บทที่ 5 คิดไม่ซื่อ
“อะไรของนายเนี่ย? ปล่อยเลย!”
เอวาสลัดข้อมือให้หลุดออกมาจากเกาะกุมของแทนคุณ เขาลากตัวเธอออกมาจากห้องสมุด ป่าวประกาศว่าเธอเป็นเมียเขา ทำให้เธองงจนอยากจะหาคำตอบให้กับการกระทำของเขาให้ได้
“อย่าไปยุ่งกับไอ้เหี้ยนั่น” เขาหันมามองหน้าเธอ ราวกับว่าเขากำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“ไอ้เหี้ยไหน? อันธพาลคนเมื่อกี้น่ะเหรอ?”
“รู้นี่ว่ามันเป็นอันธพาล แล้วจะไปยุ่งกับมันทำไม? ถ้าฉันไปไม่ทันเธอคงโดนมันซัดหน้าไปแล้ว หัดกลัวที่จะเจ็บตัวบ้างเอวา ฉันตามไปช่วยเธอไม่ได้ทุกครั้งหรอกนะ”
“ก็เขามาหาเรื่องฉันก่อนนี่! คิดว่าฉันอยากจะยุ่งกับเขาหรือไง แล้วนายจะบอกฉันได้หรือยังว่าทำไมนายถึงพูดออกไปแบบนั้น?”
“…”
“อย่ามาเงียบนะคุณ นายไปบอกเขาว่าฉันเป็นเมียนาย ฉันเสียหายนะเว้ย!”
“แล้วเธอใช่เมียฉันหรือเปล่าล่ะ?”
“หะ?!” อะไรของเขากันนะ? …ทำไมถึงได้ทำตัวเฉยเมย ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องใหญ่ในชีวิตได้ง่ายดายแบบนี้นะ
“ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องสนใจ ที่ฉันพูดไปแบบนั้นก็เพื่อปกป้องเธอ”
“ปกป้องฉัน? จากอันธพาลคนนั้นน่ะเหรอ? ด้วยการบอกว่าฉันเป็นเมียนายเนี่ยนะ? ก่อนหน้านี้ไม่ถึงยี่สิบนาทีนายยังดูดปากกับยายเรนโบว์นั่นอยู่เลย!”
“ช่างเถอะ ฉันขี้เกียจอธิบาย แล้วก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องไร้สาระที่ผ่านไปแล้วด้วย เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปยุ่งกับไอ้โปรดอีก ตรงไหนที่มีมัน ก็ห้ามเข้าไป เข้าใจที่ฉันพูดไหมเอวา?”
“…”
“ฉันถามว่าเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”
“อืม”
“แล้วเธอน่ะ…แอบดูฉันจูบกับเรนโบว์ทำไม?”
“…” เอวานิ่งเงียบเพราะโดนจับได้ แต่ก็ยังหาเรื่องไปต่อได้อีก “ฉะ…ฉันไม่ได้แอบดูสักหน่อย! ก็นายบอกเองว่าจะให้ฉันลงมาจากดาดฟ้าถ้าไม่อยากเห็นนายฟัดกับเรนโบว์ ฉันก็เลยพูดไปอย่างนั้นแหละ”
“อย่าได้แอบดูเด็ดขาด ของแบบนี้เด็กไม่ควรเข้ามายุ่ง” เขาวางมือบนหัวเธอ ยีผมสลวยจนมันยุ่งเหยิง มองหน้าเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเธอมันก็แค่เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องราว
“ไอ้บ้า! เอามือออกไปเลยนะ! หัวฉันยุ่งหมดแล้ว! แล้วฉันก็ไม่ใช่เด็กน้อยด้วย เราอายุเท่ากันนะ!”
“ฉันไม่ได้หมายถึงอายุ ฉันหมายถึงประสบการณ์ เมื่อเทียบกับฉันแล้ว…เธอน่ะเป็นเหมือนเด็กที่ยังไม่โต”
“ชิ!”
ทุกวันหลังเลิกเรียน เอวากับหวานเจี๊ยบจะต้องมานั่งรอพวกเพื่อนผู้ชายเล่นบาสกันที่โรงยิม หญิงสาวสองคนจะเอาขนมและการบ้านมานั่งทำระหว่างที่รอ ที่จริงเอวาไม่แน่ใจหรอกว่าตัวเธอเองสนิทกับหวานเจี๊ยบหรือเปล่า แต่ที่รู้แน่ชัดคือหวานเจี๊ยบสนิทกับเธอมาก นั่นอาจเป็นเพราะหวานเจี๊ยบไม่ค่อยมีใครคบ ด้วยเพราะนิสัยแปลกๆ กับบุคลิกลูกคุณหนูที่อ้าปากทีไรก็พูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง
“นี่”
“อะไร?”
“เมนส์ฉันมาแล้วล่ะ คิกคิก”
“อยู่ๆ ทำไมถึงมา?” เอวาถามกลับ พลางหยิบมันฝรั่งทอดเข้าปาก
“ครูที่ห้องพยาบาลบอกว่าฉันเครียดเกินไป ก็เลยส่งผลต่อฮอร์โมนส์น่ะ ช่วงนี้มันเป็นช่วงรอยต่อของชีวิต เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่ ฉันต้องเครียดสิ ไหนจะเรื่องสอบที่ผลยังไม่ออกอีก ถ้าสอบไม่ติดขึ้นมา พ่อแม่เอาฉันตายแน่”
“แค่เอนไม่ติด ต้องฆ่าเลยหรือไง? มหาลัยเอกชนดีๆ ก็มีตั้งเยอะ”
“นั่นสิ ที่จริงฉันไม่ได้อยากเอนทรานซ์ด้วยซ้ำ ยังไงฮุคก็เอนไม่ติดอยู่แล้ว ถ้าฉันเอนติดขึ้นมา ก็อดเรียนที่เดียวกันน่ะสิ”
“กะจะคบกันยาวๆ เลยสินะ?”
“แหงสิ! ฉันไม่ยอมเลิกกับเขาง่ายๆ หรอกนะ เขาเอาทั้งตัวและหัวใจของฉันไปแล้ว…จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้ไงกัน”
“แกให้มันเอง…ทั้งตัวแล้วก็หัวใจ ให้แบบเต็มใจไม่ใช่หรือไง?”
“ก็จริง ว่าแต่แกน่ะ…ไม่คิดจะมีแฟนบ้างหรือไง? ฉันเห็นคนมาจีบแกตั้งเยอะ ไม่น่าสนใจเลยสักคนเหรอ?”
“ไม่อะ” คนถูกถามตอบแบบผ่านๆ สายตามองเข้าไปในสนามบาส เห็นแทนคุณกำลังกระโดดชูตบาสลงห่วงเหมือนจับวาง เขายิ้มดีใจก่อนที่จะหันกลับมามองที่เธอ ยักคิ้วให้เธอพร้อมรอยยิ้ม เพียงแค่นี้ก็ทำให้ใจเธอเต้นแรงขึ้นมาเหมือนคนบ้า
“หรือว่าแกแอบชอบใครอยู่? ไม่หรอกใช่ไหม? แกจะชอบใครได้วะ…วันๆ อยู่แต่กับพวกนี้”
“นี่…” พอสิ่งหวานเจี๊ยบพูดเริ่มเข้าใกล้คำตอบ เอวาก็ต้องรีบดึงเพื่อนออกมาจากความจริงทันที “ผู้ชายในห้องสมุดวันนี้น่ะ ใคร?”
“อา…โปรดเหรอ? แกอย่าได้ไปยุ่งกับเขาเชียว หมอนั่นน่ะเรียนห้องเดียวกับฉัน” หวานเจี๊ยบกับฮุคน่ะเรียนอยู่ห้อง B ส่วนเอวา แทนคุณแล้วก็ออสติน เรียนห้อง A
“ทำไมต้องห้ามยุ่ง?”
“จะบอกยังไงดีล่ะ? ก่อนที่แกจะเข้ามาเรียนที่นี่น่ะ โปรดกับแทนคุณเคยเป็นเพื่อนรักกัน สองคนนั้นสนิทกันมาก ตัวติดกันตลอด แต่วันหนึ่งพวกเขาก็ไม่คุยกันเลย ไม่มองหน้ากันด้วย ต่างคนต่างอยู่ คล้ายๆ ว่าเป็นศัตรูกันเลย อย่าถามนะว่าเรื่องอะไร…เพราะฉันไม่รู้ แม้แต่ฮุคก็ไม่เคยเล่า หลังจากที่เลิกคบกับแทนคุณ โปรดก็ทำตัวเกเร กลายเป็นพวกอันธพาล ล่าสุดฉันได้ยินพวกเพื่อนผู้ชายคุยกันว่าโปรดไปเข้าแก๊งมาเฟียล่ะ”
“…” เอวาไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย แทนคุณไม่เคยเล่าอะไรเลย และมันทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หมับ!
“อะไรของนายเนี่ย?!” หญิงสาวโพล่งถาม เมื่ออยู่ๆ แทนคุณก็วิ่งเข้ามากระชากขวดน้ำจากมือเธอไปกระดกดื่มหน้าตาเฉย
“ขอกินหน่อยไม่ได้หรือไง?”
“ของตัวเองก็มี!”
“ก็ฉันอยากกินของเธอไง ช่วงนี้อ้วนขึ้นหรือเปล่า? หัดออกกำลังกายบ้าง มานี่!”
“อ๊ะ! ไม่เอา! ปล่อยฉันเลย…คุณ! ฉันไม่อยากเล่น! เดี๋ยวเหงื่อออก!” เอวาพยายามที่จะขัดขืนแล้ว พยายามทำตัวแข็งทื่อ แต่แทนคุณก็ยังกระชากลากถูเธอเข้ามาในสนามบาสได้สำเร็จ
“เธอไปอยู่ฝั่งเดียวกับไอ้ฮุค ระวังฉันแย่งบาสให้ดีล่ะ”
“ก็ฉันบอกว่าไม่อยากเล่นไง!”
“เดี๋ยวพาไปกินช็อกโกแลตปั่น”
“ให้ตายเถอะ ไอ้บ้าเอ้ย!” คนตัวเล็กสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่มีกันอยู่สามคน แต่ก็ยังจะเล่นบาส พอไม่ครบทีมก็ต้องดึงเธอลงมาเล่นด้วยทุกที แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยได้อยู่ทีมด้วยกับแทนคุณเลย ทำไมเขาต้องให้เธอมาอยู่กับฮุคตลอด!
“เล่นให้ดีล่ะ ถ้าเล่นห่วยแตกแล้วฉันแพ้ ฉันเอาเธอตายแน่” ฮุคส่งสายตาคาดโทษใส่เอวา
“งั้นก็ไปลากแฟนนายมาสิ!”
“ยายนั่นหนักกว่าเธอสิบเท่า”
“ชิ!”
เอวาไม่เคยแย่งลูกบาสจากใครได้ทั้งนั้น แต่พอได้ครองลูกบาสในมือ ไม่ถึงหนึ่งนาทีแทนคุณก็เข้ามาแย่งมันไป จากนั้นก็เอาไปชูตหน้าตาเฉย มันน่าสนุกตรงไหนกัน? ทำไมคนหลายคนจะต้องมาวิ่งไปมาจนเหนื่อยหอบเพื่อเอาลูกบาสไปชูต
“โถ่เว้ย! เธอโง่หรือไงเอวา?! ปล่อยให้ไอ้คุณมาแย่งบาสไปได้ไงเนี่ย?!” ผ่านไปราวๆ ยี่สิบนาที เอวาเหนื่อยจนเริ่มไม่ไหว ฮุคก็เอาแต่ด่าเธอไม่เลิก ก่อนจะยอมแพ้ เดินออกไปนั่งกับแฟนที่ริมสนาม
“ไอ้ขี้แพ้!”
“ฮะๆ เธอแม่งสุดยอดเลยว่ะเอวา วันนี้ได้เงินไปใช้ฟรีๆ อีกแล้วเว้ย!” ส่วนออสตินก็ฉีกยิ้มดีใจ เหมือนว่าการแข่งขันจะสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ต้องเดาว่าฝ่ายเอวากับฮุคเป็นฝ่ายแพ้ ออสตินเดินตามฮุคไปนั่งพัก ตอนนี้ก็เหลือแค่เธอกับแทนคุณ
“จะกินช็อกโกแลตปั่นหรือไอติม?” ชายหนุ่มเลี้ยงลูกบาสมาหยุดตรงหน้าหญิงสาว
“เล่นพนันกันอีกแล้วเหรอ? ขี้โกงนี่…นายรู้ว่าฉันห่วยแตก โยนฉันไปอยู่ทีมฮุค ยังไงฮุคก็ต้องแพ้อยู่แล้ว”
“หึ! ถ้าพวกฉันชนะได้เงินแค่เท่าเดียว แต่ถ้าไอ้ฮุคชนะ มันจะได้เงินสองเท่า ขี้โกงตรงไหน?”
“แล้วฉันได้อะไร?”
“ได้ออกกำลังกายไง หน้าเธอบานแล้วนะ รู้ตัวบ้างไหมยายหมู?!”
หมับ!
พลั่ก!!!
“อ๊ะ! เจ็บนะเอวา!”
“ก็นายมาเรียกฉันว่ายายหมูทำไมล่ะ!” เอวาใช้จังหวะที่แทนคุณเผลอ แย่งบาสมาจากเขา แล้วก็ปามันใส่อกของเขาอย่างแรง ก่อนที่จะหันหลังเตรียมจะเดินกลับมาที่ริมสนาม และในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น…
ฟิ๊ววว~~
ลูกบาสลอยมาจากไหนก็ไม่รู้ มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วและแรง พุ่งตัวเข้ามาตรงหน้าเอวา และเธอก็ทำอะไรไม่ถูก สองเท้าชะงักงันไม่ยอมก้าวหนี ในใจได้แต่คิดว่าคงเจ็บตัวอีกแล้วสินะ…คราวนี้จะเป็นตรงไหนล่ะ? หน้าผาก ปาก หรือจมูก
หมับ!
“อ๊ะ!”
พลั่ก!
ร่างบางถูกกระชากจากด้านหลัง เสียงลูกบาสตกลงพื้นที่ข้างๆ ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเก็บมันแล้วเอ่ยคำขอโทษแบบลวกๆ ก่อนจะวิ่งออกไป เอวารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองไม่ได้โดนลูกบาสกระแทกหน้า เพราะแทนคุณช่วยเธอไว้ เขาดึงเธอเข้ามาหลบด้านหลัง ปัดลูกบาสออกไป เขากำข้อมือเธอไว้แน่น และเวลานี้ทั้งสองก็อยู่ใกล้กันมาก มากพอที่หญิงสาวจะได้กลิ่นโลออนผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ และกลิ่นบุหรี่ที่ไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ไม่รู้สิ…ไม่รู้ทำไม เธอชอบกลิ่นนี้มาก…รวมๆ แล้วมันเป็นกลิ่นที่พิเศษมากสำหรับเธอ
“ถ้าไม่มีฉัน…เธอจะรอดไปได้ถึงตอนโตไหมเอวา?” แทนคุณเอ่ยถาม มองหน้าเอวาด้วยสายตาแปลกๆ
“แล้วทำไมฉันต้องไม่มีนายด้วย?”
“ยายนี่…กะจะเกาะฉันไปตลอดเลยหรือไง? อีกหน่อยก็จะไปอังกฤษแล้ว หัดรู้จักดูแลตัวเองซะบ้าง” เขาขยี้หัวเธอพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็เดินออกไป
“ใครบอกว่าฉันจะไปอังกฤษ?” เธอรู้ว่าพูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน แต่เธอไม่คิดว่าจะไปเรียนต่อจริงๆ ถ้าเขาไม่ไปด้วย
