บท
ตั้งค่า

บทที่22 หวั่นไหวซะแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น

เปลือกตาบางเผยขึ้นให้เห็นดวงตากลมโต ก่อนที่จะกระพริบสองสามครั้งเพื่อไล่ความง่วงงุนก่อนดวงตาจะมองไปข้างหน้าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือชนะชนที่เอามือเท้าคางยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าส่วนตัวนั่งย่ออยู่ข้างๆเตียง ชนะชลเลื่อนหน้ามาจุ๊บจมูกโด่งของเธอก่อนจะเอ่ยบอก “มอนิ่งจ๊ะแม่กระแตน้อย ตื่นสายนะเนี่ย สามีนั่งมองอยู่เป็นชั่วโมงแล้วเกือบจะได้ลักหลับแล้วเชียว”

“ฉวยโอกาสอีกแล้วนะอาชล” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะสปริงตัวขึ้นมานั่งบนเตียงนุ่น

“ตรงไหนล่ะที่ว่าฉวยโอกาส ไม่มี๊” ชนะชลเอ่ยบอกหน้าเฉย

“แล้วมาจุ๊บจมูกเค้าทำไม” กรรณณาราเอ่ยถามก่อนจะคลานลงจากเตียงเดินไปยังห้องอาบน้ำ

“ก็แค่ทักทายตอนตื่นนอน จริง ๆอยากจะมอนิ่งคิสหวานๆเลยแหละแต่กลัวหยุดใจไม่ไหวขืนใจเด็ก” ชนะชลเอ่ยตามหลังเสียงดังฟังชัดจนคนฟังหน้าแดงแก้มแดงลามไปทั้งหู เขาชักจะเพี้ยนเดี๋ยวก็หื่น เดี๋ยวก็นิ่ง เดี๋ยวก็กวนประสาทเธอ เพราะอะไรไม่รู้รู้แค่อยากจะอยู่กับเธออยากเห็นเธอโกรธ เธอโมโห และอยู่กับเธอแล้วเขามีความสุขที่ได้แกล้งได้ยั่ว และได้ฉวยโอกาสกับเนื้อตัวเธอ ชักจะบ้าแล้วสิไอ้ชลเอ้ย

ตลาด

หลังจากอาบน้ำเสร็จทั้งสองก็ลงมาทานอาหารเช้าด้วยกันก่อนที่ชนะชลจะชวนภรรยาเด็กตัวน้อยไปซื้อของที่ตลาดเพราะชายหนุ่มต้องเข้าไปคุยกับเจ้าของตลาด ชายหนุ่มถือเป็นผู้กว้างขวางทำให้ใครๆต่างนับหน้าถือตามีเรื่องทุกข์ร้อนก็จะมาขอให้ช่วยครั้งนี้ก็เช่นกันเจ้าของตลาดจะขายตลาดให้นายทุนสร้างศูนย์การค้าแล้วไล่พ่อค้าแม่ขายออกจากตลาด พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายเดือดร้อนจึงมาขอให้ชนะชลช่วยไปพูดกับเจ้าของตลาด และเขาก็ยินดีจะช่วย

“วสา เข้ม พากระแตไปเลือกซื้อของทางโน้นก่อนฉันจะไปคุยกับคุณนายดารา” ชนะชลเอ่ยสั่งเมื่อมาถึงตลาดนัด วสาและคมเข้มพยักหน้าเข้าใจชายหนุ่มจึงเดินไปหาเจ้าของตลาดที่กำลังยืนคุยอยู่กับมุกดา แม่ของมะปราง กระแตยืนมองอยู่สักพักก่อนจะเดินไปดูส้มเขียวหวานที่มีสติกเกอร์ของไร่กันตา ไร่ของเธออยู่

“ขายดีมั้ยคะป้า” หญิงสาวเอ่ยถามเจ้าของร้านผลไม้ หญิงวัย50กว่าๆมองลูกค้าคนสวยที่ชาวตลาดต่างลือกันให้แซดว่าเป็นนายหญิงแห่งไร่แสนรักตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วนึกชื่นชมแต่พอนึกถึงคำพูดที่มะปรางเที่ยวโพนทะนาแล้วนึกสับสน

“นังนั่นมันทำเป็นออดอ้อน เสแสร้งเป็นคนดี แต่ลับหลังนะมันร้ายแย่งผัวฉันไป นี่คงแกล้งเป็นผู้ดีต่อหน้าพ่อเลี้ยงชลนะสิลับหลังคงแค่อีตัว” มะปรางเอ่ยบอกชาวบ้านร้านตลาดเมื่อครั้งหลังจากกรรณณาราพาชนะชลมาเยาะเย้ย

‘หน้าตาก็ดี แม่หนูเอ้ยไม่น่าเลย’แม่ค้าผลไม้เอ่ยในใจ

“ว่าไงคะป้า ขายดีมั้ยเนี่ย ทำไมใช้ส้มจากแม่ฮ่องสอนล่ะ” กรรณณาราที่ไม่รู้ว่าแม่ค้าชราคิดอะไรเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ไร่กันตาอยู่ถึงแม่ฮ่องสอนปกติส่งขายแค่ในแม่ฮ่องสอนและส่งออกต่างประเทศแต่ทำไมถึงมาโพล่ที่เชียงใหม่ได้

“เอ่อ ขายดีค่ะแม่เลี้ยง ที่เอามาจากแม่ฮ่องสอนเพราะส้มจากไร่กันตาน่ะดีแถมพ่อเลี้ยงกรณ์ยังใจดีคิดไม่แพงเหมือนไร่ส้มบางไร่ แถมลูกค้าก็ชอบด้วยค่ะ” แม่ค้าชราเอ่ยบอก โดยไม่รู้ตัวเลยว่ายืนคุยกับลูกสาวพ่อเลี้ยงกรณ์อยู่

“แล้วขายมานานแล้วเหรอค่ะ ผลไม้อย่างอื่นป้าเอามาจากไหนบ้างเนี่ย” กรรณณารายังคงสนใจเรื่องที่มาของส้มและผลไม้อื่น ๆจนไม่รู้ว่าชนะชลที่คุยกับเจ้าของตลาดที่กลายเป็นอดีตไปเมื่อไม่ถึง2นาทีเพราะชายหนุ่มตัดปัญหาคนโลภด้วยการซื้อตลาดนี้ซะเลยเสร็จแล้วเดินเข้ายืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้แม่ค้าชราและลูกน้องไม่ต้องทัก

“นานแล้วค่ะสองปีก่อนลูกชายพ่อเลี้ยงกรณ์มาเที่ยวตลาดกับหนูฟ้าเห็นว่าป้ากำลังลำบากเพราะส้มเจ้าเดิมขึ้นราคาก็เลยแนะนำให้ซื้อที่ไร่ในราคาต่ำกว่าแถมยังมีรถมาส่งส้มถึงที่ไม่ต้องไปเอาเองด้วย” แม่ค้าวัย50เอ่ยบอกสายตามองพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ยืนฟังอยู่อย่างชื่นชม ‘ดูๆไปก็เหมาะสมกันดีแฮะ’

“ว้าววว ลูกชายพ่อเลี้ยงกรณ์ใจดีจังเนอะป้า พ่อเลี้ยงกรณ์ก็ด้วยไม่เหมือนพ่อเลี้ยงชลคนนิสัยไม่ดี” หญิงสาวเอ่ยอย่างดีใจพร้อมแขวะคนตัวโตที่(คิดว่า)ไม่ยืนอยู่ตรงนี้ในตอนท้าย พ่อเลี้ยงหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้าแต่ก็ยังเงียบอยู่

“งั้นหนูซื้อส้มนี่3กิโลแล้วกันเนอะ” กรรณณาราเอ่ยบอก ความจริงเธอแค่อยากถามเพราะสงสัยเท่านั้นแต่ถ้าจะถามแล้วเดินหนีก็ดูยังไงอยู่จึงยอมซื้อ ‘เงินอาชลนิจะกลัวอะไรฮะฮะฮ่ะ’

“เป็นถึงลูกสาวพ่อเลี้ยงกรณ์เนี่ย ไม่เคยกินส้มที่ไร่ตัวเองรึไงแตซื้อซะเยอะเชียว” พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยขึ้นหลังจากยืนฟังเงียบๆอยู่นานสองนาน กรรณณาราที่แขวะชายหนุ่มก่อนหน้านี้ทั้งตกใจและใจเต้นแรงไปพร้อมกันเพราะชายหนุ่มเข้ามาพูดข้างหูนะสิ

“ละ ลูกสาวพ่อเลี้ยงกรณ์ ตาเถรหกตกหลังคา” แม่ค้าคนเดิมร้องอย่างตกใจ คมเข้มกับวสาได้แต่ขำกับคำอุทานของหญิงชราจนตัวงอ ตั้งแต่อยู่กับกรรณณาราทั้งสองก็ไม่ต้องทำเป็นขรึมเจ้าระเบียบอีกต่อไป

“ป้า ตาเถรขึ้นไปทำอะไรบนหลังคาล่ะถึงได้ตก ฮะฮะฮะ ดีนะไม่มาทั้งวัด” คมเข้มเอ่ยอย่างขำขัน

“นั้นสิฮะฮะฮะ” วสาเอ่ยก็ใช่ย่อย คนโดนขำยังคงหน้าซีด นี่นะเหรอน้องกระแตที่คุณกันต์พูดถึง โอ๊ยตายแน่ฉันคิดตามนังมะปรางจนด่าคุณเค้าตั้งเยอะ

“เปลี่ยนจากส้ม3กิโลเป็นแอปเปิ้ลแดง มะม่วงมัน กับส้ม อย่างละกิโลนะป้านิ่ม ส้ม3กิโลคงกินไม่ไหว ไม่เอียนบางเหรอเด็กน้อยเกิดมาก็ได้กินส้มแล้วมั้ง” ชนะชลเอ่ยบอกแม่ค้าที่รู้จักกันดีก่อนจะหันมาหยอกลูกสาวเจ้าของไร่ส้ม

“เคย แต่ชอบเข้าใจมั้ย ส้ม3กิโลเหมือนเดิมค่ะป้า” กรรณณาราว่าอย่างโวยวายก่อนจะหันมาบอกแม่ค้า

“เอาแบบที่ผมบอก”

“ส้ม3กิโลค่ะป้า”

“แบบที่ผมว่าป้านิ่ม”

“ส้ม3กิโล ๆๆๆๆ ไม่งั้นจะเอาตุ๊กแกมาปล่อยทั่วไร่”

“อย่างที่สามีพูดเข้าใจมั้ยคุณเมีย ไม่งั้นจะหาแมงมุมมาเลี้ยงให้ทั่วห้องเลย”

“ก็เค้าจะเอาส้ม” “เอาไปก็กินไม่หมด เปลืองเงินแต”

“ไม่จะเอาส้ม เอาส้ม” “อย่าดื้อเอาชนะน๊า แต ไม่งั้นจูบกลางตลาดนะ”

“กล้าเหรอ เหอะไม่กล้าหรอกเชื่อ...” ทั้งสองถกเถียงกันอย่างน่ารักในสายตาคนมองจนชนะชลข่มขู่จะจูบกลางตลาดหญิงสาวก็ยังคงดื้อ เพราะเป็นพวกชอบเอาชนะและคิดว่าเขาคงไม่กล้าในที่โล้งแจ้งเต็มไปด้วยผู้คนแบบนี้แต่เธอคิดผิดเมื่อริมฝีปากบางถูกประกบปิดอย่างมิดชิดโดยริมฝีปากร้อนของคนที่เธอว่าไม่กล้า ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออกอย่างไม่สนใจผู้คน

“ว่าไงยังจะเอาส้ม3กิโลอยู่มั้ย จะได้จูบอีก คราวนี้จะจูบให้วิญญาณหลุดไปเลย” ชนะชลบอกพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ กรรณณารายืนนิ่งใบหน้าเริ่มแดงซ่านพูดอะไรไม่ออกก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีอย่างอับอายทำอะไรก็เพลี่ยงพล้ำ ชนะชลได้แต่ยืนยิ้มอย่างพอใจไม่สนใจสายตาล้อเลียนของสองลูกน้อง

“ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้คนนิสัยไม่ดี อีตาอาชลบ้าๆๆๆ นี่แนะๆ” หลังจากกลับจากตลาดหญิงสาวก็ยืนทุบอกคนตัวโตอย่างโมโหและเขินอาย

“พอแล้ว ๆ คุณเมีย สามีเจ็บครับ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมรวบหญิงสาวเข้าในอ้อมอกก่อนจะจุมพิตที่หน้าผาก

“ทีหลังอย่าดื้อสิ รู้ตัวรึเปล่าว่าคุณเมียน่ากินแค่ไหน ถ้าดื้อแล้วจูบอีกเผลอจับปล้ำขึ้นมาโทษกันไม่ได้นะ” ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มออกมาแต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน

‘ทำไมฉันต้องหวั่นไหวด้วยนะ รักขึ้นมาจะว่าไงนะ ฉันชักหวั่นไหวซะแล้วสิ’คนในอ้อมกอดได้แต่เอ่ยในใจแต่ก็ไม่ดิ้นออกจากอกอุ่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel