บทที่ 8 จูบทางอ้อม
The Box
ฉันกลับมาที่ออฟฟิศในตอนใกล้เลิกงาน พี่คุณเรียกให้ฉันเข้าไปคุย นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันได้คุยกับพี่คุณในห้องทำงานของเขาแบบสองคน ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาหกเดือน
“ไปคุยงานกับคุณโซเฟียมาเป็นยังไงบ้าง?” พี่คุณมักจะมองฉันด้วยสายตาห่างเหิน ที่จริงมันก็ควรเป็นแบบนั้นเพราะเราไม่ได้สนิทกันเท่าที่ควร แต่สายตาห่างเหินของเขา ยังไงมันก็ยังดูอบอุ่นอยู่ดี
“หนูไม่ได้ไปคุยกับคุณโซเฟียมาหรอกค่ะ แต่เป็นคุณรามิลต่างหาก”
“คุณรามิลลงมาดูงานนี้เองเลยเหรอ?” ดูเหมือนว่าพี่คุณจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น
“ค่ะ” ฉันจำเป็นต้องเฉไฉสายตามองไปทางอื่น เพราะถ้าเอาแต่มองหน้าพี่คุณอย่างเดียว มีหวัง…ฉันต้องบ้าก่อนแน่ๆ
“แล้วเขาว่ายังไงบ้าง? รีเควสต์อะไรมา…พี่อยากรู้ เผื่อว่าถ้าทีมโปรดักชันของเราไม่พร้อม หรือทำไม่ได้ พี่จะได้หาทางอื่นมาช่วย”
“เอ่อ…เขาไม่พูดอะไรเลยค่ะ ไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย เขาบอกแต่ว่าอยากให้เราทำโฆษณาให้ แค่นั้นเอง”
“…” พี่คุณนิ่งไป เหมือนกำลังใช้ความคิด
“งั้นจันทร์เจ้าก็ต้องเจองานหนักแล้วล่ะนะ ถ้าครีเอทีฟได้ยินเรื่องนี้…คงโวยวายแน่”
“ค่ะ หนูคิดว่าคงต้องไปคุยกับพี่อาร์โนก่อน เผื่อว่าเขามีไอเดียอะไร จะได้เอาไปเสนอให้คุณรามิลเขา” พี่อาร์โนคือหัวหน้าทีมครีเอทีฟ แค่คิดว่าฉันกลับมามือเปล่า แล้วจะต้องไปมอบความว่างเปล่าให้พี่เขา ฉันก็อยากจะทุบหัวตัวเองแล้ว
“จันทร์เจ้า…”
“คะ?”
“ถ้าลำบากใจ หรือคุยงานกับคุณรามิลแล้วรู้สึกว่าเขาไม่โอเค แย่ที่สุด…ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีอย่างคุกคามหรือทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่ต้องอดทนนะ บอกพี่ได้เลย” นี่ไง…นี่คือความอบอุ่นของพี่คุณ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกอะไรมากมาย แต่การที่เขาบอกออกมาแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีมากจริงๆ
“ค่ะพี่คุณ…” ฉันฉีกรอยยิ้มสดใสในทันที
“เย็นแล้ว กลับบ้านเถอะ พรุ่งนี้ค่อยไปคุยกับทีมก็ได้ ว่าแต่…คุณรามิลเขาไม่ได้บอก Deadline มาใช่ไหม?
“ไม่ค่ะ เขาไม่ได้บอกอะไรเลย”
“เคลียร์ให้ชัดเจนนะ ถามเอาจากคุณโซเฟียเลขาเขาก็ได้”
“ค่ะ”
“กลับบ้านดีๆ ครับ” พลัง Damage ที่พี่คุณปล่อยใส่ฉัน มันทำให้ฉันอยากจะกรี๊ดออกมา ‘กลับบ้านดีๆ ครับ’ เหรอ? บ้าจริง! เขาจะหลอมละลายฉันหรือไงนะ?
Home
ฉันแวะซื้อของสดจากร้านชำของป้าน้อย ก่อนจะกลับมา พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็จัดการเข้าครัวเพื่อทำมื้อเย็น จนป่านนี้แล้วเจ้าเด็กบ้าเจเจก็ยังไม่กลับบ้าน ตั้งแต่ที่ฉันซื้อมอเตอร์ไซค์คันแพงหูฉี่ให้ หมอนั่นก็กลับบ้านดึกตลอด คิดว่าถ้ามีเวลาต้องจับมานั่งคุยซะแล้ว
ว่าแต่…เต้าหู้อยู่ไหนนะ?
ฉันคิดเมนูเอาไว้ในใจ กะว่าวันนี้จะทำไข่ยัดไส้กับเต้าหู้ทอด แต่ค้นตู้เย็นทุกซอกทุกมุมแล้ว กลับหาเต้าหู้ไม่เจอ สงสัยคงต้องออกไปซื้อ ฉันหยิบกระเป๋าเงิน คว้าเสื้อคลุมมาใส่ แล้วออกจากบ้านมาที่ปากซอย หยิบเต้าหู้มาสี่อัน หางตาเหลือบเห็นน้ำส้มคั้นสดๆ ที่ดูน่ากินล่อตาล่อใจ ก็เลยหยิบมาขวดนึง คิดเงินจ่ายเงินเสร็จก็ออกมาหน้าร้าน เท้าต้องชะงักลงในทันที เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังยืนพิงรถยนต์ยี่ห้อหรูสีดำ จ้องมองฉันอยู่
“คุณรามิล?” ฉันเอ่ยชื่อของเขา
“เธอไม่รับสายฉัน ไม่ตอบแชทของฉันด้วย จะลองดีหรือไง?” น้ำเสียงที่ว่าเข้มแล้ว ยังสู้สายตาคู่นั้นไม่ได้
“มือถือหนูอยู่ในห้องนอนค่ะ” และใช่ ฉันไม่ได้เลี่ยงเขานะ แต่วันนี้ฉันมีอะไรให้ต้องทำมากมายจนไม่มีเวลามาสนใจโทรศัพท์มือถือ
“ข้ออ้างแบบนี้ ฉันได้ยินจนเบื่อแล้ว”
“คุณรามิลมีธุระอะไรกับหนูเหรอคะ?” ที่จริงฉันสงสัยเรื่องอื่นมากกว่า อย่างเรื่องที่ว่าเขามาดักรอฉันเหรอ? หรือเขารู้จักบ้านฉันได้ยังไงแล้วก็…วันศุกร์ที่แล้ว ที่ฉันเจอเขาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม?
“มีสิ มีเยอะเลยด้วย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนที่จะเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน ดึงน้ำส้มจากมือฉันไปเปิดแล้วกระดกดื่มจนมันหายไปครึ่งขวด เป็นการกระทำที่น่าตกใจมากทีเดียว
“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ คุณดื่มให้หมดเลยก็ได้ เดี๋ยวหนูซื้อขวดใหม่ค่ะ” พอเขายื่นน้ำส้มคืนฉัน ฉันก็รีบทำมือโบกไปมา
“ฉันอยากดื่มแค่ครึ่งขวด มันยังเหลืออยู่อีกครั้ง…ดื่มสิ”
“คะ?” นี่เขาจะให้ฉันกินต่อจากเขางั้นเหรอ? แบบที่ไม่มีหลอดน่ะเหรอ?
“ทำไม? รังเกียจหรือไง?” เขานิ่วหน้าเหมือนไม่พอใจ
“ปะ…เปล่านะคะ”
“งั้นก็รับไป…แล้วดื่มมันซะ” เขาออกคำสั่ง ฉันเลยจำใจต้องรับขวดน้ำส้มต่อมาจากเขา แต่ก็ไม่ได้คิดจะดื่มมันหรอกนะ
“ตกลงคุณรามิลมีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ?”
“ดื่มน้ำส้มก่อน แล้วฉันจะบอกเธอ” เขาจ้องฉันไม่วางตา เหมือนว่าถ้าฉันยังลีลาไม่ยอมดื่ม เขาจะจับมันกรอกปากฉัน แล้วเพราะแบบนั้นฉันเลยจำใจดื่มน้ำส้มจนหมดขวดเพื่อให้เรื่องมันจบอย่างรวดเร็วที่สุด
“หึ!” การแสยะยิ้มของเขามันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก โง่ที่ยอมทำตามคำสั่งของเขาอย่างว่าง่าย โดยที่ไม่ตั้งคำถามอะไรเลย
“หนูดื่มหมดแล้วค่ะ”
“เราจูบกันแล้วนะ”
“คะ?!”
“ก็เธอดื่มน้ำส้มต่อจากฉัน…ก็เท่ากับว่าเราจูบกันทางอ้อมไม่ใช่เหรอ?”
พูดไม่ออกเลย…เขาทำให้ฉันรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า จนลามไปถึงใบหู แล้วในตอนที่ฉันกำลังอึ้งทำอะไรไม่ถูก เขาก็…
“อ๊ะ!” เข้ามาคว้าเอวฉันไปโอบ กระชับตัวฉันให้แนบชิดกับแผงอกของเขา ยื่นใบหน้าลงมาใกล้ จนปลายจมูกของเราแทบจะสัมผัสกัน ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา และเสียวหัวใจที่เต้นรัวของตัวเอง “คะ…คุณรามิล?”
“ถ้าไม่อยากให้ฉันจูบเธอจริงๆ ก็อย่าได้คิดหลบหน้าฉัน…เธอต้องรับสายฉันทุกครั้งที่โทรหา แล้วก็ต้องตอบแชทฉันด้วย ฉันมาเพื่อบอกเธอแค่นี้แหละ”
“ฮึก!” เขาปล่อยมือจากฉัน ก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถ จังหวะนั้นฉันถึงได้สูดเอาออกซิเจนเข้าปอด
“กลิ่นเธอน่ะ…หอมดีนะจันทร์เจ้า” จบคำนั้นเขาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไม่รอให้ฉันได้พูดอะไรทั้งนั้น กลิ่นฉันเหรอ? กลิ่นอะไร? กลิ่นแชมพูหรือกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือว่า…กลิ่นความใสซื่อล่ะ? นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?! แล้วสรุป…ฉันเสียจูบแรกไปหรือยังนะ?
