๑ ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย (๑)
“ป้า คุณท่านบอกให้ป้าพาเด็กคนนี้ไปที่ห้องรับแขก” แม่บ้านเดินเข้ามาบอกคำสั่งของคุณวราลีให้ทราบ คนในที่นั้นต่างขยับออกห่างเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว มีเพียงหัวหน้าแม่บ้านซึ่งพยักหน้ารับคำเป็นการตอบรับ ค่อยจับจูงมือน้อยเดินเข้าไปในบ้านหลังงามโดยเธอก็เบียดกายเข้าใกล้คนที่ทำให้ตัวเองอุ่นใจมากกว่าเดิม
อยู่กับป้าเหมือนได้อยู่กับยายเลย รู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“หนูเพชร เจอหน้าคุณท่านให้ยิ้มรับแล้วก็ตอบคำถามนะคะ อย่าเอาแต่เงียบหรือร้องไห้ คุณท่านเป็นคนใจดีไม่ต้องกลัวหรอก” ทั้งที่ท่านเป็นย่าของเด็กน้อย กลับไม่อาจให้เพชรแพรวาเรียกว่าย่าได้ เห็นแล้วก็สงสารปนสังเวช
เกิดผิดแม่โดยแท้เพชรแพรวา
หากเกิดในท้องของคุณชวาลินี ภัทรเทวาเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้หรอก คงเป็นคุณหนูที่คนทั้งบ้านรักไปแล้ว
“ค่ะ” พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างเจียมตัว
บนโซฟายาวกลางห้องมีคุณผู้หญิงน่าเกรงขามนั่งอยู่เพียงลำพัง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ขยับเข้าใกล้หัวหน้าแม่บ้านมากกว่าเดิม แล้วค่อยคลานเข่าเข้าไปนั่งใกล้ท่าน ไม่กล้ากระทั่งจะนั่งบนโซฟานุ่มทำเพียงมองด้วยความสงสัยว่ามันจะนั่งสบายหรือเปล่า
ทั้งห้องเงียบสนิท ก่อนจะมีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็พบเด็กผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกันวิ่งเข้ามานั่งข้างผู้หญิงที่ทุกคนเรียกกันว่าคุณท่าน
“คุณย่าขา ลดาขอออกไปบ้านพี่เพลิงได้ไหมคะ คุณแม่บอกว่าพี่เพลิงจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลายปีคงไม่เจอกันนานเลยอยากพาไปลาค่ะ” ประโยคยาวเหยียดที่เพชรแพรวาทำได้แค่นั่งฟังแต่ไม่เข้าใจสักอย่าง มือวางบนตักแล้วเอนกางเข้าใกล้หัวหน้าแม่บ้านเหมือนต้องการซ่อนตัวเอาไว้
“เอาสิลูก จะไปก็ไปเถอะ”
“ขอบคุณค่ะ” ย่าหลานยิ้มให้กัน ก่อนเด็กหญิงจะลุกจากโซฟาหลังจากอ้อนขอสำเร็จตามความต้องการ จังหวะที่กำลังจะก้าวออกจากห้องรับแขกสายตากลับมองมาที่เด็กน้อยซึ่งบุพการีบอกว่าจะมาขออาศัยชั่วคราว
ตามนิสัยเจ้าของบ้านที่ดี...ก็ควรต้อนรับหรือเปล่า
“สวัสดีนะจ๊ะ พี่ชื่อลดา...เธอชื่ออะไรเหรอ” จากตอนแรกที่คิดว่าตัวเองคงไม่เป็นที่สนใจ กลับมีคนเข้ามาทักทายแล้วยังแทนตัวว่าพี่อีกต่างหาก เด็กหญิงกระพริบตาปริบเหมือนไม่อยากเชื่อว่านอกจากป้าสมใจ ยังมีคนยิ้มให้เธอด้วย
“เพชรแพรวาค่ะ” บอกชื่อจริงของตัวเองแล้วเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้าม เหมือนจะเห็นแววความใจดีจากอีกฝ่ายจึงผ่อนคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง เริ่มมองพี่สาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดว่าตนมีพี่สาว
“ชื่อเล่นล่ะ”
“เพชร...” ตอบเสียงเบาก่อนจะถูกขัดโดยผู้หญิงที่นั่งบนโซฟา เสียงของท่านทรงอำนาจจนเด็กน้อยสะดุ้ง หลีกเลี่ยงสายตาน่าเกรงขามด้วยการขยับเข้าใกล้ป้าสมใจมากกว่าเดิม
“แพร ต่อจากนี้เรียกตัวเองว่าแพร...เข้าใจหรือเปล่า” คุณวราลีมองเด็กหญิงแล้วถามย้ำเสียงเข้มในท้ายประโยค เกลียดชื่อเล่นของเพชรแพรวาเพราะคนเป็นแม่ที่ไม่เจียมตัว เข้ามาแทรกกลางระหว่างลูกชายและลูกสะใภ้ของท่าน หวังจะขึ้นเป็นคุณผู้หญิงอีกคน
ดีแค่ไหนแล้วที่เฉดหัวออกไปได้...
แต่ไม่คิดเลยว่าคนลูกจะวกกลับมา ไล่ออกไปไหนก็ไม่ได้เสียด้วย สิ่งที่ต้องทำคือเก็บเพชรแพรวาเอาไว้ในบ้านให้เป็นความลับ
“ค่ะ” จำต้องตอบรับกับชื่อเล่นใหม่ของตัวเอง
“น้องแพรกับพี่ลดา เข้ากันจังเลยนะ” คนที่กำลังจะออกไปข้างนอกยังติดพันกับการพูดคุย จนคุณวราลีนึกไม่ชอบใจจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน
“ลดา รีบไปไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะคุณย่า ลดาไปก่อนนะคะ” รีบลุกจากพื้นแล้วเดินแกมวิ่งออกจากห้องรับแขกเพื่อไปแต่งตัวบนห้อง ใจลอยไปยังจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้สนใจเด็กที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านของตนอีกต่อไป
ห้องรับแขกกลับมาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เด็กหญิงก้มหน้ามองพื้นแล้วเลือกจะขยับเข้าใกล้หัวหน้าแม่บ้านเหมือนเดิม เกรงกลัวกับสายตาทรงอำนาจตรงหน้า ตัวที่เคยเล็กก็เหมือนจะย่อขนาดเล็กลงกว่าเดิม
“ต่อจากนี้เธอจะอยู่ที่นี่ในฐานะผู้อยู่อาศัย บ้านหลังนั้นจะเป็นห้องพักของเธอแล้วก็สมใจช่วยดูแลเด็กคนนี้ด้วย ส่วนเรื่องเรียนให้เรียนใกล้บ้าน นายช่วยมีมอเตอร์ไซค์ใช่ไหม...ให้ออกทางหลังบ้านแล้วไปรับไปส่งเด็กคนนี้ที่โรงเรียน บอกคนอื่นว่าเป็นญาติห่างๆ ของแม่บ้านที่ฉันรับเลี้ยง” ไม่แปลกใจกับคำสั่งเท่าไหร่
หัวหน้าแม่บ้านค้อมศีรษะรับคำ “รับทราบค่ะคุณท่าน” เด็กหญิงเหลือบมองคุณป้าที่ตอบรับอย่างนอบน้อม
“ให้แทนตัวเองว่าแพร แล้วห้ามขึ้นตึกใหญ่ถ้าฉันไม่อนุญาต...สมใจ ให้เด็กคนนี้ช่วยงานบ้านด้วยล่ะ ไม่ใช่ให้มาอยู่แบบเจ้านาย ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็มาเอาที่ฉัน” พูดกับหนูน้อยจบก็หันมาคุยกับแม่บ้านคนสนิทของตัวเอง ถึงจะไม่ชอบแม่เด็กอย่างไรก็ยังมีเมตตา สงเคราะห์เด็กตาดำๆ ให้ได้ร่ำเรียน แต่จะเรียนสูงแค่ไหนก็สุดแต่สติปัญญาของอีกฝ่าย
“ตอบรับคุณท่านสิ” เมื่อเห็นว่าเพชรแพรวานั่งเงียบ จึงได้กระซิบบอกเด็กน้อย
“ค่ะ” สุดท้ายเด็กหญิงก็รับคำเสียงเบา ก่อนได้รับอนุญาตให้ออกไปได้จึงรีบเดินเคียงป้าแม่บ้านออกไปทางด้านหลัง ก่อนที่ป้าสมใจจะเล่าให้ฟังว่าเธออยู่ที่ไหนในเขตบ้านหลังนี้ได้บ้าง ต้องทำงานอะไรตามคำสั่งของคุณท่าน
บ้านหลังใหญ่มีเจ้านายทั้งหมดหกคน คนแรกคือหญิงมีอายุซึ่งยังคงสง่างามอย่างคุณวราลี เป็นมารดาของคุณบุริศร์อัครราชทูตไทยประจำกรุงเทียนนา ประเทศออสเตรีย ช่วงนี้ท่านอยู่ในช่วงพักจึงกลับมาอาศัยที่บ้านหนึ่งสัปดาห์ พร้อมภรรยาอย่างคุณชวาลินีลูกสาวของสส.พรรคร่วมรัฐบาล
มีลูกด้วยกันสามคนซึ่งคนแรกคือนภาลดา ภัทรเทวาอายุมากกว่าเธอหนึ่งปี เรียนที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้การดูแลของคุณย่า ลูกคนที่สองคือนภานรี ภัทรเทวาอายุน้อยกว่าเธอสองปีอาศัยอยู่ไทยเป็นหลัก ส่วนคนสุดท้ายคือวิรัลวีร์ ภัทรเทวาอายุน้อยกว่าเธอห้าปี อยู่กับบุพการีที่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาไทยได้ไม่นาน เรื่องคร่าวๆ ถูกเล่าให้เพชรแพรวาซึ่งผงกศีรษะเป็นการรับทราบได้ฟัง
หนูน้อยได้พัดลมมาไว้ในห้อง จึงได้นอนพักผ่อนในช่วงบ่ายจนเต็มอิ่ม ใกล้พระอาทิตย์ตกดินก็มาช่วยทำงานเล็กน้อยอย่างล้างจานทำความสะอาดครัว แม่บ้านที่เคยตั้งแง่ก็นึกเอ็นดูเด็กหญิงในความขยันขันแข็ง อาสาช่วยเหลือไปเสียทุกอย่าง
