุณวราลีพูดเช่นนั้น เธอเองก็มีความทะเยอทะยานในการเรียนเช่นเดียวกัน คงไม่ผิดหากจะคว้าโอกาสเอาไว้

แต่นั้นเป็นต้นมาหญิงสาวจึงตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนัก ว่างจากช่วยงานครัวหรือทำการบ้านก็เอาหนังสือมาอ่านทบทวน ฝึกทำข้อสอบย้อนหลังหลายปีที่ไปซื้อกับป้าสมใจ วันไปสอบก็มีลุงช่วยขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งถึงป้ายรถเมล์แล้วเธอหาทางไปเอง

หัวใจเต้นรัวยามเข้าสอบและข้อสอบอยู่ตรงหน้า เธอหลับตาแล้วนึกถึงยายผู้ล่วงลับ หวังให้ท่านเป็นกำลังใจในการทำข้อสอบครั้งนี้ เธอคิดว่าอย่างไรก็ต้องผ่านไปได้แน่นอน

คำสบประมาทของลดานรียิ่งสร้างความฮึกเหิม ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสอบเข้าที่นี่ให้ได้!

“สอบผ่าน! แสดงว่าน้องแพรก็จะได้ไปเรียนที่เดียวกับคุณลดาคุณนรีเหรอคะ เก่งที่สุดเลยน้องแพร พี่บอกแล้วว่าต้องสอบผ่าน” ข่าวดีที่ได้รับเธอก็ไม่รอช้ารีบไปบอกพี่สาวที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้ไปเรียนที่เดียวกัน นภาลดาดีใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันคุณวราลีก็บอกจะพูดกับเพื่อนเรื่องรับเธอเข้าเรียน มีเพียงน้องสาวที่ทำกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ

ส่วนคนในครัวต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับเธอ เป็นรางวัลตอบแทนคนขยันที่ตั้งใจเรียนมาตลอด ไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กน้อยคนนั้นจะได้เข้าโรงเรียนชื่อดังกับเขาด้วย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่ใช่มีเงินก็เข้าได้ แต่ต้องมีเส้นสายความน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกท่านหลานเธอ คุณหนูตระกูลดังทั้งนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel