เพื่อนรัก
“แกคิดออกหรือยังว่าจะเอายังไงต่อ” ไอรินถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“คิงลูก ไม่วิ่งไปไกลนะ” นาเดียตะโกนบอกลูกชายที่กำลังวิ่งเล่นคนเดียว ณ สนามเด็กเล่นกลางเมือง
“นี่ก็ผ่านมาจะครบเดือนละ ยังไม่มีใครตอบรับใบสมัครแกมาเลยหรอ แล้วเงินพอใช้ไหมแก”
“จะตอบคำถามไหนก่อนดีหน้อ” นาเดียหยอกเพื่อน
“นี่แกยังมาทำหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนได้อีก ยิ่งแกทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมากเท่าไร ฉันยิ่งห่วงแกนะรู้ไหม”
“โอ๋ ๆ รินเพื่อนรัก ฉันรู้ว่าแกห่วงฉันกับคิง ก็ที่มาหาวันนี้ก็กำลังจะมาเล่าให้ฟังว่าฉันหาบ้านใหม่ได้แล้ว เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ค่าเช่าถูกกว่าครึ่งนึงแหนะ พอดีเจ้าของบ้านต้องการคนมาอยู่ด่วน ฉันเลยต่อค่าเช่าได้ถูกหน่อย”
“จริงดิแก แล้วแกจะย้ายวันไหน ฉันจะได้ปิดร้านไปช่วยขนของ”
“อาทิตย์หน้านี่แหละ”
“จัดไปค่ะเพื่อน แกนี่มันยอดมนุษย์หญิงจริง ๆ ยัยเดีย ถ้าเป็นฉันนะ ฉันคงได้แต่นอนร้องไห้ขี้มูกโป่ง ทำอะไรไม่ถูกละ”
“อวยกันเข้าไป ฮ่า ๆ”
“เห็นแกยิ้มได้แบบนี้ฉันก็สบายใจ แล้วเรื่องงานหละ”
“อืม ไปสัมภาษณ์มาหลายที่แต่พอมาถึงเรื่องที่ฉันมีลูกติด ก็ถูกปฏิเสธ ก็คงต้องทำใจอะแก แต่แถวบ้านใหม่ มีสถานรับเลี้ยงเด็กอยู่ ไม่ไกลจากบ้าน เค้าต้องการคนเพิ่มพอดี ฉันเลยสมัครไป เงินเดือนอาจจะไม่สูงเท่างานออฟฟิศ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีงานทำเลย”
“และแกยังคิดจะย้ายคิงไปโรงเรียนที่ถูกกว่านี้ป่ะ”
“ไม่อ่ะ คิงชอบโรงเรียนนี้ ฉันไม่อยากให้ลูกต้องมารับการเปลี่ยนแปลงหลายทางในเวลาเดียวกัน”
“แล้วค่าเทอม?”
“ฉันไหวแก”
ไอรินหันไปควักซองสีขาวออกจากกระเป๋าถือตัวเองออกมายทานให้นาเดีย
“อะไร?”
“มันอาจจะไม่มาก แต่ฉันอยากให้แกรับไว้ ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดครบ 6 ขวบจากป้าสู่หลานแล้วกันนะแก”
นาเดียเปิดซองดู
“ริน ไม่เอา เงินเยอะขนาดนี้ฉันรับไว้ไม่ได้”
“ฉันให้หลาน ฉันไม่ได้ให้แกซะหน่อย”
ซักพักไอรินก็เรียกให้คิงมาหา
“คิง มาหาป้าแป๊บนึงลูก”
คิงวิ่งหน้าตั้งมาหาไอริน
ไอรินคว้าซองสีขาวจากมือนาเดียมายื่นให้หลายชาย ก่อนที่จะพูดว่า
“เก็บซองนี้ไว้กับแม่นะ ป้าให้เป็นของขวัญวันเกิด”
“แต่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดผมนะครับ เหลืออีกตั้ง”
คิงนับนิ้วน้อย ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “8 เดือน”
“แม่ลูกเหมือนกันเล๊ย ป้าให้เอาไว้ก่อน”
เด็กหนุ่มน้อยยืนงง มองหน้าป้าที หน้าแม่ที
นาเดียมองหน้าไอรินด้วยสายตาขอบคุณอย่างสุดซึ้ง เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธไอรินได้เพราะสายตาแห่งความจริงใจและตั้งใจให้โดยไม่หวังผลตอบแทนของไอริน
“ขอบคุณป้าก่อนครับลูก”
“ขอบคุณครับป้าริน” คิงยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณไอรินก่อนที่จะยื่นซองให้แม่
“หิวไหมลูก” ไอรินถามหลาน
“ไม่หิวครับ” คิงตอบ
“แม่ให้เล่นอีก 10 นาทีแล้วเดี๋ยวเราไปกินข้าวกัน โอเคไหม”
คิงพยักหน้าแบบส่ง ๆ ไปก่อนที่จะวิ่งไปเล่นต่อตามประสาเด็ก
“ฉันมีเมื่อไหร่ ฉันจะเอามาคืน”
“......”
“อ๊ะ แล้วไม่ต้องมาอ้างเลยว่าให้หลาน ฉันรู้ทันหรอกหย่ะ ตามนั้นนะ”
“แกนี่จะรับความช่วยเหลือจากฉันซักครั้งไม่ได้เลยหรือไงยัยเพื่อนบ้า”
“ก็รับอยู่นี่ไงเล่า ยัยบ๊อง”
สองสาวเพื่อนซี้รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน แถมยังอยู่บ้านข้างกันอีก สิบกว่าปีที่รู้จักกันมาทั้งคู่ไปไหนมาไหนทำอะไรด้วยกันตลอด แถวหน้าตายังละม้ายคล้ายคลึงกันจนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพี่น้องฝาแฝด
โชคร้าย บ้านของไอรินถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง พรากชีวิตพ่อแม่ของเธอไปพร้อมกับบ้าน แม่ของนาเดียรับไอรินมาอยู่ด้วย ดูแลเหมือนลูกสาวแท้ ๆ ตั้งแต่นั้นมา
แต่สองสาวต้องมาพรากจากกันตอนที่ไอรินได้ทุนไปเรียนต่อด้านการทำขนมที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ราชันย์เข้ามาในชีวิตของนาเดีย
เมื่อไอรินกลับมาหลังจากเรียนจบ เธอใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีเปิดร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เธอรู้ข่าวว่าแม่ของนาเดียจากโลกนี้ไปกระทันกันด้วยโลกหัวใจวายและเพื่อนซี้ก็มาตั้งครรภ์ในช่วงเวลาไล่เลียกัน
ไอรินและนาเดียตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ผู้หญิงตัวคนเดียวต้องอยู่โดยลำพังไม่มีบุพการีคอยช่วยเหลือเกื้อกูล หาเลี้ยงตัวเองตามความสามารถที่มี
สองคนนี้ไม่ได้มีความเหมือนกันแค่หน้าตา แต่ทั้งคู่เป็นเด็กเรียนดีและขยันมาก ฐานะทางบ้านหาเช้ากินค่ำแต่เพราะเกรดดีเลยได้ทุนเรียนฟรีมาโดยตลอด
แต่ความต่างก็คือตอนนี้นาเดียมีอีกหนึ่งชีวิตที่เธอเลือกที่จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ทั้ง ๆ ที่สภาพการเงินไม่อำนวยเลย ในขณะที่ไอรินมีร้านไอศกรีมเป็นของตัวเอง มีคนเข้าร้านไม่ขาดสาย และยังติดหนึ่งในสิบร้านไอศกรีมดังของประเทศ นาเดียยังคงว่างงานและไม่ยอมรับความช่วยเหลือใด ๆ จากเพื่อนนอกจากความเป็นมิตรและความรักที่มีให้กันแบบไม่มีเงื่อนไข
ปี๊น ปี๊น!!! เสียงแตรรถซีอาร์วีสีดำดังขึ้นหน้าบ้านนาเดีย
“คิงไปเปิดประตูเองครับ”
เด็กหนุ่มน้อยวิ่งสับขาเล็กสั้นมุ่งหน้าไปที่ประตูบ้านให้คนคุ้นเคยขับรถเข้ามาจอดในบ้าน
“ขอบคุณครับคนเก่ง ไหนมาให้ป้าหอมที”
ไอรินลงจากรถมาทักทายหลานชาย ก่อนที่จะอุ้มคิงและเดินเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยกล่องเล็กกล่องใหญ่ พร้อมกับเพื่อนสาวที่ยังคงหัวฟูนั่งแพ็คของลงกล่องสุดท้าย
“ไหนบอกของไม่เยอะไง”
“ฉันก็คิดว่าไม่เยอะนะ แต่พอแพ็คไปแพ็คมาเยอะซะงั้น”
“ไปลูกคิง หนูยกกล่องเล็ก ๆ แบบนี้นะ เดี๋ยวป้าจัดการกล่องใหญ่เอง”
สองสาวกับหนึ่งหนุ่มน้อยช่วยกันขนของขึ้นรถคนละไม้ละมือ และไม่ถึงสองชั่วโมง รถซีอาร์วีก็ขับพาทั้งคนและของมาถึงบ้านใหม่ริมน้ำ โดยมีชายหนุ่มรูปงาม (จากสายตาของไอริน) ยืนถือกุญแจรออยู่หน้าประตูบ้านที่ถูกเปิดกว้างรอรับคนเช่าคนใหม่อยู่แล้ว
“สวัสดีครับคุณ..”
“ไอรินค่ะ”
เจ้าของรถลงจากรถรีบมาทักทายเทพบุตรรูปงามในขณะที่เพื่อนสาวกำลังปลดคาร์ซีทเพื่อให้ลูกชายลงจากรถ
“สวัสดีครับคุณไอริน ผมสิงหาครับ เอิ่มคือไม่แน่ใจว่าป้าผมจำชื่อผิดหรือเปล่า เพราะท่านบอกผมว่าคนเช่าคนใหม่ชื่อคุณ...”
“นาเดีย”
ไอรินยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับผู้ชายตรงสเป็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับต่อประโยคให้เขาโดยสายตาเธอยังคงจับจ้องที่ใบหน้าอันหล่อเหล่าอยู่ตลอดเวลา
นาเดียอุ้มคิงลงจากรถก่อนที่จะเดินมาทักทายหลานเจ้าของบ้าน
“สวัสดีค่ะ นาเดีย คนเช่าบ้านคนใหม่ค่ะ”
นาเดียวางลูกลง ก่อนที่จะยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับสิงหา
“และนี่คิง ลูกชายเดียค่ะ คิงสวัสดีคุณน้าซิลูก”
คิงยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่คนใหม่ตามที่แม่บอก
สิงหาจ้องหน้าคนเช่าคนใหม่อย่างไม่ละสายตาด้วยสายตาหวานเยิ้มจนไอรินสัมผัสได้
