บทที่ 3 อย่าส่งเสียง…ถ้าไม่อยากตาย
โรงพยาบาล
แม้จะเกิดเรื่องมากมายที่บ้าน แต่เมื่อถึงเวลา…ของขวัญก็ยังต้องมาทำงาน การเป็นพยาบาลคือหนึ่งในความฝันของเธอ ครั้งหนึ่งเธอเคยได้เห็นภาพจากสารคดี ได้เห็นถึงความสำคัญของนางฟ้าในชุดขาว ที่จริงเธอจะเรียนหมอเลยก็ได้ ด้วยความขยันและการตั้งใจเรียน แต่เธอไม่ได้อยากเป็นหมอ…ที่เธอต้องการคือการช่วยคุณหมอดูแลคนไข้ก็เท่านั้น และทั้งๆ ที่รู้ว่าการเป็นพยาบาลมันเหนื่อยและค่าตอบแทนก็ไม่ได้สูง โดยเฉพาะกับโรงพยาบาลรัฐ
“คุณป้าเป็นยังไงบ้างคะ?” ของขวัญเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาล แม้ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ที่นี่ก็ยังมีห้องสำหรับผู้ที่มีความสามารถที่จะจ่าย
“ป้ารู้สึกดีจ่ะ หนูพักอยู่ไม่ใช่เหรอ? จะมาดูแลป้าทำไม?” รัศมี คือผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวีไอพีมาหลายปี และเวลาที่ของขวัญว่างจากงาน เธอก็จะมาชวนรัศมีคุย เพราะรู้ว่ารัศมีนั้นค่อนข้างเหงา เนื่องจากไม่เคยมีใครมาเยี่ยม เพราะเธอไม่เคยเห็นญาติหรือลูกมาที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ขวัญมาชวนคุณป้าคุยค่ะ ใครซื้อส้มมาให้คะ? ขวัญปอกให้นะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ทว่านัยน์ตานั้นเศร้าหมองจนอีกฝ่ายสังเกตได้ ที่จริงแล้วรัศมีมีพยาบาลพิเศษคอยดูแล แต่พยาบาลคนนั้นมีธุระมากมาย ทั้งเรื่องงานนอก ทั้งเรื่องแฟน เลยทำให้ไม่สามารถมาดูแลรัศมีได้ จึงขอให้ของขวัญมาช่วย โดยการแบ่งเงินให้ของขวัญเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้าตัวที่ใช้เพียงชื่อขอไปใช้เองสามสิบเปอร์เซ็นต์ นับจากวันแรกที่เริ่มงานจนถึงตอนนี้ ของขวัญก็อยู่ดูแลรัศมีมาหกเดือนแล้ว
“ป้าฝากพยาบาลชื่อนวลซื้อมาน่ะจ่ะ หนูขวัญก็กินด้วยสิ”
“นี่ค่ะ” พยาบาลสาวยื่นส้มให้รัศมี ก่อนจะเผลอหลุดถอนหายใจออกมา
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจใช่ไหม?”
“คะ?”
“ป้ามองออกนะ มีเรื่องอะไรก็บอกป้าได้นะ ถึงป้าจะป่วย…ดูเหมือนช่วยอะไรไม่ได้ แต่ป้าก็เป็นผู้ฟังที่ดีนะ”
“…” ของขวัญไม่เคยอยากจะเอาเรื่องทุกข์ใจไปเล่าให้ใครฟัง โดยเฉพาะกับผู้ป่วย เพราะแบบนั้นเธอถึงได้เลือกที่จะเงียบ
“หนู…จำได้ไหมวันแรกที่เราเจอกัน ป้าไม่ยอมพูด แต่เพราะหนูคอยมาชวนป้าคุย เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ป้าฟัง จนป้าทนไม่ไหวต้องถามออกมา แล้วหลังจากนั้นเราก็เป็นเหมือนเพื่อนต่างวัย”
“ค่ะ ขวัญจำได้ค่ะ”
“แล้วเพื่อน…จะไม่เล่าเรื่องทุกข์ใจให้เพื่อนฟังเหรอ?”
“ขวัญไม่อยาก…”
“คิดซะว่าป้าเป็นกล่องเก็บความลับสิ…ระบายออกมาเถอะ ป้าจะรับฟังเอง”
แหมะ!
วินาทีที่รัศมีแตะมือลงบนหลังมือเล็ก น้ำตาก็หยดลงมา ความอัดอั้นและความทุกข์ใจทำให้ของขวัญไม่อาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เธอช้อนสายตาขึ้นมองรัศมี พอได้เห็นรอยยิ้มแสนอบอุ่น เธอก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
“หนูมีหนี้อยู่ห้าสิบล้านค่ะ…”
“ห้าสิบล้าน?”
“เป็นหนี้ที่เกิดจากความผิดพลาด…พ่อของหนู…” ของขวัญเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้รัศมีฟัง เล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงเมื่อเช้านี้ ที่เจมส์บอนด์หรือชายชุดดำมาทวงหนี้ที่บ้านของเธอ…เรื่องเล่าทั้งหมดทำให้รัศมีได้รู้ว่าโลกใบนี้มันกลมแค่ไหน เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับเรื่องที่ครอบครัวของเธอเจอเมื่อสิบกว่าปีก่อน และเธอรู้…ว่าเมทัส พ่อของเพื่อนต่างวัยของเธอคนนี้ คือต้นเหตุที่ทำให้สามีของเธอฆ่าตัวตายในคุก และเธอเองก็ต้องมาป่วยตอนติดเตียงอยู่แบบนี้
“มาเฟียคนนั้น…หนูรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?” รัศมีเอ่ยถามทันทีที่ของขวัญเล่าจบ
“…” คำตอบมีเพียงการส่ายหน้า “ขวัญไม่เคยเจอเขาค่ะ ขวัญรู้แค่ว่าเขาเป็นมาเฟีย”
“แล้วพ่อของหนู…เขาสำนึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไหม?”
“ฮึก! พ่อทรมานมากค่ะ พ่อโทษตัวเองและร้องไห้อยู่ทุกคน หลายครั้งที่พ่อพยายามฆ่าตัวตายและขวัญกับแม่ก็ช่วยไว้ได้”
“คนเราน่ะ…จะสำนึกได้ก็เมื่อได้เจอกับตัวเอง ป้าอยากช่วยหนูนะ…อยากจะช่วยเพราะหนูไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย ทั้งหมดมันเป็นกรรมที่ผู้ใหญ่ก่อเอาไว้ทั้งนั้น แล้วนี่…หนูมีเวลาแค่สามวัน จะเอาเงินที่ไหนไปใช้มาเฟียคนนั้นล่ะ?”
“หนูไม่รู้เลยค่ะ ตอนนี้หนูหลังชนฝา คิดหาทางไม่ออกเลย”
“หนูต้องจ่ายเท่าไหร่?”
“คะ?”
“ครั้งนี้ป้าจะช่วยหนู…บอกมาว่าหนูต้องจ่ายหนี้งวดนี้เท่าไหร่?”
“ไม่ได้นะคะคุณป้า…หนูเอาเงินคุณป้าไม่ได้ค่ะ”
“เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ ป้าพอมีเงิน…บอกมาเถอะว่าเท่าไหร่ ถ้าป้าไม่ได้ช่วยหนู ป้าต้องนอนไม่หลับแน่”
“สองหมื่นค่ะ”
“ป้าจะโอนให้…หนูหยิบโทรศัพท์ให้ป้าหน่อยจ่ะ”
“คุณป้า…”
“เอาเถอะ…ให้ป้าได้ช่วยหนูนะ มีเงินเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาคืนป้าก็ได้”
“ฮึก! ขอบคุณนะคะ ขอบคุณคุณป้ามากจริงๆ” ของขวัญรู้สึกโล่งใจราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก แต่ถึงแม้จะยกออกไปได้หนึ่งลูก มันก็ยังมีภูเขามากมายเหลือเกินในอกของเธอ
เวลาเที่ยงคืน เป็นเวลาที่โรงพยาบาลเงียบสงัด พยาบาลที่เข้าเวรก็น้อยลงไปกว่าครึ่ง เวลาแบบนี้เป็นเวลาอันสมควรที่มาเฟียจอมวายร้ายจะมาเยี่ยมผู้เป็นแม่ เขามาคนเดียว ทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจนเคยชิน และที่ไม่ยอมให้มีใครมาด้วยก็เพราะคนง่ายต่อการหลบหนี หากมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล
“เป็นยังไงบ้างครับ?” เขาเอ่ยถาม เมื่อผู้เป็นแม่ลืมตาตื่นขึ้นมา
“เมื่อไหร่จะเลิกมาปลุกแม่กลางดึกสักที? ทำไมไม่มาตอนกลางวันแบบคนธรรมดา?” รัศมีเอ่ยถามลูกชาย ถามไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร
“แม่ก็รู้…ว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้”
“ต้องให้แม่บอกกี่ครั้งกันนะโปรด? ว่าแม่ไม่ชอบเลย…ที่ลูกไปเป็นมาเฟีย”
“แล้วต้องให้ผมบอกกี่ครั้งครับ? ว่าต้องเป็นมาเฟียเท่านั้น ผมถึงจะอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แม่ลองคิดดูว่าถ้าผมไปทำงานปกติ ผมจะเอาเงินที่ไหนมารักษาแม่ ให้แม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลมาเป็นสิบๆ ปี จะเอาเงินที่ไหนมาจ้างพยาบาลพิเศษ?”
“คิดว่าแม่ไม่รู้เหรอว่าลูกทำได้ ลูกแม่เก่งแค่ไหนแม่รู้ดีกว่าใคร และไม่จำเป็นต้องเป็นมาเฟีย ลูกก็มีปัญญารักษาแม่ แต่ที่ลูกเลือกเดินทางนี้…เพราะลูกต้องการจะแก้แค้นคนที่มันทำกับเรา”
“…” โปรดนิ่งเงียบ เพราะแม่ของเขาพูดถูกทุกอย่าง
“พอเถอะนะ แม่ขอ…ไม่ว่าลูกจะแก้แค้นยังไง มันก็ไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนหรอกโปรด และแม่ว่า…เมทัสก็คงได้รับผลกรรมไปแล้ว”
“แม่พูดเหมือนรู้อะไรมาเลยนะ”
“แม่ก็แค่คนป่วยที่นอนติดเตียง…จะไปรู้อะไรกับใครเขา”
“แม่ครับ…หนี้ชีวิต ต้องชดใช้ด้วยชีวิต เมทัสต้องตายด้วยมือผม ผมถึงจะหยุดทุกอย่าง”
“โปรดนี่ลูกจะเชื่อฟังแม่สักครั้งไม่ได้เลยหรือไง?”
“ผมจะเชื่อฟังแม่ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องไอ้เมทัส” จบคำนั้นมาเฟียหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน เขาหันหลังให้ผู้เป็นแม่ เตรียมตัวที่จะเดินออกไป แต่แล้วในเวลาอันรวดเร็วนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก
พรึ่บ!
โปรดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รีบเปิดประตูระเบียงและเข้าไปแอบอยู่ด้านหลัง นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาคาดคิด ปกติเวลาเที่ยงคืนแบบนี้…จะไม่มีพยาบาลเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย แต่ทำไม…
“คุณป้า…หลับหรือยังคะ?” ของขวัญที่กำลังจะเลิกงาน เดินเข้ามาหารัศมี ที่จริงเธอออกเวรไปตั้งแต่สี่ทุ่ม แต่เพราะเผลอหลับจนเลยเวลามาถึงเที่ยงคืน ก็เลยเข้ามาดูรัศมีก่อนจะกลับบ้าน
“…” รัศมีแกล้งทำเป็นหลับ
“หลับแล้วสินะ…” พยาบาลสาวตรวจเช็กสายน้ำเกลือ ก่อนจะห่มผ้าให้คนที่นอนอยู่บนเตียง “ขวัญขอบคุณคุณป้ามากเลยนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ขวัญสัญญาว่าจะตอบแทนคุณป้าให้ได้ค่ะ”
“…”
“ขวัญกลับก่อนนะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
พรึ่บ!
โปรดกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ของขวัญเดินออกไป รัศมีลืมตาขึ้นมามองลูกชาย จ้องเขาด้วยดวงตาแข็งทื่อ
“ถ้าลูกทำงานธนาคารหรือเป็นวิศวกร ก็คงไม่ต้องมาหลบซ่อนแบบนี้!”
“นั่นใครครับ?” โปรดเห็นหน้าของขวัญอย่างชัดเจน และเขารู้ดีว่าเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของเมทัส
“พยาบาลพิเศษที่ลูกจ้างมาให้ดูแลแม่ไง”
“ไม่ใช่คนนี้ครับ!” จบคำนั้นมาเฟียหนุ่มก็รีบตามของขวัญไปอย่างรวดเร็ว ทว่า…เมื่อเขาเปิดประตูออกมา กลับพบว่าเธอยืนรอเขาอยู่ที่หน้าห้อง
“คุณเป็นใครคะ?!” เขาถามเสียงดัง “ฉันรู้ว่าคุณอยู่ในห้องคุณป้า! เพราะประตูระเบียงมันเปิด! แล้วฉันก็เห็นรองเท้าของคุณโผล่มา! บอกมานะคะว่าคุณเป็นคะ…อ๊ะ! อื้อ!!!” แม้ว่าของขวัญจะมีหูตาที่เฉียบแหลม แต่เรื่องความเร็ว เธอสู้โปรดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ร่างบางก็คว้าเข้ามาปิดปาก ก่อนที่เขาจะพาเธอออกมาที่บันไดหนีไฟอย่างรวดเร็ว…
“ชู่! อย่าส่งเสียง...ถ้าไม่อยากตาย"
