บท
ตั้งค่า

๒ สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย (๑)

สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

ไม่รู้ว่าผู้ชายชื่อเพลิงรพีเป็นใคร เหตุใดจึงทำให้พี่สาวของเธอพร่ำเพ้อได้ขนาดนี้ กว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ได้ยินชื่อชายคนนี้ออกมาจากปากนภาลดา มีเพียงคำเยินยอที่ออกเกินจริงหน่อยถึงความหล่อเหลา ทั้งยังเรียนเก่งหาตัวจับยาก เด็กหญิงก็พยักหน้าตามเรื่องไม่ค่อยได้พูดอะไรเท่าไหร่ มือก็คัดลอกบทเรียนเป็นการบ้านไปพลาง

อีกไม่กี่เดือนก็ปิดเทอมกลางภาคแล้ว เธอจะมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้นซึ่งยอมรับว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หากบ้านหลังนี้มีเพียงพี่สาวก็คงจะดี ไม่ต้องพ่วงนภานรีที่มักนำปัญหามาให้เธออยู่ตลอดเวลา ถ้าเห็นน้องสาวก็ต้องรีบกลับเข้าบ้าน ไม่เช่นนั้นอาจถูกหาเรื่องโดยเธอไม่สามารถโต้ตอบได้

ไม่ว่าตนจะทำอะไรก็ผิดเสมอ...ทางที่ดีก็ควรเลี่ยงบุคคลที่สร้างปัญหาให้ตัวเองดีกว่า

“ตื่นเช้าอีกแล้วนะน้องแพร” แม่บ้านต่างทักทายเด็กน้อยที่ตัวเล็กกว่าอายุจนเหมือนอยู่ประถมต้นมากกว่าประถมปลายเสียอีก ยามยืนเข้าแถวหน้าเสาธงก็อยู่เกือบหน้าสุด เด็กหญิงจึงตั้งปณิธานเอาไว้ต้องดื่มนมให้สูงขึ้น ก่อนส่วนสูงของตัวเองจะหยุด

ป้าสมใจเห็นถึงความตั้งใจจึงซื้อนมใส่ตู้เย็นเอาไว้ให้หนูน้อยดื่มทุกเช้าและเย็น ตอนนี้ก็สูงขึ้นกว่าเดิมหนึ่งเซนติเมตรแล้ว หน้าตาผิวพรรณก็ผุดผ่องงดงาม ยามสวมเสื้อผ้าราคาแพงที่นภาลดาซื้อให้นึกว่าลูกท่านหลานเธอเสียอีก

เสียดายเพียงแค่มีแม่เป็นหญิงใจหยาบ กล้าปีนขึ้นเตียงเจ้านายเพียงแค่อยากยกระดับฐานะตัวเอง สุดท้ายถูกเฉดหัวออกจากบ้านราวกับหมูหมา

“หนูอยากใส่บาตรกับป้าสมใจค่ะ แล้วก็ช่วยพี่ๆ น้าๆ ทำกับข้าวด้วย” รอยยิ้มสดใสกับคำพูดแสนใสซื่อทำให้คนในครัวหลงกันเป็นแถว จากเคยตั้งแง่ก็มีเพียงความเอ็นดู ออกไปข้างนอกก็มักมีของมาฝากเด็กหญิง กลายเป็นดวงใจของคนทั้งครัวไปแล้ว

แต่ไม่มีใครกล้าแสดงออกต่อหน้าเจ้าของบ้าน รู้ดีว่าต่อหน้าคุณท่านต้องปฏิบัติกับเพชรแพรวาอย่างไร จึงทำได้เพียงเอ็นดูลับหลังเท่านั้น

“ไปลูก เดี๋ยวจะสาย” ประตูหลังบ้านเชื่อมกับทางไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง เดินไม่ไกลก็ถึงสถานที่สำหรับใส่บาตรยามเช้า มีพระเดินบิณฑบาตสามรูปเป็นประจำ จึงเตรียมของมาเพียงพอ เด็กหญิงตัวติดกับหัวหน้าแม่บ้าน นางใจดีเหมือนคุณยายของตน บางครั้งก็ไปนอนกับป้าสมใจแต่ก็ถูกบังคับให้กลับมานอนคนเดียวเพื่อความเคยชิน

ไม่เช่นนั้นหากคุณวราลีทราบเกรงจะถูกดุเอาอีก

เด็กหญิงวัยสิบสองย่างสิบสามปีจำเป็นต้องแข็งแกร่ง จึงพยายามนอนคนเดียวแล้วกอดหมอนข้างเอาไว้ หลับตาแน่นบังคับตัวเองให้นอนหลับ เพื่อจะได้ไม่ต้องกลัวกับความมืดหรือเผชิญความคิดฟุ้งซ่านยามค่ำคืน

ทุกอย่างมันจะผ่านไปเอง...

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระยะกว่าหนึ่งปีที่มาอยู่บ้านภัทรเทวาทำให้เธอเริ่มปรับตัวสถานที่และข้อจำกัดบางอย่างได้แล้ว สิ่งสำคัญสำหรับเพชรแพรวาคือการเรียน จึงตั้งใจเป็นพิเศษไม่วอกแวก ยามว่างก็ช่วยงานบ้านและทำงานอดิเรกคือถักนิตติ้ง ตอนนี้เริ่มเรียนเย็บผ้าเพื่อซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ขาดลุ่ยโดยไม่ต้องซื้อใหม่

จากเด็กตัวผอมแห้งแคระแกรน บัดนี้ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากแม่บ้านทั้งหลายแขนขาเริ่มยาวมีน้ำมีนวลบ้างแล้ว ส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นทำให้เด็กน้อยดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ต้องเข้าแถวด้านหน้าอีกต่อไป เริ่มขยับมาตรงกลางบ้าง อีกไม่นานอาจได้อยู่ด้านหลัง แค่คิดก็ยิ้มแก้มปริแล้ว

ถึงเวลาผลสอบออกทำให้เด็กหญิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ตั้งใจเพื่อคว้าอันดับต้นมาให้ป้าสมใจภูมิใจ กระทั่งเห็นเกรดเฉลี่ยและอันดับของตัวเอง ร่างเล็กกระโดดตัวลอยมีความสุข คว้ากระดาษผลสอบแล้วนำมาอวดลุงช่วยที่ขับรถรับส่งตนตลอด แล้วค่อยพากันมุ่งกลับบ้านหลังใหญ่ ใช้ทางเข้าด้านหลังจนชินแล้ว

แม่บ้านต่างรวมตัวกันในห้องครัว ก่อนเด็กหญิงจะวิ่งเข้ามานำผลสอบอวดด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ ป้าสมใจหยิบเอกสารมาก่อน พอเห็นอันดับก็ยิ้มกว้าง ยกมือลูบศีรษะมนก่อนที่เธอจะโผเข้ากอดท่าน

“ได้ที่หนึ่งเลยเหรอ เก่งจังเลยลูก” คำชมสร้างรอยยิ้มให้คนฟัง แม่บ้านคนอื่นก็พากันขยับเข้ามาหยิบเอกสารผลการเรียนไปอ่าน ยิ้มแก้มปริด้วยความภาคภูมิใจกับหนูน้อยที่เลี้ยงช่วยกัน จากเด็กหญิงตัวมอมกลับกลายเป็นเด็กหน้าตาสะสวย ฉายแววงดงามแต่ยังเด็กด้วยซ้ำ

“น้องแพรเก่งมาก อย่างนี้ต้องฉลองหรือเปล่า” พี่ปอยยิ้มเอ็นดู เป็นตัวตั้งตัวตีอยากฉลองเพื่อแสดงความยินดีกับอันดับหนึ่งซึ่งเด็กหญิงคว้ามาได้

“ไม่เอาหรอกค่ะ หนูไม่อยากให้สิ้นเปลือง แค่ทุกคนยินดีกับหนูก็พอแล้ว...เย็นนี้หนูจะทำสุกี้ให้กินเอง” ส่ายหน้าแล้วบอกอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรก็มีกระทะไฟฟ้าแล้ว แค่ซื้อผักกับหั่นหมูแล้วก็ทำน้ำจิ้มถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก

คนฟังต่างยิ้มแก้มปริไม่มีใครขัดสักคน ฝีมือการทำอาหารของเด็กหญิงพัฒนาขึ้น งานเย็บปักถักร้อยก็เช่นเดียวกัน ดูเหมือนเพชรแพรวาจะเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ แตกต่างจากคนที่เอาแต่ร้องไห้กอดกระเป๋าในวันวาน

“งั้นลุงต้องมาต่อคิวคนแรกเลย เพราะไปส่งที่โรงเรียนทุกวันต้องได้ก่อนใคร” คนที่ทำหน้าที่สารถีรีบเอ่ยขึ้น

“อ้าวลุง ฉันก็ทำกับข้าวให้น้องแพรไปกินที่โรงเรียนทุกวันนะ ฉันต้องได้ก่อนลุงสิ” สวยขึ้นขัดขึ้นมาทันที คนอื่นก็พากันส่งเสียงคัดค้านเพื่อเป็นที่หนึ่ง เด็กหญิงเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มแก้มปริพลางหัวเราะ เหมือนว่าครอบครัวที่เธอรักจะใหญ่ขึ้นอีกแล้ว

เธอรัก...ลุงป้าน้าอาทุกคนที่นี่!

“ไม่ต้องแย่งกันนะคะ หนูจะทำให้หม้อใหญ่เลย” พูดแทรกทำให้เสียงเริ่มเบาลง

แต่บรรยากาศในห้องครัวกลับเย็นลงเมื่อคุณท่านที่กุมอำนาจทั้งหมดของบ้านไว้เดินเข้ามา สายตาของคุณวราลีปรายมองแม่บ้านทีละคน ก่อนจะหยุดลงยังหลานสาวที่ไม่มีใครยอมรับ เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยเท่านั้นในสายตาของท่าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel