บท
ตั้งค่า

๑ ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย (๑)

ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย

ชื่อของเพชรแพรวาโด่งดังในหมู่แม่บ้านด้วยเวลาอันรวดเร็ว ใครบ้างจะไม่ทราบว่าอดีตคนรับใช้ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากคุณท่านทั้งสามของบ้านอย่างมาลี จะมักใหญ่ใฝ่สูงปีนขึ้นเตียงเจ้านาย จนตั้งท้องและเรียกร้องให้รับผิดชอบ กลับโดนไล่ตะเพิดไม่สนใจดูดำดูดี

หญิงผู้นั้นหายไปเกือบสิบสองปี ก่อนจะเอาสายเลือดนั้นมาโยนให้รับผิดชอบ เด็กหญิงถูกตั้งแง่รังเกียจตั้งแต่ยังไม่มีใครได้พานพบหน้าด้วยซ้ำ มีเพียงเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กน้อยที่ดังก้องมาตามทาง ก่อนถูกผลักให้ล้มลงหน้าเรือนเก็บของหลังบ้าน ซึ่งขนาดไม่ได้กว้างมากนัก

ดวงตากลมที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำใสบดบังภาพตรงหน้า จนต้องใช้หลังมือปาดน้ำตาออก จ้องมองผู้ชายร่างใหญ่ด้วยความหวาดกลัว กอดกระเป๋าขนาดเล็กของตัวเองเอาไว้แนบอก ถึงจะมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ตัว ของใช้ก็แทบไม่มีเลยก็ตาม เงินติดตัวที่ได้มาก็แค่สองร้อยบาทเท่านั้น

แต่เด็กหญิงก็ยังหวงแหนมัน เพราะเป็นเงินที่ย่าให้ไว้...จึงไม่คิดจะหยิบออกมาใช้

“ต่อจากนี้ไปเธอต้องอยู่บ้านหลังนี้”

ประมุขของบ้านอย่างคุณบุริศร์ ภัทรเทวาเป็นคนเอ่ย

จ้องมองเด็กหญิงที่เกิดจากคนชั้นต่ำอย่างรังเกียจ ยิ่งเห็นหน้าก็ทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาที่ถูกผู้หญิงคนนั้นแบล็คเมล์ อยากไต่เต้ามาเป็นคุณผู้หญิงอีกคนด้วยการหลับนอนกับเขายามที่ท่านเมามายไม่ได้สติ ทุกอย่างสมดังใจจนยกตนจากคนรับใช้มาเป็นคุณนายอีกคน

ยิ่งคิดถึงช่วงนั้นก็ยิ่งรังเกียจเด็กตรงหน้ามากกว่าเดิม ถึงจะมีเลือดของตนครึ่งหนึ่งก็ตาม แต่ไม่มีวันจะนับเป็นลูกเด็ดขาด!

“ฮึก ยาย...อยากไปหายาย” ยังคงร้องเรียกหาคนจากไปเหมือนเดิม

คุณบุริศร์ไม่ได้สนใจจะเสวนากับเด็กหญิง หมุนตัวเดินกลับไปยังบ้านใหญ่ แล้วปล่อยเพชรแพรวาให้นั่งกอดกระเป๋าอยู่หน้าห้องเก็บของเหมือนเดิม เสียงร้องไห้ดังไปทั่วบริเวณจนแม่บ้านที่ตั้งแง่แต่แรกนึกสงสาร จึงเหลียวมองหน้ากันเหมือนต้องการข้อสรุปว่าควรทำอย่างไร

“ป้าจะไปไหน” ผวาคว้าแขนหัวหน้าแม่บ้านที่รับใช้มานานจนเป็นคนโปรดของคุณวราลี ภัทรเทวามารดาของคุณบุริศร์ ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม ขณะที่ลุกจากเก้าอี้เมื่อไม่อาจปล่อยให้เด็กน้อยร้องไห้เรียกหาคนจากไปได้อีก

“ไปดูเด็ก จะปล่อยให้ร้องไห้ไปตลอดหรือไง” ได้ยินอย่างนั้นก็ปล่อยแขนหัวหน้าแม่บ้าน แล้วนั่งลงที่เดิมไม่มีใครเดินไปดูด้วยสักคน ต่างรู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเด็กหญิงที่อาจจะทำให้ตัวเองซวยไปด้วย

เรื่องของเพชรแพรวา ชมนาดโด่งดังในหมู่แม่บ้าน คนสวนและคนรถ ทุกคนทราบดีว่าหล่อนเกิดมาอย่างไร เป็นบุคคลน่ารังเกียจของบ้านหลังนี้ ไม่มีใครอยากต้อนรับแต่ก็ทำเพราะจำใจ หากไม่อยากเดือดร้อนก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย

แม่ตั้งชื่อว่าเพชรเพราะอยากให้ลูกเป็นเพชร...ทั้งที่เกิดในโคลนตมแท้ๆ

“หนู...กินขนมไหม”

เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเหนือศีรษะ ทำให้เด็กหญิงที่นั่งกอดกระเป๋าร้องไห้ตัวโยนต้องเงยหน้ามอง เช็ดน้ำตาที่บดบังทัศนียภาพออก ก่อนจะพบรอยยิ้มกับแววตาอ่อนโยนที่ทำให้หัวใจหนาวเหน็บกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง เสียงร้องไห้หยุดไปมีเพียงอาการสะอื้นเท่านั้น ดวงตากลมจ้องมองขนมสีสวยที่วางบนจานลายคราม ลอบกลืนน้ำลายลงคอเพราะแต่เช้าก็ไม่มีอาหารตกถึงท้อง

กระนั้นก็ยังเลือกมองตาปริบไม่กล้าหยิบขนมมากิน จนคุณป้ายื่นจานเข้าไปใกล้ก่อนหยิบขนมแล้วยื่นใส่มือของหนูน้อย จึงยอมยัดเข้าปากพร้อมกับเคี้ยวแล้วกลืนลงคอด้วยความหิว ไม่นานขนมก็หมดไปพร้อมกับน้ำหวานที่เย็นสดชื่น

“อร่อยไหม”

“อร่อยค่ะ” ตอบเสียงเบาทั้งยังมีหางเสียงตามที่ยายเคยสอนเอาไว้ให้พูดเพราะกับผู้ใหญ่ จำคำสอนเหล่านั้นแล้วเอามาใช้เป็นอย่างดี

“น่ารักจริง ชื่ออะไรเหรอลูก” ถึงจะทราบชื่อของเด็กหญิง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามเพื่อสร้างบทสนทนาให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกฝ่าย แล้วดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำจะบรรลุผล เกราะที่เคยห่อหุ้มหนูน้อยเอาไว้เริ่มแตกออกทีล่ะน้อย มือที่กอดกระเป๋าค่อยคลายออก จับแก้วน้ำหวานขึ้นดื่มจนหมดเนื่องจากร้องไห้จนคอแห้ง

“เพชรค่ะ เด็กหญิงเพชรแพรวา” คนฟังยิ้มกว้าง แล้วเป็นฝ่ายแนะนำตัวเองบ้าง

“ป้าชื่อสมใจนะ เรียกป้าใจก็ได้...ไม่ต้องร้องนะลูก ต่อจากนี้อยู่กับป้าดีกว่านะ เดี๋ยวป้าจะช่วยจัดห้องให้เอง นอนคนเดียวได้ใช่ไหม” หัวหน้าแม่บ้านใช้ความเป็นคนสนิทของคุณวราลีจัดการทุกอย่าง ถึงจะไม่มีใครชอบเด็กตรงหน้าแต่อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุสิบสองปี ไม่มีพิษภัยทั้งยังน่าสงสารอีกต่างหาก

จึงไม่อาจเพิกเฉยได้...

“ได้ ได้ค่ะ” จ้องป้าสมใจตาแป๋ว คุณป้าคนนี้ใจดีเหมือนยายเลย ความกลัวจึงเริ่มทุเลาลงแล้วลุกยืนเต็มความสูง ก่อนที่เรือนเก็บของจะถูกเปิดออก ฝุ่นคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณพร้อมกับของข้างในที่รกจนไม่อาจอาศัยได้

“ทำความสะอาดเป็นใช่ไหม” หันมาถามเด็กหญิง

“ค่ะ” พยักหน้าเพราะช่วยยายทำความสะอาดบ้านบ่อย ถือเป็นหน้าที่ประจำของตัวเองก็ว่าได้ จึงไม่รอช้าที่จะแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความสามารถในด้านนี้เหมือนกัน

“งั้นเราช่วยกันนะ” หัวหน้าแม่บ้านนำอุปกรณ์ทำความสะอาดมาจากครัว แล้วไหว้วานคนสวนช่วยกันยกของที่ไม่จำเป็นออกมาจากห้อง ถึงตอนแรกจะไม่มีใครอยากทำก็ขัดคำสั่งของป้าสมใจไม่ได้ หนูน้อยมองคุณป้าด้วยแววตาเป็นประกาย แล้วเริ่มปัดกวาดเช็ดถูห้องซึ่งกำลังจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของตัวเอง

ถึงจะเศร้าแต่ก็รู้ดีว่าลุงคงไม่กลับมารับแล้ว อย่างน้อยมีที่ซุกหัวนอนและป้าสมใจที่แสนใจดีก็คงไม่ลำบากมากหรอก แม้จะคิดถึงยายมากแค่ไหนก็รู้ว่ายายคงไม่กลับมาหาแล้ว เหมือนแม่ที่จากไปไม่มาหาเลยสักครั้ง

ข้าวของบางส่วนที่ไม่ใช่ถูกนำไปทิ้ง ของชิ้นใหญ่ก็ดัดแปลงเป็นของใช้ให้หนูน้อยได้อาศัยในห้อง กว่าจะเสร็จตะวันก็ตั้งตรงกลางศีรษะ บอกเวลาเที่ยงวันเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับห้องขนาดสี่สิบตารางเมตรที่สะอาดเหมือนใหม่ มีเตียงนอนชิดกับหน้าต่าง โต๊ะอ่านหนังสือ ชั้นวางเสื้อผ้านอกนั้นก็โล่งไม่มีสิ่งใดอีกเลย

“ห้องน้ำใช้กับป้าแล้วกัน ส่วนพัดลมป้าจะเอามาให้ ดีที่ห้องนี้มีไฟฟ้าไม่ต้องเรียกช่างมาทำให้ยุ่งยาก” ตอนแรกเรือนหลังนี้ทำสำหรับพักผ่อนชมนกชมไม้ของคุณผู้หญิง แต่เนื่องจากท่านค่อนข้างยุ่งไม่มีเวลามาพัก จึงกลายเป็นห้องเก็บของไปโดยปริยาย บัดนี้กลับมีเจ้าของมาจับจองแล้วดูเหมือนจะถูกใจเด็กน้อยมากด้วย

“ค่ะ” พยักหน้าพลางยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินตามป้าสมใจไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายจนสะอาดหอมสดชื่น ค่อยมากินข้าวจนอิ่มท้อง แล้วทำความรู้จักกับแม่บ้านที่ยังมีกำแพงกั้นระหว่างเด็กที่คุณท่านทั้งหลายไม่ชอบ จึงทำได้แค่ยิ้มแล้วพยักหน้า จะมีก็เพียงป้าสมใจที่เอ็นดูหนูน้อยเป็นพิเศษ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel