บท
ตั้งค่า

ตอนที่3 คำสั่งของคนชั่วช้า

เจี้ยนคังตกตะลึงนิ่งงัน มองเด็กชายตัวเล็กซึ่งมีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงเขาหลายส่วน แล้วมองไปยังด้านหลังของเด็กชายตัวเล็ก มีดรุณีน้อยใบหน้าพริ้มเพราเพิ่งเดินมาถึง ด้านหลังสุดเป็นพ่อบ้านหวงที่เดินตามเข้ามาไม่ห่าง

ทันใดนั้นเองความเงียบถูกบดบังด้วยเสียงของเด็กชายอีกคน “นี่คือท่านพ่อของข้าต่างหาก เจ้าเป็นใครกัน” เด็กคนนี้ไม่พอใจที่เห็นท่านพ่อมองคนอื่นด้วยแววตาสงสัย คล้ายพึงพอใจ

เขาจึงรีบร้อนพูดสวนอย่างรวดเร็วไม่รีรอให้ท่านพ่อโอบอุ้มใครอื่นนอกจากเขาเป็นอันขาด

เด็กคนนี้ยังเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้แฝดชายหญิง หมายมุ่งจะผลักอีกฝ่ายให้ล้มลงต่อหน้าต่อหน้า มีหรือเจี้ยนสือจะปล่อยให้ตนถูกรังแกได้ง่าย ๆ แค่เขาเบี่ยงกายหลบเล็กน้อย

เจ้าเด็กคนนี้ก็เสียหลัก แล้วยังถูกน้องเล็กของเขาขัดขาจนล้มลง

และก็เป็นดั่งที่คิดเอาไว้ เจ้าเด็กคนนี้ร้ายกาจไม่เบา ส่งเสียงร้องโอดครวญขึ้นมากะทันหัน “ท่านแม่ คนพวกนี้รังแกลูก ท่านพ่อ ท่านพ่อลูกเจ็บเหลือเกิน” เด็กชายคนนี้ฟ้องมารดา ดีดดิ้นอย่างเอาแต่ใจอยู่บนพื้น

ซ้ำยังบีบน้ำตาให้ไหลอาบสองแก้มดูน่าสงสารนัก ทั้ง ๆ ที่มิได้เจ็บปวดอันใดมากถึงขั้นต้องแหกปากร้องไห้โฮราวกับแขนขาหักเสียอย่างนั้น

เจี้ยนสือแฝดพี่แคะใบหูท่าทีคล้ายว่าเสียงนี้มันแสลงหูเสียอย่างนั้น ส่วนแฝดน้องเบะปากกล้องกลิ้งตาไปมา มองเด็กเหลือขอแสร้งร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ

นางเป็นเด็กผู้หญิงยังไม่เคยกระทำตัวน่าอับอายถึงเพียงนี้ คาดว่าคงถูกตามใจจนเคยตัว ถูกคนอื่นพะเน้าพะนอเสียจนเคยชินกระมัง

เจี้ยนคังไม่ได้ละสายตาไปจากเด็กทั้งสอง แต่เขากลับอุ้มบุตรชายที่กำลังส่งเสียงร้องไห้ขึ้นแนบอก

เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น เสียนจีฮูหยินอีกคนพูดขึ้นมา “ท่านพี่ค่อยพูดค่อยจากับพี่หญิงนะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่อยากให้พวกท่านมีปัญหากัน อีกอย่างเด็กสองคนนี้ช่างน่ารักไม่เบา”

น่ารักกับผีนะสิ!...นี่คือคำพูดในใจของเสียจี

นางย่อมไม่พอใจ ไม่คิดว่าฮูหยินของเขาจะคลอดแฝดหญิงชายออกมา ช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์นัก อีกอย่างเท่าที่นางรู้มา ครอบครัวของเจี้ยนคังมิได้ให้กำเนิดแฝดหญิงชาย หรือฝาแฝดแต่อย่างใด คาดว่าสามีของนางคงถูกสตรีนางนี้สวมหมวกเขียวให้จริง ๆ ก็เป็นไปได้

หลี่หรูหรานไม่ยินดีและไม่ยินยอมตกอยู่ในภาวะจำยอม หรืออับจนหนทาง “วันนี้ข้ามิขอสิ่งใดนอกจากคำพูดที่พูดออกไป ลูก ๆ ของข้ามิต้องการบิดาใจโลเลเช่นท่านอีกแล้ว หกปีมานี้ข้าตกอยู่ในขุมนรกก็ไม่ปาน วันนี้เป็นท่านที่ปลดปล่อยให้ข้าได้รับอิสระ”

“เจ้าพูดเยี่ยงนี้หมายความอย่างไร คิดจะหย่าขาดกับข้าอย่างนั้นหรือ” เขาไม่มีทางให้ลูกชายหญิง ตกระกำลำบากแน่ และไม่มีทางปล่อยนางให้เป็นอิสระ โทษของนางสมควรต้องถูกคุมขังเอาไว้ มิให้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน

“ท่านแม่เจ้าคะ พวกเรากลับบ้านกันเถิดเจ้าค่ะ ไม่มีเขาสักคนพวกเราก็ไม่อดตายหรอกเจ้าค่ะ” แม่หนูน้อยเจี้ยนชิงไม่ชอบสายตาของบิดา รวมถึงสายตาของสตรีร้ายกาจที่ขึ้นชื่อว่าเป็นท่านย่าและท่านอา

คนพวกนี้ชอบข่มเหงท่านแม่ของนางมาตลอด อีกอย่างวันเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีชายที่ขึ้นชื่อว่าบิดาคอยอุ้มชูดูแล พวกนางก็อยู่กันได้ หากนับจากนี้ไปถือว่าไม่มีเขาแล้วไซ้ ไยจะอยู่ไม่ได้กันเล่า

“ใช่ขอรับท่านแม่ ข้ากับน้องเล็กไม่ต้องการมีบิดาเช่นนี้” เจี้ยนสือกระตุกมือท่านแม่ ส่งสายตาให้กำลังใจ เขากับน้องสาวมักมีความคิดค่อนข้างตรงกัน ไม่แปลกแค่มองตาก็รู้ใจว่าน้องเล็กคิดอ่านอันใดกันแน่

“ท่านแม่พวกเราออกไปเถิดเจ้าค่ะ” เจี้ยนชิงรีบเสริมทัพ ไม่อยากยืนหรือหายใจกับพวกใจคอคับแคบ นางเป็นหลานสาว พี่ชายของนางก็เป็นหลานชายคนโต ท่านย่ายังไม่เคยรักใคร่เอ็นดูผู้ใด

นับประสาอันใดกับเด็กเหลือขอคนนี้ อีกหน่อยหากหมดประโยชน์ก็คงถีบหัวส่งเหมือนกับพวกนาง ไม่แลเหลียว ไม่ดูแล เอาแต่ข่มเหงรังแกและรีดไถ

หลี่หรูหรานกอดลูกชายหญิงเอาไว้พร้อมปกป้องลูก ๆ ทั้งสองไม่ให้คนใจร้ายใจดำมารังแกอีกแล้ว ถึงนางจะไร้ทางสู้ ไร้กำลัง แต่นางยังมีชีวิตก็ขอสู้ตายไม่ให้ใครหน้าไหนมารังแกลูกของนางอีก

ทว่าเจี้ยนคังกลับกระชากนางออกมาจากลูก ๆ ด้วยความรุนแรง ส่งผลให้เด็กทั้งสองล้มลงบนพื้น “ปล่อยนะ ปล่อยข้า” หญิงสาวโวยวายเสียงดังดิ้นรนขัดขืน แต่ก็ไม่เป็นผล นางถูกกักอยู่ในวงแขนอันแข็งแกร่งก็ยากนักที่จะหนีพ้นออกมา

หลี่หรูหรานส่งเสียงอยู่ไม่จางหาย คนร้อนอกร้อนใจคือแม่สามีรีบลุกพรวดพราด หวั่นว่าอาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต “ลูกแม่เจ้าจะทำอันใดนาง” ผู้เป็นมารดาออกเสียงห้าม

พยายามดึงแขนลูกชายให้ปล่อยนางแพศยาก็ไม่มีแรง ส่วนลูกชายคนเล็กก็เอาแต่นั่งบื้อ มองดูไม่ลุกมาช่วย

เสียนจีเห็นท่าไม่ดี คล้ายว่าสามียังมีเยื่อใยกับสตรีผู้นี้ จึงพูดออกมาทันใด “ท่านพี่ ปล่อยนางไปเถิดเจ้าค่ะ” นางลุกพรวดพราด ในใจของนางล้วนขุ่นข้องหมองมัวอยู่ไม่น้อย

เห็นทีท่าของสามีที่ผันเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาเดียว “ท่านพี่ ฟังข้านะเจ้าคะ อย่าฝืนบีบบังคับพี่หญิงเลยเจ้าค่ะ ใจนางไม่อยู่กับท่านแล้ว” นางพยายามรั้งตัวสามีเอาไว้ หวังเติมเชื้อฟืนเข้าไปอีกหน่อย

เจี้ยนคังไม่ฟังคำคัดค้านของผู้ใด คำรามเสียงดังก้อง “เอาตัวนางไปขังไว้ในห้องเก็บฟืน หากไม่มีคำสั่งจากข้าอย่าได้ปล่อยนางออกมาเป็นอันขาด”

“ท่านมันคนชั่ว” หลี่หรูหรานระเบิดเสียงดัง แม้นางจะพยายามดิ้นรนขัดขืนแล้วก็ไม่เป็นผล

“คนชั่วอย่างนั้นหรือ ข้าเป็นสามีของเจ้าก็แล้วกัน ให้ข้าทบทวนความหลังแต่เก่าก่อนหรือไม่” ชายหนุ่มพูดจาตอกย้ำเรื่องเก่าก่อน

หนนั้นความรักยังหวานชื่น แต่บัดนี้กลับขื่นขม วงแขนกว้างยังคงกักตัวคนตัวเล็กเอาไว้ เขาใช้กำลังน้อยนิดเท่านั้น กลับได้ยินเสียงลมหายใจเหนื่อยหอบ

ใบหน้าของหลี่หรูหรานแดงก่ำ ได้ยินคำพูดแสลงหูเยี่ยงนี้ก็อยากฆ่าเขาให้ตายนัก “เจ้ามันคนชั่ว สารเลวนัก ข้าไม่เคยเห็นใครเลวเหมือนเจ้ามาก่อน”

เจี้ยนคังกดยิ้มดุจปีศาจร้าย แววตาของชายโฉดชั่วเปี่ยมไปด้วยเพลิงโทสะ เขาประกาศศักดาด้วยน้ำเสียงดังก้อง “คนเลว คนชั่ว คนนี้ก็คือสามีเจ้า เร็วเข้านำนางไปขังที่ห้องเก็บฟืน หากไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามใครให้ข้าว ให้น้ำนางเด็ดขาด”

พ่อบ้านหวงปาดเหงื่อ งานเข้าเขาเต็ม ๆ แล้วยามนี้ เขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก กลับมีเสียงแทรกขึ้นมา “แล้วคุณชายกับคุณหนูเล่าเจ้าคะ” แม่นมหม่าเสนอหน้ารีบประจบประแจงนายน้อยทันทีทันใด

เจี้ยนคังชำเลืองมองลูกชายหญิง เห็นยืนหน้าบูดบึ้ง เขาก็อยากสั่งสอนอบรมเสียหน่อย “เอาไปขังไว้ในห้องข้า เฝ้าพวกเขาเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel