บท
ตั้งค่า

๑ ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย (๓)

“แพร ทำอะไรเหรอ” ทราบว่านภานรีออกไปข้างนอกกับคุณท่าน จึงได้ออกจากห้องมานั่งถักนิตติ้งอย่างขะมักเขม้น เรียนรู้การบ้านการเรือนจากน้าอบเชยเห็นว่าสามารถเป็นงานอดิเรกฝึกสมาธิได้ เผื่อภายภาคหน้าอาจจะนำมาทำเป็นรายได้เสริมก็ไม่เสียหาย

วางแผนทุกอย่างเอาไว้เพื่อหาเงิน เธอไม่อยากรอขอเงินคุณท่านอย่างเดียวให้เป็นบุญคุณต้องตอบแทนในภายหลัง ตนเป็นแค่คนอาศัยเท่านั้นทำได้เพียงย้ำเตือนตัวเอง

เสียงที่ดังขึ้นทำให้ต้องละมือจากงานแล้วเงยมองว่าใครเดินเข้ามา พบพี่สาวที่เข้ามาทักกันตั้งแต่วันแรก แล้วยังพยายามมาพูดคุยทุกครั้งยามอยู่บ้าน แสดงถึงมิตรไมตรีอันดีจนเพชรแพรวารู้สึกอุ่นใจยามอยู่ด้วย

เธอมีพี่สาวเหมือนคนอื่น...

ดวงหน้ากลมยิ้มแป้น นอกจากแม่บ้านที่สนิทสนมกันแล้ว ในบ้านหลังนี้ยังมีนภาลดาที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ

“ถักผ้าพันคอค่ะ พี่ลดาอยากได้สักผืนไหมเดี๋ยวหนูถักให้เอง แต่ไม่สวยเหมือนซื้อนะเพิ่งเคยถักครั้งแรกค่ะ” ออกตัวอย่างรวดเร็วแต่ก็นึกอยากถักให้พี่สาวแทนคำขอบคุณที่อีกฝ่ายดีกับเธอ

“เอาไว้ว่างค่อยถักให้พี่ก็ได้ สวยไม่สวยก็เอามาเถอะ แค่น้องสาวถักให้พี่ก็ดีใจแล้ว” คำว่าน้องสาวแค่ได้ฟังหัวใจก็พองโตแล้ว มุมปากอวบอิ่มยกยิ้มทั้งสองข้าง ดวงตากลมปิดสนิทแล้วตั้งใจถักงานในมืออีกครั้ง

ต้นไม้ให้ร่มเงาในยามกลางวัน ลมพัดผ่านกายพอให้เย็นสบายในหน้าหนาวที่อุณหภูมิไม่ค่อยต่างจากฤดูร้อนสักเท่าไหร่ เธอยังคงมีความสุขกับงานตรงหน้า กระทั่งได้ยินคำชวนที่น่าสนใจมือกลับชะงัก ดวงตาเป็นประกาย

“อยู่บ้านเบื่อหรือเปล่า...ออกไปข้างนอกกับพี่ไหม”

“คะ...ไปได้เหรอคะ” ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวข้างนอกสักครั้ง

นอกจากโรงเรียนกับบ้านก็แทบไม่ได้ไปไหนเลย ครั้นได้ยินนภาลดาชวนจึงตื่นเต้นจ้องพี่สาวตาไม่กระพริบ รู้สึกเหมือนแม่พระมาโปรด

“ได้สิ พี่จะขอคุณย่าเอง ดีเลย...พี่อยากได้เสื้อผ้าใหม่พอดี เราออกไปซื้อของด้วยกันนะ” ดวงตาสดใสกลับสลดลง หากถามคุณท่านก็คงไม่อนุญาต ความหวังของเธอมอดดับลงแล้วเริ่มถักนิตติ้งอีกรอบ อย่างไรก็คงไม่ได้ไปข้างนอกหรอก

“ไม่เอาหรอกค่ะ หนูไม่กล้า”

“เชื่อใจพี่สิ เดี๋ยวพี่จัดการทุกอย่างเอง” คำพูดหนักแน่นดูน่าเชื่อถือ แต่เธอก็คิดว่าคงไม่สำเร็จ

กระทั่งพี่สาววิ่งออกมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย จึงเป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงได้นั่งรถคันหรูกับเขาบ้าง ตื่นเต้นจนเก็บอาการอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่มิด โดยมีนภาลดาคอยยิ้มและหัวเราะอยู่ข้างกาย ไม่มีท่าทีรังเกียจน้องสาวคนใหม่

ทำให้เพชรแพรวาเทิดทูนพี่สาวเป็นอย่างมาก

มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังก็เดินเล่นกันอย่างสนุกสนาน เข้าออกร้านเสื้อผ้าเป็นว่าเล่น เธอมากับมารดาบ่อยจนพนักงานคุ้นเคยเป็นอย่างดี ต่างทักทายคุณหนูวัยสิบสามปีของบ้านภัทรเทวา ที่ดูภายนอกโตกว่าอายุจนบางคนเข้าใจผิดว่าอยู่ชั้นมัธยมปลายด้วยซ้ำ

คนที่เพิ่งเคยมาครั้งแรกมองบรรยากาศรอบข้างด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนถูกจับลองเสื้อผ้าหลายชุดแล้วนำของทั้งหมดใส่ถุง พี่สาวทำเหมือนเธอเป็นตุ๊กตาเล่นเปลี่ยนชุดอย่างสนุกสนาน เด็กหญิงก็พลอยสนุกไปด้วยแต่พอเห็นราคาถึงกับเบิกตากว้าง

“ตัวนี้ เอาตัวนี้ด้วย ตัวนี้...ทำไมแพรน่ารักจังเลย ใส่ชุดอะไรก็สวยไปหมด” เอ่ยชมไม่ขาดปาก แล้วตัดสินใจให้น้องสวมเสื้อผ้าชุดใหม่กลับบ้าน เพราะเห็นว่ามานานเกินไปแล้ว

“ไม่เอานะคะ มันแพง” ส่ายหน้าแล้วพยายามปฏิเสธไม่ยอมรับเสื้อผ้า แต่นภาลดาก็ยังรบเร้าเหมือนเดิม

“พี่ซื้อให้ได้ นี่เงินพี่เอง ถือเป็นการต้อนรับน้องสาวอีกคนเข้ามาในครอบครัวไง ถ้าไม่รับไว้พี่จะเสียใจมากเลยนะ” ทำหน้าเศร้าจนน้องสาวทำตัวไม่ถูก ตัดสินใจรับของทั้งหมดมาถือเอาไว้ ใบหน้าของพี่จึงได้กลับมาสดใสอีกครั้ง

“ขอบคุณนะคะ พี่ลดาดีที่สุดสำหรับหนูเลย” ยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้ง ไม่คิดว่าจะมีคนดีกับเธอมากขนาดนี้

นอกจากยายที่เธอรักมากแล้ว ก็ยังมีนภาลดาที่เธอรักมากเช่นเดียวกัน ดวงตากลมเต็มไปด้วยความซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ ชีวิตของเธอพบเจอความลำบาก คนที่ดีด้วยก็แทบนับนิ้วได้

สองพี่น้องเดินเล่นก่อนจะกลับบ้าน แล้วเท้าเรียวก็ชักพลันจับแขนน้องสาวเอาไว้ “เดี๋ยวก่อนสิ...พี่ขอแวะดูของสักเดี๋ยวได้ไหม” ดวงตาของนภาลดาเป็นประกายเมื่อมองไปยังของบางอย่างที่คิดจะนำไปให้คนที่ตัวเองคิดถึง ทำให้เด็กหญิงต้องหยุดฝีเท้าไปด้วย

“อะไรคะ”

“พี่จะซื้อของไปให้พี่เพลิง มะรืนพี่เพลิงจะบินไปนิวยอร์กแล้ว อีกนานกว่าจะได้เจอกัน” พูดถึงชายหนุ่มที่ตนไม่รู้จัก กระนั้นร่างเล็กก็เดินเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับพร้อมกับคำถามที่นึกสงสัย แล้วดูเหมือนว่าพี่สาวจะเต็มใจตอบเป็นอย่างมาก

“พี่เพลิงคือใครเหรอคะ”

“คนที่พี่...จะแต่งงานด้วยในอนาคต” ทราบเพียงเท่านั้นก็พยักหน้า เห็นแววตาแห่งความสุขของนภาลดาก็ยินดีไปด้วย

แม้ตนจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครก็ตาม

ซื้อของเสร็จแล้วจึงพากันนั่งรถกลับบ้าน เพชรแพรวานำของกลับไปเก็บที่ห้องของตัวเอง เสื้อผ้าที่มีไม่ถึงสิบชุดก็เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังนำไปบอกบรรดาแม่บ้านถึงความแสนดีของพี่สาวตนเอง ทุกคนจึงชื่นชมคุณหนูใหญ่ที่มีความเมตตา

ขณะที่คนถูกพูดถึงเลือกจะมองร่างเล็กวิ่งลับหายไปทางด้านหลัง ก่อนหันไปมองคนรถที่ปิดประตูเตรียมจะเดินไปหลังบ้านซึ่งเป็นที่พักของบรรดาคนรับใช้เช่นเดียวกัน กลับถูกเรียกเอาไว้เสียก่อนจึงหันมารับคำสั่ง

“คุณลุงคะ ช่วยล้างรถด้วยนะคะ” ใบหน้าที่เคยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสนิท

“ครับ...ผมเพิ่งล้างเมื่อวานเองนะครับคุณหนู” นึกสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก ถึงคนตรงหน้าจะอายุน้อยอย่างไรก็เป็นเจ้านาย

“มันสกปรกค่ะ ลดาทำขยะตกใส่เบาะ...รบกวนด้วยนะคะ” ค้อมศีรษะแล้วสั่งเสร็จสรรพจึงได้เดินขึ้นบ้านหลังใหญ่ ไม่หันมามองรถที่เคยนั่งกับน้องสาวต่างมารดาด้วยซ้ำ เข้ามาในห้องก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

กำจัดความสกปรกที่ติดมาตามร่างกาย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel