บทที่ 7 กัดไม่ปล่อย
บ้านนทีดำรงชัย
ของขวัญเดินเข้ามาหยุดที่หน้าบ้านหลังเล็ก เก่าๆ ที่เธอต้องจ่ายค่าเช่าบ้านหนึ่งหมื่นสองพันบาทอยู่ทุกเดือน รวมค่าน้ำค่าไฟด้วยก็ราวๆ หนึ่งหมื่นห้าพันบาท ไหนจะค่ายาของพ่อ ค่าหนี้นอกระบบอีกสองหมื่นบาท พูดง่ายๆ ว่าหากเธอแค่ทำงานในโรงพยาบาล ไม่รับงานพยาบาลพิเศษ เงินที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็คงไม่พอ
“เหนื่อยจัง…” หญิงสาวถอนหายใจออกมา เธอเหนื่อย เหนื่อยทั้งใจและกาย และไม่อยากเข้าไปในบ้านให้พ่อกับแม่เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าและเศร้าหมองของตัวเอง เธอเลยต้องนั่งอยู่หน้าบ้าน นั่งปรับอารมณ์ เอาความหมองเศร้านี้ออกไปก่อนที่จะเข้าบ้าน
ในตอนที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรถโรลส์ รอยซ์ สีดำที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน แน่นอนว่าในซอยนี้ไม่มีบ้านหลังไหนที่จะมีเงินถุงเงินถังไปซื้อโรลส์ รอยซ์มาขับได้ และ…มันช่างคุ้นตาเธอเหลือเกิน แต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ประตูรถก็ถูกเปิดออก…ร่างสูงในชุดสูทสีดำลงมาจากรถ เขาล้วงสองมือลงในกระเป๋ากางเกง จ้องมองมาที่เธอพร้อมการเหยียดยิ้ม
“คุณ!” ของขวัญหยัดตัวยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาก็คือโปรด มาเฟียที่คอยตามราวีเธอราวกับว่ามันคือเรื่องสนุกที่เขาชอบทำ
“ฉันมารอตั้งนาน! ไปเถลไถลที่ไหนมาถึงได้มาช้านัก?” เขาถามขณะที่เดินเข้ามาใกล้เธอ และใช่เขามันเป็นพวกกัดไม่ปล่อย ในเมื่ออยากได้อะไรแล้ว เขาต้องได้ จะไม่เลิกราหรือยอมแพ้ถ้าหากว่าสิ่งนั้นยังไม่มาอยู่ในมือ
“ฉันไม่รู้นี่คะว่าคุณจะมารอ! แล้วฉันก็ไม่ได้เถลไถล! เราคุยกันไปแล้วที่ป้ายรถเมล์ว่าฉันไม่สนใจข้อเสนอของคุณ! แล้วคุณจะมาดักรอฉันทำไมคะ?! หรือว่า…” ของขวัญทำตาเบิกโต มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น “คุณจะมาทำร้ายพ่อแม่ของฉันเหรอคะ?!”
“หึ”
“ยิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังไง?! ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจะหาเงินมาคืนให้แน่นอน! อย่ามาแตะต้องพ่อแม่ของฉันนะ! คุณไม่เคยได้ยินเหรอคะว่าเมื่อไหร่ที่คุณบีบให้คนคนหนึ่งอ่อนแอมากๆ บีบให้เขาจนมุม เขาก็จะยอมตาย…แต่ก่อนที่จะตายเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเอาคืน! คุณไม่กลัวว่าฉันจะทำแบบนั้นบ้างเหรอคะ?!” ของขวัญตีโพยตีพาย พูดทุกอย่างที่คิดว่ามันอาจช่วยทำให้โปรดหยุดการกระทำ ทว่า…
“ฮะๆๆๆๆ” เขากลับหัวเราะลั่นออกมา
“หะ…หัวเราะทำไมคะ?! คะ…คุณคิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ?! มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด!”
“มันตลก! ฮะๆๆ ตลกสุดๆ เลย! นี่เธอกำลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?!”
หมับ!
“อ๊ะ!” หญิงสาวนิ่วหน้าเจ็บ เมื่ออยู่ๆ มาเฟียหนุ่มก็เข้ามาคว้าแขนทั้งสองข้างของเธอไปบีบจนแน่น “ฉะ…ฉันเจ็บนะคะ…”
“ฟังนะ ถ้าฉันจะทำร้ายพ่อแม่เธอ…คิดเหรอว่าพวกเขาจะอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ การทรมานใครสักคน มันไม่ใช่แค่ทำให้พวกมันเจ็บตัวหรอกนะ ต้องทำให้เจ็บใจ…ทุกข์อยู่กับความรู้สึกผิดบาป หมดหวัง เสียใจและตายเพราะความรู้สึกผิด นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันจะทำกับพ่อเธอ!”
“…” ของขวัญพูดไม่ออก เพียงมองลึกเข้าไปในดวงตา เธอก็รู้ว่าเขาพูดมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ และเธอกลัวเหลือเกินว่าเขาจะทำมันสำเร็จ
“ที่ฉันมารอเธอ ก็เพื่อจะบอกว่าฉันมันเป็นพวกกัดไม่ปล่อย คิดไหมว่าฉันรู้…ว่าเธอไม่ทางหาเงินห้าสิบล้านมาได้ภายในเวลาหนึ่งเดือนแน่ แล้วฉันจะคอยดูว่าเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะเลือกขายวิญญาณให้ใคร!”
“ฮึก! คุณรู้…รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่มีปัญญา แต่ทำไมยังมาทำแบบนี้กับฉันคะ? คุณอยากได้วิญญาณของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“สิ่งที่ฉันต้องการคือความสะใจ!”
“ต้องให้พ่อฉันตายใช่ไหมคะ คุณถึงจะหยุด?”
“คงใช่…”
“งั้นก็ทำต่อไปค่ะ แก้แค้นต่อไป…อย่าหยุดนะคะ เพราะฉันก็จะปกป้องพ่อของฉันอย่างถึงที่สุดเหมือนกัน!”
“…” สองสายตาสบกันไม่วาง ฝ่ายหนึ่งคือผู้ไล่ล่า ร้ายกาจและหิวโหยชัยชนะไม่ต่างจากหมาล่าเนื้อ อีกฝ่ายคือผู้ถูกล่า อ่อนแอ บอบบาง ไร้ทางสู้ ไม่ต่างอะไรกับกวางหลงฝูง
“ปล่อยฉันค่ะ…” และเมื่อจ้องตากันอยู่นาน หญิงสาวก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของอีกฝ่ายกำลังเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ
“…” และเขาทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนไหวช้าๆ เอียงคอเพียงเล็กน้อย ปลายจมูกของคนทั้งสองเกือบจะสัมผัสกัน
“คุณมาเฟีย! จะทำอะไรของคุณคะ! บอกให้ปล่อยฉันไง!” ดูเหมือนของขวัญจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร เธอพยายามเบี่ยงหน้าหนีและดันตัวเขาให้ออกห่าง แต่ยิ่งขัดขืนก็เหมือนจะยิ่งทำให้เขาโอบรัดเธอแน่นมากขึ้น
“ฉันชื่อโปรด…” เขาเอ่ย สายตาจับจ้องอยู่ที่เรียวปากแดงของหญิงสาว “เรียกชื่อฉันสิ”
“ฮึก! คุณโปรด…อย่าทำแบบนี้นะคะ! ปล่อยฉันนะคะ!”
“คิดว่าจะห้ามฉันได้ไหม?”
“อื้อ!”
จบคำนั้นหมาล่าเนื้อก็โกยกินกวางหลงฝูง เขาขย้ำเธอด้วยเรียวปาก ประกบจูบและบดเบียดอย่างลึกซึ้ง รสจูบเต็มไปด้วยความร้ายกาจและเอาแต่ใจ เขาเพียงแต่อยากจะขย้ำเธอ อยากทำให้เธอร้องไห้ อยากให้เธออ้อนวอนเขา อยากให้เธอสยบแทบเท้า ซุกลงมาที่กลางอก และบอกว่าเธอยอมเขาแล้ว และเธอจะทำทุกอย่างที่เขาต้องการ ขอเพียงเขาพอใจ…เธอพร้อมจะมอบทุกสิ่งอย่างที่มีให้เขา
“อื้อ!” ของขวัญพยายามดีดดิ้นขัดขืน แต่แล้วเธอก็โดนเขาบีบปาก สอดลิ้นเข้ามาดุนดันและดูดดึง รสจูบของเขามันแปลกประหลาด บางครั้งมันเร่าร้อน ชวนให้รู้สึกวาบหวาม บางครั้งก็เผ็ดร้อนจนรู้สึกร้อนรุ่มอยากจะถอนออกในเร็วไว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นรสจูบแบบไหน หากมันคือการบังคับขืนใจ เธอก็ไม่ต้องการ
กึด!
“อ๊ะ!” และมันเป็นอีกครั้งที่ของขวัญกัดโปรด แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้กัดปาก เธอกัดลิ้นของเขา กัดมันอย่างแรงและกัดไม่ยอมปล่อย จนเขาต้องหยุดจูบเธออย่างกะทันหัน และส่งเสียงร้องออกมา
“อั๊นอ้ออัดไอ้อ่อยเอื๋อนอันอ่ะ!” หญิงสาวทำเสียงอู้อี้ ฟันยังงับลิ้นร้อนไม่ยอมปล่อย
“อ่อย!!!”
“อื้อ!!!”
“อ๊ะ!!!” จนแล้วจนรอด โปรดจำต้องใช้มือง้างฟันของหญิงสาวให้เปิดออก เพื่อให้เธอเลิกกัดลิ้นเขา ด้วยแรงของเขาที่มีมากกว่าเธอ ทำให้เขาทำมันได้สำเร็จ
“ฮึก! ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะคะที่กัดไม่ปล่อย! ฉันเองก็กัดไม่ปล่อยเหมือนกันค่ะ!” ของขวัญโพล่งออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
“เธออยากตายใช่ไหม?! กล้าดียังไงมากัดฉัน?!”
“อะไรที่เข้ามาอยู่ในปากฉัน…ฉันก็มีสิทธิ์กัดมันไม่ใช่เหรอคะ?!”
“ถ้าลิ้นฉันเป็นแผลแม้แต่นิดเดียว…เธอโดนดีแน่!”
“จะมาโทษกันไม่ได้นะคะ! คุณมาจูบฉันเอง! คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นด้วยซ้ำ! ถึงฉันจะติดหนี้คุณ…แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายของฉัน!”
“หึ! ฉันจูบเธอ! มันคือการทำร้ายร่างกายตรงไหน?!”
“ก็ตรงที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันไงคะ! เราไม่ได้เป็นแฟนหรือชอบกัน! เราไม่ควรจูบกัน! หรือปกติคุณก็จูบกับคนอื่นไปทั่วทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเหรอคะ?!”
“…” คำถามของของขวัญทำให้โปรดพูดไม่ออก จริงอยู่ที่เขากินมื้อเช้าโดยไม่มีซ้ำหน้า แต่เขาไม่จูบ ไม่เคยมานั่งคิดว่าทำไม เพียงแต่…เขาไม่ค่อยจูบใครเท่าไหร่นัก
“เพราะต้องจูบกับคนที่ไม่ชอบ เพราะถูกบังคับให้จูบ มันถึงเหมือนการทำร้ายร่างกายไงคะ! ถ้าคุณทำแบบนี้กับฉันอีก…ฉันจะไม่ทำแค่กัดแล้วนะคะ!” เป็นอีกครั้งที่เธอขู่เขา และเมื่อขู่จบก็รีบเดินเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว
“หึ! ยายบ้านี่! สงสัยต้องโดนของแข็งแล้วจริงๆ ว่ะ!”
