บท
ตั้งค่า

๒ สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย (๒)

“เอะอะเสียงดังอะไรกัน อย่างกับอยู่ในตลาดสด ไม่มีความสำรวมบ้างเลย” น้ำเสียงเนิบช้ากับแววตาตำหนิ ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกจากประสานมือไว้หน้าขาแล้วก้มศีรษะรับคำเจ้าของบ้าน เพชรแพรวาก็ทำไม่ต่างกัน

เธอไม่กล้าสู้สายตาคุณท่านของบ้านภัทรเทวา รู้สึกว่าจ้องทีไรก็เหมือนตนต่ำต้อยด้อยค่ายิ่งกว่าฝุ่นผงเสียอีก

“เปล่าค่ะคุณท่าน...” เด็กน้อยตอบเสียงเบา ก่อนบรรยากาศจะตึงเครียดมากกว่านี้ หัวหน้าแม่บ้านคนโปรดของคุณวราลีตัดสินใจเดินไปหยุดตรงหน้าท่าน พร้อมถามเสียงนุ่มกับอาการนอบน้อม ไม่อยากให้ทุกคนต้องการลำบากคาดเดาอารมณ์ของคนตรงหน้า

“ผลสอบของแพรออกแล้วค่ะคุณท่าน ได้ที่หนึ่งค่ะ” ใบหน้าของคุณวราลียังเรียบเฉยไม่เปลี่ยน ไม่ได้ยินดียินร้าย กลับเลือกจะเหลือบมองเด็กหญิงที่ก้มหน้าก้มตามองพื้นกระเบื้องแววตาของท่านเต็มไปด้วยความเย็นชา

“โรงเรียนแบบนั้นได้ที่หนึ่งก็ไม่แปลกหรอก ต่อให้โง่แค่ไหนก็คงผ่านได้ง่ายนั่นแหละ...สวย มานวดหลังให้ฉันที่ห้อง” ไม่แสดงความยินดียังเลือกทำร้ายความพยายามทั้งหมดของเด็กน้อย ดวงตากลมสั่นไหวขณะที่ค่อยเงยหน้าขึ้นเพื่อมองแผ่นหลังของท่านที่ห่างออกไปไกล

“ค่ะคุณท่าน”

แม่บ้านคนดังกล่าวตบไหล่เด็กน้อยเป็นการปลอบ แล้วรีบเดินตามคุณท่านอย่างรวดเร็ว คนที่เหลือจึงรีบแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง มีเพียงป้าสมใจที่ลูบศีรษะมนแล้วเอ่ยชมอีกครั้งเพื่อไม่ให้เด็กเสียกำลังใจ

“เก่งมากนะคะน้องแพร เก่งที่สุดแล้ว”

“ขอบคุณค่ะป้าใจ” กลับมายิ้มกว้างได้อีกครั้ง ลบเลือนความรู้สึกเศร้าจากการถูกกดให้ต่ำที่คุณวราลีทำเมื่อครู่ หัวหน้าแม่บ้านเห็นดังนั้นก็หยิบของขวัญที่อุตส่าห์ซื้อไว้มอบให้หนูน้อย เตรียมเอาไว้ก่อนผลสอบจะออก ไม่ว่าเพชรแพรวาจะได้ลำดับเท่าไหร่ นางก็ยังจะให้ของขวัญเหมือนเดิม

“นี่ของรางวัลที่สอบได้ที่หนึ่งนะลูก ป้าเห็นหนูใช้กระเป๋าดินสออันเดิมจนมันแทบจะเก็บปากกาดินสอไม่ได้แล้ว ใช้อันใหม่ที่ป้าซื้อให้นะ” กระเป๋าดินสอใบใหม่สีสวยถูกใจลายการ์ตูนที่เธอชอบถูกยื่นมาตรงหน้า เด็กหญิงยิ้มแก้มปริพลันน้ำตาคลอเบ้าจนผวากอดท่านแล้วร้องไห้สะอื้นตัวโยน

“ขอบคุณค่ะป้า! ขอบคุณนะคะ ฮือ” เพชรแพรวากลัวจับใจว่าความสุขครั้งนี้จะอยู่กับตนได้ไม่นาน

อยากกอดป้าสมใจ อยากอยู่กับทุกคนที่นี่ ไม่อยากให้ใครจากไปไหน ทำได้เพียงภาวนาให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น

“โอ๋ๆ ร้องทำไม ไม่ร้องสิลูกไม่ร้อง ดูสิหน้าสวยๆ เปื้อนน้ำตาหมดแล้ว” ทำได้เพียงกอดปลอบเด็กหญิงอยู่อย่างนั้น กว่าจะเลิกร้องไห้ก็ใช้เวลาหลายนาที ยกกระเป๋าดินสอขึ้นกอดแนบอก ของขวัญชิ้นแรกที่ป้าสมใจซื้อให้

เธอจะใช้มันอย่างดีเลย!

ทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เด็กหญิงก็เดินออกจากครัวมาทางด้านหลังซึ่งเป็นที่อยู่ของตัวเอง นอนคนเดียวได้สบายมาก บางคืนก็อ่านหนังสือทบทวนบทเรียนดึกดื่น ทั้งยังมีรายได้เสริมคือการขายผ้าพันคอถักที่เพื่อนต่างเข้ามาซื้อไม่ขาดสายแต่อาจต้องรอนานหน่อย

เธอเริ่มเก็บเงินได้บ้างแล้ว อยากซื้อเสื้อให้ป้าสมใจกับน้าๆ เป็นการตอบแทน คงต้องเก็บเงินอีกสักหน่อยกว่าจะซื้อของขวัญเหล่านั้นได้ คิดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนกระเป๋าดินสอในมือจะถูกแย่งไป จึงมองคนที่เข้ามาระรานแววตาวาวโรจน์

“เอามานี่!” เป็นนภานรีนั่นเอง ไม่แปลกใจเพราะคนตรงหน้ามักจะหาเรื่องเธอเสมอ

ครั้งก่อนที่คุณบุริศร์กลับไทยเพื่อพักผ่อนสองถึงสามวัน ก็โดนลูกสาวคนเล็กนำเรื่องมาฟ้องว่าเพชรแพรวาติดพันผู้ชาย จนเธอถูกตีทั้งยังต้องนั่งฟังคำด่าเกือบชั่วโมง ลงท้ายด้วยห้ามคบเพื่อนผู้ชาย เกรงจะท้องไม่มีพ่อในวัยเรียนให้ต้องอับอาย

จากนั้นมาเธอจึงระแวงผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ ปฏิเสธมิตรไมตรีของเพศตรงข้ามอย่างชัดเจน คบเพียงเพื่อนผู้หญิงและเลิกเรียนก็กลับบ้านทันที

แต่ครั้งนี้เพชรแพรวาไม่อาจยอมได้ เมื่อมายุ่งกับของรักของหวงก็ต้องสู้สักตั้ง

“คุณนรีจะทำอะไรน่ะ! เอาของของฉันมานะ” พยายามเข้าไปยื้อแย่ง ถึงอีกฝ่ายจะตัวเล็กกว่าแต่ก็ไม่อาจทำแรงได้ หากตามตัวนภานรีมีรอย คนที่จะโดนหนักกว่าก็คือเธอ จึงต้องพยายามเบาแรงกับคนอายุน้อยกว่า

“แค่กระเป๋ากระจอก! ทุเรศเหมือนแกเลยอีลูกเมียน้อย!” พูดจบก็ขว้างกระเป๋าดินสอของเธอลงพื้น ใช้เท้าเหยียบขยี้ในทันที ทำเอาเด็กหญิงถึงกับรีบก้มลงเพื่อหยิบของขวัญที่ป้าสมใจเป็นคนซื้อให้ แต่แล้วมือของเธอกลับถูกเหยียบไม่ต่างจากของชิ้นนั้น

“อย่า อย่าเหยียบ โอ๊ย!” แรงเหยียบเพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นมือเล็กคว้ากระเป๋าใบใหม่เอาไว้ ปากอวบอิ่มของคนที่อยู่เหนือกว่ายกขึ้นเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มสมเพช บดขยี้มือบางจนแดงเถือกแล้วค่อยยกเท้าขึ้น พลางยกมือกอดอก ปรายตามองคนที่ไร้ค่าในสายตาของตน

“สมน้ำหน้า อยากโง่เอามือมาขวางเท้าฉันทำไมล่ะ” ทำทุกอย่างสาแก่ใจก็เลือกเดินกลับเข้าบ้าน ปล่อยให้คนเป็นพี่กอดกระเป๋าดินสอที่เพิ่งได้ใหม่มากอดไว้แนบอก น้ำตาไหลเป็นสายเมื่อสีที่เคยขาวสะอาดกลับมีรอยเท้าและร่องรอยของดินที่เปื้อนจนเหมือนของเก่า

ร่างเล็กสะอื้นไห้ตัวโยน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย ยกมือปาดน้ำตาออกแล้วเลือกจะหยัดกายลุกยืน

“ฮือ กระเป๋าของป้าใจ...” เอาไปซักให้สะอาดคราบทั้งหมดจะหายไปหรือเปล่า เพราะเธอไม่อาจทวงความยุติธรรมให้ตัวเองได้ นอกจากก้มหน้ายอมรับสิ่งที่เกิด ค่อยแก้ไขเอาเองตามกำลัง

อย่างน้อยกระเป๋าก็ไมได้ฉีกขาด ยังใช้ได้อีกนานเลย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel