บทที่28 หรือนี่คือความรัก
(เก็บใจไว้ในลิ้นชัก คงไม่เจอแล้วรักแท้...)
เสียงบทเพลงที่ดังเข้ามาในหูช่างโดนใจชนะชลที่นั่งทำงานอยู่กว่าทุกครั้ง เพลงนี้คือเพลงที่มีชื่อว่าแพ้ใจเนื้อหาของเพลงมีหลายส่วนที่ตรงใจเขา หัวใจที่ถูกปิดตายมานานนับ10ปีเพราะความรักฝังใจทำให้ชินชากับคำว่ารัก แต่เมื่อมีกรรณณาราเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวของเขามันทำให้เขาทั้งมีความสุข และเริ่มกลับมาเป็นตัวเอง และเหมือนเขาจะแพ้ให้กับความน่ารัก สดใส แสบ และขี้โมโหของเธอทุกครั้งที่เผลอภาพเธอก็วนเวียนอยู่ร่ำไปก่อนหน้านี้อาจจะแค่อยากลิ้มลองเธอเหมือนกับผู้ชายทั่วไปแต่นานวันเข้าหัวใจก็เริ่มเปิดออก...เปิดออก รับเธอเข้ามาอยู่ในใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะมากกว่าที่เคยมีให้ใครสักคนเมื่อ10กว่าปีก่อนที่เป็นรักที่สามารถจางหายไปได้ตามกาลเวลา
หรือว่าแกจะรักกระแตเข้าแล้ว แถมเหมือนจะเป็นรักแท้เสียด้วยสิ ชนะชลถามและตอบตัวเองในใจอย่างมีความสุขหลังจากงานเลี้ยงเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนนอกจากจูบหวานๆตอนเช้ากับก่อนนอนแล้วเขาก็ไม่มีโอกาสได้หาเศษหาเลยกับร่างกายของกรรณณาราอีกเลยแม้แต่ตอนกลางคืนเพราะนอกจากโดนเคอร์ฟิวแล้วเจ้าคุณเธอยังมีผู้คุมความประพฤติอย่างชาช่า ตุ๊กแกแสนรู้ของเธอที่เคยทำให้เขาขวัญผวามาแล้ว
ไอ้เจ้าชาช่าถูกพามานอนในห้องแถมยังแสนรู้พอเขาจะแอบหอมแก้มเมียในนามตอนหลับมันก็เสือกร้องขึ้นจนเธอตื่น แถมยังมีเจ้าถุงทองที่แปรพักตร์คอยจะข่วนเขาทุกครั้งที่เข้าใกล้แม่มันจากที่เคยคิดว่าแค่ไม่ได้จับนั่นจูบนี่เธอก็คงไม่ตายแต่พอผ่านมาแล้วทำให้เขารู้ว่ามันช่างทรมานที่สุดนี่เขากำลังเสพติดเธอใช่มั้ย
“นายครับ อารมณ์ไหนครับเนี่ยเปิดเพลงฟัง” นายหมอกที่ถือสมุดบัญชีเข้ามาเอ่ยแซวถ้าเป็นช่วงเกือบ14-15ปีก่อนที่ชนะชลยังไม่เข้ามารับช่วงต่อไร่แสนรัก ฟาร์มเหมือนฝัน และรีสอร์ตเคียงใจ เขาจะไม่แปลกใจสักนิดแต่หลังจากเริ่มทำงานนายของเขาก็ไม่ได้นั่งฟังเพลงแบบนี้อีกเลย ยิ่งช่วงที่เกิดเรื่องทำให้นายเขาเจ็บปวดยิ่งแล้วใหญ่คนที่เคยร่าเริง ขี้เล่น สบายๆ กลายเป็นเงียบขรึม เย็นชา และดุดันเพื่อปกปิดหัวใจที่อ่อนแอ นายหญิงคงทำให้นายของเขากลับมาเป็นคนเดิม
“หมอก นายคิดว่าคนเราจะรักใครได้ในเวลาไม่นานมั้ยวะ” ชนะชลเอ่ยถามทอดสายตาไปที่รูปแต่งงานที่มารดาเอามาแขวนไว้หลังจากจบงานเลี้ยงด้วยสายตาอ่อนโยน
“เป็นได้สินาย แค่สามวันหรือแค่สบตากันยังได้เลย” นายหมอกเอ่ยบอกพลางยิ้มไปกับความเปลี่ยนแปลงของนาย
“แล้วนายว่า ฉันกำลังตกหลุมรักแตรึเปล่า” ชนะชลถามออกมาแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังรูปภาพเขาจำตอนนั้นได้หลังจากรดน้ำสังข์มารดาเขาขอให้เขาและเธอถ่ายรูปคู่กันกรรณณาราทำหน้าเบื่อๆนิดๆแต่ก็ยอมสร้างภาพยิ้มแย้มเมื่อมีผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดยืนอยู่ด้วย แม่เลี้ยงชนิสาบังคับให้เขาโอบกอดเธอจากด้านหลังแล้วยิ้มออกมา เป็นภาพที่เธอกับเขาถูกแม่เลี้ยงชนิสาจัดการทุกอย่างจนออกมาสวยไร้ที่ติ
“นายครับ นี่ไม่รู้เลยเหรอว่านายนะมีความสุขมากเวลาอยู่กับนายหญิง แถมยังสายตาอ่อนโยนทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน แถมผมยังรู้สึกได้ว่านายหญิงทำให้นายคนเดิมของผมกลับมา อีกอย่างผมเห็นนายมีความสุขมากกว่าตอนที่คบกับคนนั้นอีกนะครับ แค่นี้ก็น่าจะแน่ใจได้แล้วนะครับว่านายรักนายหญิง แถมยังเป็นรักแท้ที่ตัดไม่ขาดด้วย อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว” นายมืดเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไป
“รักเหรอ บอกแตไปยัยนั่นคงไม่เชื่อหรอกหมอกเอ้ย ขนาดฉันยังไม่อยากเชื่อเลยเลยว่ารักเด็กเข้าให้แล้ว” ชนะชลพูดก่อนจะหยิบกีตาร์ตัวโปรดที่ไม่ได้เล่นมานานขึ้นมาเล่น
“เก่งมาจากไหนก็แพ้หัวใจอย่างเธอ เมื่อไรที่เผลอยังนึกว่าเธออยู่ในฝัน ยังมีอีกหรือรักแท้ที่เคยเสาะหามานาน วันนี้เป็นไงเป็นกันฉันรักเธอ เมื่อเธอรู้ว่าฉันรัก เธออย่าทำให้ฉันหลง บอกมาเลยตามตรงนี้เรื่องจริง หรือฉันเพ้อ ตอนนี้ยังพอทำใจ ถ้าสิ่งที่ได้เจอ คือฝันคือละเมอและไม่จริง วันนี้ฉันรักเธอคือเรื่องจริง วันนี้ฉันรักเธอคือเรื่องจริง”
รีสอร์ตเคียงใจ
กรรณณาราที่ตอนนี้ตัดสินใจดรอปเรียนตามคำขอร้องของแม่เลี้ยงชนิสาที่อยากให้เธอเข้ามาช่วงงานที่รีสอร์ทแล้วมองดูวิวรอบ ๆรีสอร์ตอย่างเพลิดเพลิน วันนี้เธอได้เข้ามาเรียนรู้ในรีสอร์ตพร้อมกับแม่เลี้ยงชนิสาที่เข้ามาพบเพื่อนเก่าที่มาพักที่นี่ หญิงสาวทอดมองบรรยากาศก่อนจะหันไปเห็นพนักงานสองคนเดินคุยกันไปตามทางจึงได้ไม่แสดงตัว
“พ่อเลี้ยงชลนี่น่ารักเนอะ คุณกระแตนี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับคนแบบนั้น โอ๊ยเป็นฉันนะจะไม่ปล่อยออกมาเดินล่อตาสาวอยู่หรอกกลัวถูกฉก” พนักงานสาวเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม
“นั่นสิ เจ้ทำงานที่นี่มา11ปี ก็เพิ่งเห็นพ่อเลี้ยงชลทำตัวน่ารัก หยอกล้อขี้เล่นแบบนี้ตั้งแต่แต่งงาน พ่อเลี้ยงคงรักคุณกระแตมาก มากกว่าเธอคนนั้นอีก” สาวประเภทสองที่เดินมาด้วยกันเอ่ยบอก กรรณณาราที่แอบฟังอยู่ถึงกับตาโต
จะบ้าเหรอ พี่ชลไม่ได้รักเธอหรอก กรรณณาราคิดหลังจากที่พ่อเลี้ยงกรณ์มาที่ไร่เมื่อตอนงานเลี้ยงแล้วได้ยินเธอเรียกชนะชลว่าอา ท่านก็สั่งให้เธอเรียกว่าพี่แทน หญิงสาวจึงจำต้องเรียกว่าพี่ต่อหน้าคนอื่นแถมยังต้องเรียกคุณสามีต่อหน้าชนะชลอีก
“ก็จริงนะเจ้ พ่อเลี้ยงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย” พนักงานหญิงบอกก่อนที่ทั้งสองจะเดินจากไป
“รักเหรอ สองคนนั้นคิดไปเองมากกว่า” กรรณณาราเอ่ยกับตัวเองก่อนจะส่ายหน้าพรืดกับตัวเอง แล้วทันใดนั้นก็มีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นในใจ
แล้วเธอล่ะรู้สึกยังไงกับเขากันนะ ใจเต้นทุกครั้งที่สบตา รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ แม้จะฉวยโอกาสบ้างแต่เธอกลับรู้สึกดี ความรู้สึกนี้มันคืออะไรนะ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้และไม่เคยเป็นกับใคร
‘มันคืออะไรน๊า’ กรรณณาราขบคิดในใจแถมหลังจากชายหนุ่ม(แก่)ซื้อผ้าอนามั้ยมาให้ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวคิดก่อนจะหันไปเห็นลูกค้าสองคนเดินคุยกันผ่านมา
“แกว่ารักเนี่ยเป็นไงอะ” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนที่เดินมาพร้อมกัน
“ก็ใจเต้นทุกครั้งที่สบตา อบอุ่นแล้วก็เขินตลอด อยากอยู่ใกล้ๆ มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ล่ะมั้ง” หญิงสาวอีกคนเอ่ยบอกเพื่อน
“แล้วเราจะรักใครในเวลาไม่นานได้ด้วยเหรอแก” หญิงสาวคนแรกยังคงมีคำถาม
“โอ๊ยได้ดิ ได้ใกล้ชิดได้อยู่ด้วยกัน กินนอนเที่ยว หรือทำอะไรด้วยกันก็รักกันได้” กูรูผู้รอบรู้เอ่ยบอกเพื่อน
“โอ๊ยงั้นแบบนี้ความรักแบบในนิยายก็มีจริงอะดิ”
“ใช่ดิ รักแท้แบบในนิยายอะมีอยู่ถ้าแกรู้สึกแบบนั้นแสดงว่าแกรักเขา ยิ่งถ้าขาดเขาไม่ได้รู้สึกตายแทนได้เนี่ยแสดงว่าแกรักเขามากรักแท้เลยแก” สองเสียงคุยกันโดยไม่ได้สนใจคนที่พวกตนเดินผ่านเลยแม้แต่น้อย
“รักเหรอ หรือว่าฉันกำลังรักพี่ชลเข้าให้แล้ว บ้าน๊าไม่ใช่หรอก” กรรณณารายังคงถกเถียงกับตัวเอง และไม่เชื่อที่สองคนนั้นพูดหรอก แค่ใจเต้นรู้สึกดี มันอาจไม่ใช่ความรักก็ได้ แค่รู้สึกดีเท่านั้น กรรณณาราบอกตัวเองแต่ก็นึกถึงแต่ภาพอิริยาบถต่าง ๆของชนะชลยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดแล้วก็พาลทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะและมีรอยยิ้มขึ้นมาซะงั้นหรือนี่จะคือความรักกันนะ
