บทที่ 2 ยินดีต้อนรับเข้าสกุลหลง (4)
“ข้าชอบดอกโบตั๋น” ขณะพูดนางหยิบถุงหอมปักรูปดอกโบตั๋นขึ้นมามองอย่างอาลัยเจ้าของ
“จริงหรือเจ้าคะ อะ นั่นอะไรเจ้าคะ” เสี่ยวซินชี้ไปที่ถุงหอมสีเหลืองใบเล็ก
“นี่เป็นถุงหอมที่ท่านแม่ข้าเย็บให้ ใบเล็กนิดเดียวแต่ท่านแม่ยังปักลายดอกโบตั๋นลงไปอีกดอกหนึ่ง เจ้าดูสิ” มู่อิงหวายื่นถุงหอมไปข้างหน้าเสี่ยวซิน
“จริงด้วยเจ้าค่ะ ฝีมือช่างประณีตเหลือเกินเจ้าค่ะ” มู่อิงหวายิ้มแล้วยกถุงหอมขึ้นมาจรดจมูกเพื่อสูดกลิ่นหอม
“ข้าอยากให้ท่านแม่มาเห็นสวนโบตั๋นที่นี่จัง” มู่อิงหวาเอ่ยเสียงแผ่ว เสี่ยวซินฉลาดนัก จึงรู้ว่านางคิดถึงบ้านเลยพยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“ถ้าฮูหยินน้อยชอบ บ่าวจะตัดไปปักแจกันในห้องนอนให้เจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก มันจะสวยกว่าถ้าอยู่บนต้น ข้าจะได้มาชื่นชมมันทุกวัน” มู่อิงหวายิ้มให้เสี่ยวซินและรักชอบในน้ำใจของสาวใช้คนนี้เข้าแล้ว
“อยู่กันที่นี่เอง” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นก่อนจะเห็นเจ้าตัวด้วยซ้ำ มู่อิงหวากับเสี่ยวซินหันไปมองพร้อมกัน
หญิงสาวสองนาง หนึ่งในนั้นคือเกาจินจิน อนุภรรยาของหลงเฟิงอี้ อีกคนที่เดินเคียงกันมานั้นงามชดช้อย เดินเชิดคางดูมีสง่าชวนมอง ตามมาด้วยบ่าวรับใช้ที่แบกพรมมาม้วนใหญ่และสาวใช้ส่วนตัวของทั้งสองคน
“ฮูหยินรอง” มู่อิงหวายิ้มให้อีกฝ่าย แต่ทั้งสองไม่สนใจ ทั้งยังเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ ก่อนจะรับชาจากสาวใช้ที่เดินยกถาดตามมา
“นี่คือแม่นางลี่ปิง หญิงงามของเมืองแห่งนี้ ใครๆ ก็รู้จักนางดี” เกาจินจินแนะนำอีกฝ่าย แต่ไม่มองหน้ามู่อิงหวาขณะพูด กลับก้มหน้ามองถ้วยชาหลงจินในมือแทน
“ข้าได้ข่าวว่าพี่เฮ่าเทียนแต่งงานกะทันหัน เลยอยากมาพบปะเจ้าสาวของพี่เฮ่าเทียนเสียหน่อย” ลี่ปิงยังเชิดหน้าท่าทางเย้อหยิ่ง มุมปากบางยังยกยิ้ม แต่นัยน์ตากลับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย
“ข้ามู่อิงหวา ได้รู้จักคุณหนูลี่ปิงช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
เกาจินจินส่งเสียง เฮอะ ทีหนึ่งก่อนจะมองสำรวจมู่อิงหวาอย่างไม่สำรวม สายตาบอกว่าดูแคลน
“เดิมทีข้าคิดจะไม่พูด แต่ข้าทนเห็นลี่ปิงเสียใจไม่ได้ นางสมัครรักใคร่คุณชายใหญ่มานาน คุณชายใหญ่เองก็เอ็นดูลี่ปิงมาก แต่ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าใช้กลอุบายอะไร แต่อย่าคิดว่าเจ้าจะได้ใจคุณชายใหญ่ไปครอบครอง เจ้ายังไม่รู้จักคุณชายใหญ่ดีเท่าลี่ปิง”
“ฮูหยินคุณชายรองเจ้าคะ พูดอย่างนี่เห็นจะไม่เหมาะ ในเมื่อคุณหนูมู่อิงหวาแต่งให้นายน้อยและมาเป็นฮูหยินน้อยแล้ว ท่านสมควรให้เกียรตินางไม่ใช่หรือเจ้าคะ” เพราะไม่ชอบเกาจินจินเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเสี่ยวซินเลยกล้าเอ่ยเช่นนั้นเพราะทนให้เกาจินจินเสียมารยาทกับเจ้านายของนางไม่ได้
“หุบปาก! ไพร่ชั้นต่ำ” เกาจินจินตวาดกร้าวเสียงดังจนเสี่ยวซินแตกตื่นและขยับเข้ามายืนเบียดเจ้านาย มู่อิงหวาเองก็ตกใจไม่น้อย นางคาดไม่ถึงว่าเกาจินจินจะกล้าตวาดโดยไม่เกรงกลัวผู้ใดจะได้ยิน
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยจินจิน” เสียงหวานดังมา “ข้าผิดเองที่ผูกใจกับพี่เฮ่าเทียนไม่ได้” ลี่ปิงแสร้งก้มหน้า
“ถึงยังไงตำแหน่งฮูหยินใหญ่ก็สมควรเป็นของเจ้า” เกาจินจินเอ่ยเสียงเบากับลี่ปิง
“มาพูดตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ข้า...”
“ข้าจะช่วยเจ้า” เกาจินจินยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้หญิงหน้าไหนมาคว้าตำแหน่งฮูหยินใหญ่จากเพื่อนสนิทของนางไป
มู่อิงหวาได้แต่ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก มองหญิงสาวทั้งสองนิ่ง ในขณะที่เสี่ยวซินร้อนใจ กลัวเกาจินจินกับลี่ปิงคิดจะทำอะไรเจ้านาย เสี่ยวซินรู้นิสัยสองเพื่อนรักดี ทั้งสองพยายามตีสนิทกับคุณชาย เพื่อจะพาตัวเองเข้ามาหาความสุขสบายจะได้เชิดหน้าชูตาอวดใครๆ ในเมืองนี้ได้ เกาจินจินนั้นยอมใช้กลอุบายเพื่อมัดใจคุณชายรองจนต้องรับจินจินเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างเสียมิได้ ส่วนลี่ปิงนั้นทะเยอทะยานกว่าเกาจินจิน เข้าหาทางคุณชายใหญ่ พยายามเอาอกเอาใจ มีของฝากของขวัญติดไม้ติดมือมาให้คุณชายใหญ่ไม่ขาดสาย บิดาของนางเป็นถึงพระญาติห่างๆ ของสนมโปรดขององค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน แม้จะไม่สนิทกับพระสนมแต่ชื่อเสียงสามารถเอามาแอบอ้างวางใหญ่วางโตได้พอตัว
“เชื่อเถอะ ยังไงคุณชายใหญ่ต้องรับเจ้าเป็นภรรยาอีกคนแน่นอน ข้าจะช่วยเจ้า ใครหน้าไหนข้าก็ไม่กลัวทั้งนั้น” ขณะพูดหางตากลับชำเลืองมองมาทางมู่อิงหวา
สองนายบ่าวทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งเฉย เสี่ยวซินย่อตัวลงนั่งกุมมือมู่อิงหวาไว้ นางเลยก้มหน้าลงส่งยิ้มให้
“ลุงอู๋บอกว่าเจ้ามา ข้าตามหาอยู่ตั้งนาน” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นนอกศาลาก่อนที่ร่างสูงในชุดขาวจะเดินเข้ามา ในมือถือพัดโบกเบาๆ ใบหน้ายังคงแต่งแต้มรอยยิ้มชวนมอง อีกมือไพล่หลังท่าทางสบายอารมณ์
ทุกคนในศาลาลุกขึ้นพรวด โดยเฉพาะเสี่ยวซิน และกำลังจะอ้าปากฟ้องหลงเฮ่าเทียน แต่มู่อิงหวากระตุกแขนเสื้อห้ามไว้ ลี่ปิงยิ้มกว้างก่อนจะส่งเสียงหวานหยด
“พี่เฮ่าเทียน ข้าแวะมาเยี่ยม”
“อือ” หลงเฮ่าเทียนตอบรับเสียงยาวและเดินตรงเข้าไปหามู่อิงหวาก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เอน ดึงมู่อิงหวาให้นั่งลงบนตักตน ทำให้ลี่ปิงหน้าถอดสี รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
“ท่านอาตู๋สบายดีหรือ?” หลงเฮ่าเทียนโอบเอวมู่อิงหวาไว้ อีกมือกุมมือเล็กและยกขึ้นมาจรดริมฝีปาก มู่อิงหวาได้แต่ก้มหน้ายิ้มเอียงอายและลืมเรื่องขุ่นใจก่อนหน้านั้นไปเสียสนิท เสี่ยวซินเองก็ชอบใจกับการกระทำของเจ้านายหนุ่มเช่นกัน
“ท่านพ่อสบายดีเจ้าค่ะ ก่อนออกจากบ้านท่านพ่อยังสั่งให้บอกพี่เฮ่าเทียนแวะไปเดินหมากกับท่านอีก” ลี่ปิงตอบเสียงหวานหยด แต่มือกำผ้าเช็ดหน้าแน่นจนข้อนิ้วขาว
“ได้สิ ข้าจะได้พาฮูหยินไปแนะนำท่านอาเสียเลย” หลงเฮ่าเทียนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ลี่ปิงท่าทางปกติ
ลี่ปิงนิ่งเงียบและก้มลงจิบชาจนเกาจินจินสะกิด นางเลยคิดได้และพยักหน้าให้บ่าวรับใช้ที่แบกม้วนพรมมาให้หลงเฮ่าเทียนได้ดู
“สหายของท่านพ่อได้พรมจากโพ้นทะเลมา แต่ข้าว่าลายมันเหมาะกับผู้ชายเสียมากกว่า ข้าเลยคิดถึงพี่เฮ่าเทียนขึ้นมา ถ้าไม่รังเกียจ พี่เฮ่าเทียนรับไว้ด้วยเถอะ” ลี่ปิงปรับสีหน้ายิ้มแย้มดังเดิม หลงเฮ่าเทียนมองพรมอย่างสนใจก่อนจะยิ้มให้ลี่ปิง
“พรมจากโพ้นทะเลคุณภาพชั้นเยี่ยมอย่างนี้ ท่านอาไม่เสียดายเลยหรือ”
“ท่านพ่อได้มาหลายผืน ยังบอกให้ข้าเลือกมาฝากพี่เฮ่าเทียนเลย” ท่าทางใส่บริสุทธิ์นั้นมีหรือหลงเฮ่าเทียนจะไม่รู้เจตนาของนาง เพียงแค่เขาไม่อยากหักหน้าคนสกุลลี่เท่านั้น
“เจ้าชอบหรือไม่?” หลงเฮ่าเทียนก้มลงมองใบหน้าเล็ก “ข้ายกให้เจ้า”
มู่อิงหวาเงยหน้ามองเขา เขาช่างไม่รักษาน้ำใจลี่ปิงเสียเลย แต่นั่นก็ทำให้นางแอบดีใจที่สามีไม่ได้เห็นความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนสำคัญกว่านางที่เพิ่งแต่งเข้าสกุลหลงมา
ทางด้านลี่ปิงกับเกาจินจินได้แต่มองหน้ากัน ลี่ปิงกำมือแน่นเข้าไปอีก เกาจินจินไม่กล้าเอ่ยปากกับหลงเฮ่าเทียน จึงได้แต่ก้มหน้าจิบชาต่อไป ลี่ปิงได้แต่ปั้นหน้ายิ้ม ทั้งที่อยากจะกรีดร้องและโยนพรมผืนนั้นทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด ในใจพลางคิดว่าหลงเฮ่าเทียนหลงภรรยาจนทำเมินตน รอสักระยะเถอะ นางจะเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ในฐานะฮูหยินใหญ่ของเขาให้ได้
