บท
ตั้งค่า

๑ ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย (๒)

วันต่อมาลุงช่วยเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์เพื่อพาเด็กหญิงไปสมัครเรียน เอกสารทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าของเธอที่คุณลุงเป็นคนเตรียมให้ ย้ายจากโรงเรียนเก่ามาสู่โรงเรียนใหม่ ต้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อีกแล้ว แต่อย่างน้อยก็ได้เรียน

สถานศึกษาตอบรับด้วยชื่อเสียงของคุณวราลีที่อุปถัมภ์โรงเรียนใกล้บ้าน เพียงแค่เป็นคำเอ่ยของท่านเธอก็ถูกอนุมัติให้เข้าเรียนทันที ทุกอย่างแสนง่ายดายไปหมด ส่วนชุดนักเรียนก็ต้องซื้อและปักชื่อใหม่ไปก่อน กระเป๋ารองเท้าก็ได้ใหม่เช่นเดียวกัน

ราคาแพงขนาดนี้...ต้องทำความสะอาดบ้านกี่ปีถึงจะใช้หนี้หมดกันนะ

“ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” ช่วงเวลาที่เตรียมอาหารเย็นให้คนที่บ้าน เด็กหญิงก็มาช่วยเด็ดผักทั้งยังพูดให้ฟังว่าตัวเองทำอะไรเป็นบ้าง สร้างความประหลาดใจแก่แม่บ้านแต่ก็ไม่ได้แปลก เด็กน้อยคนนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองแต่เด็ก แค่ทำอาหารไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง

“ค่ะ! ยายเป็นคนสอน พี่สวยอยากกินหรือเปล่า เดี๋ยวหนูจะเจียวไข่ให้กินเอง” คำพูดเจื้อยแจ้วทำให้คนฟังนึกเอ็นดู พยักหน้าตามไปด้วย

“ฮ่าๆ เอาสิ อยากชิมเหมือนกันว่าจะอร่อยหรือเปล่า” ห้องครัวที่เคยมีเพียงเสียงทำอาหาร กลับเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน โดยมีเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มเป็นศูนย์กลาง

คนที่ไม่มีใครต้องการ กลับน่ารักน่าเอ็นดูมากขนาดนี้...

ซ่า!

ช่วงเช้าที่เด็กหญิงตื่นตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสว่างเพื่อมาช่วยในห้องครัว ถูกหัวหน้าแม่บ้านไล่กลับไปนอนแต่ก็ยังยืนกรานอยากเข้าไปช่วย ลามมายังช่วยคนสวนทำความสะอาดรอบบ้าน กระทั่งได้ยินเสียงของสามพี่น้องเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในตึกใหญ่

ที่เธอถูกห้ามไม่ให้เข้าไป...ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

เด็กหญิงไม่ได้ขัดคำสั่งทั้งยังทำตามอย่างเคร่งครัด ลุงบอกว่าผู้ชายคนนั้นคือพ่อ ส่วนผู้หญิงที่ส่งเสียเธอคงเป็นย่า แต่ทั้งสองไม่ต้อนรับเธอในฐานะลูกหรือหลานสาว แสดงให้เห็นถึงความห่างเหิน จึงต้องเก็บคำว่าครอบครัวเอาไว้ในอก

มีเพียงแค่ต้องพึ่งตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถเอาตัวรอดได้

“ทำอะไรน่ะ” จังหวะที่กำลังนั่งปลูกดอกไม้ช่วยคนสวน กลับมีน้ำสาดรดที่ศีรษะจนเปียกชุ่ม พอเงยขึ้นมองก็พบกับน้องสาวที่แสยะยิ้มให้แก่เธออย่างรังเกียจ

“ล้างโคลนตมกลิ่นโสโครกหน่อยสิ มันติดตัวเธอมาน่ะ...ลูกเมียน้อย” ท้ายประโยคก้มมากระซิบข้างหูคนอายุมากกว่าสองปี ไม่เคยนับว่าเป็นพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอทราบจากมารดาว่าเป็นลูกสาวของคนที่คิดจะจับพ่อ ทั้งยังเป็นตัวปัญหาของบ้านก็ไม่คิดจะเก็บความรู้สึก

แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดมากแค่ไหน ไม่เคยคิดนับญาติเสียด้วยซ้ำ แค่มองก็นึกสกปรกลูกตาแล้ว

“นิสัยไม่ดี! พี่อายุมากกว่าเธอนะ” ลุกยืนเต็มความสูงแม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่าน้องสาว แต่อย่างน้อยเธอก็อายุเยอะกว่า ควรจะให้ความเคารพกันสักหน่อยสิ

“พี่เหรอ ฮ่าๆๆๆ แค่คุณแม่กับคุณย่าอนุญาตให้เธอมาอยู่ร่วมบ้านก็เป็นบุญมากแค่ไหนแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้ไปนอนที่ข้างถนน!” คนฟังเริ่มเบะปาก จิตใจอ่อนไหวก่อนจะตะโกนกลับเสียงดัง พร้อมมือที่ยื่นออกไปผลักให้นภานรีออกห่างตัวเอง

“ไม่จริง!” บอกเสียงก้อง ประจวบเหมาะกับคนในบ้านได้ยินแล้วพากันออกมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น

คุณบุริศร์ไม่รอช้ารีบเข้ามาอุ้มลูกสาวสุดที่รักเพื่อปลอบเมื่อเด็กน้อยกำลังร้องไห้ที่ถูกผลัก เด็กหญิงยืนนิ่งก้าวขาไม่ออก ก่อนจะถูกคว้าโดยคุณผู้หญิงของบ้านอย่างชวาลินี พร้อมมือซึ่งตีลงที่แผ่นหลังเล็กของเพชรแพรวาไม่ยั้ง

“มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายลูกสาวของฉัน! นังเด็กเหลือขอ!” ฝ่ามือกระหน่ำฟาดลงมาไม่ยั้ง ทำให้เด็กหญิงร้องไห้จ้าด้วยความเจ็บ แล้วถูกผลักอย่างแรงให้ล้มลงบนพื้นอีกครั้ง จุกจนลุกไม่ขึ้นทำเพียงแค่มองภาพตรงหน้าด้วยความน้อยใจ

เธอทำสวนอยู่คนเดียว ทำตามคำสั่งไม่เคยย่างกรายเข้าใกล้บ้านหลังใหญ่ แต่เป็นคนอื่นต่างหากที่เข้ามายุ่งกับตนจนเกิดเรื่องขึ้น

“แกไม่น่าเกิดมาเลย เกิดมาก็เกะกะขวางตา สร้างเรื่องราวให้ฉันตลอด!” วาจาเชือดเฉือนออกมาจากปากของคนเป็นพ่อ ดวงตาของท่านไม่มีแววอ่อนโยนเลยสักนิด มีเพียงความแข็งกร้าวและกล่าวโทษว่าเธอคือตัวปัญหา

ดวงตากลมสั่นไหวขณะจ้องมองเจ้าของบ้านอุ้มบุตรสาวเข้าไปในตึกใหญ่ เหลือเพียงเธอที่นั่งอยู่บนพื้นน้ำตานองหน้าเพียงลำพัง ก่อนคุณลุงคนสวนที่ออกไปหยิบต้นไม้มาปลูกจะรีบวิ่งเข้ามาถามไถ่ทั้งที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เด็กหญิงถูกพาเข้าไปในครัว มีแม่บ้านคอยปลอบเพราะบางคนก็เห็นเหตุการณ์เพียงแค่ไม่กล้าเอ่ย รู้ดีว่าสุดท้ายแล้วคนที่ถูกก็คือนภานรี ถึงจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ตาม

นั่นแหละ...คือความจริงที่โหดร้ายสำหรับเด็กน้อยผู้เกิดจากหญิงคนนั้น

ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ถูกเกลียดเพราะการกระทำของมารดาในอดีต

เหตุการณ์นั้นผ่านไปหลายวัน อัครราชทูตรูปหล่อเดินทางกลับประเทศที่ตนเองประจำการพร้อมภรรยาและบุตรชาย เหลือไว้เพียงลูกสาวสองคนซึ่งอยู่ในความดูแลของคุณวราลี ได้รับการศึกษาที่ดีในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ขึ้นรถตู้คันใหญ่ออกทางประตูหน้า ขณะที่เด็กหญิงมีคนสวนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงเรียนรัฐบาลออกประตูหลัง

เหตุการณ์วันนั้นทำให้เธอเรียนรู้ในการไม่โต้ตอบลูกสาวของคุณท่าน หลีกเลี่ยงการปะทะขลุกตัวอยู่ในครัวไม่ก็ห้องนอนของตัวเอง ยามว่างจากการเรียนก็ช่วยป้าๆ น้าๆ ทำงานเล็กน้อย ทั้งยังได้เรียนรู้การทำเมนูอาหารและขนมที่หลากหลาย

ชีวิตในบ้านไม่คุ้นเคยก็กลายเป็นความสุขพอคลายความคิดถึงยายไปได้บ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel