บทที่2 พิธีแต่งงาน
2
จะมีเจ้าสาวสักกี่คนที่ต้องมานั่งอารมณ์ไม่ดีในงานแต่งงานของตัวเองแบบที่เธอกำลังทำอยู่ กรรณณาราได้แต่คิดพร้อมกับลอบเหลือบมองไปที่ร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผู้เป็นต้นเหตุของความหงุดหงิดอารมณ์เสียของเธอ
กะอีแค่สวมแหวนให้จบ ๆ ไปทำไมต้องคิดนาน เหอะ...ระลึกความหลังครั้งเก่าที่เกือบจะได้แต่งงานกับแม่ยอดยาหยีแต่เจ้าสาวกลับโป๊ะแตกแพ้ท้องลูกของผู้ชายคนอื่นกลางงานอยู่ล่ะสิ โธ่ ๆ น่าเห็นใจ
“ชล” แม่เลี้ยงชนิสากระซิบเรียกบุตรชายที่นั่งนิ่งไม่หยิบแหวนมาสวมให้กับเจ้าสาว พอจะเดาได้ว่าอะไรหลาย ๆ อย่างมันสะกิดใจลูกชายอยู่ไม่น้อยแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาหวนคิดเรื่องเก่า อีกอย่างแขกเหรื่อก็เริ่มมองอย่างสงสัยแล้ว
ลำพังแค่เจ้าบ่าวไม่ใช่ชัชรินทร์แต่เป็นชนะชลก็สร้างความตกตะลึงได้ไม่น้อยแล้ว หากว่าเจ้าบ่าวไม่รีบสวมแหวนให้เจ้าสาวมีหวังแตกตื่นซุบซิบกันไปหนักกว่าเดิมเป็นแน่
ชนะชลสูดลมหายใจลึกก่อนจะยื่นมือไปหยิบแหวนเพชรเม็ดโตที่ถูกนำมาแทนที่แหวนวงเดิมซึ่งพี่ชายเขาสั่งทำพิเศษไว้ให้คนจะมาเป็นลูกสะใภ้ เมื่อที่สุดแล้วงานนี้ไม่ใช่งานแต่งงานของลูกชายแหวนจึงถูกนำกลับไปเก็บ ส่วนแหวนวงใหม่นี้เป็นแหวนที่ตกทอดมาจากคุณย่าของเขาที่มอบให้เขาไว้เพื่อมอบให้กับคนจะมาเป็นคู่ชีวิตของเขา แหวนวงนี้เคยเกือบจะตกเป็นของคนคนหนึ่งแต่ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นเสียก่อนจนทุกอย่างพังลงเขาจึงตัดสินใจฝากแหวนวงนี้ไว้กับมารดาเพราะไม่อยากคิดถึงเหตุการณ์นั้นอีก
แน่นอนว่าแม่เลี้ยงชนิสาเก็บติดตัวไว้ตลอดเมื่อต้องเปลี่ยนแหวนจึงได้โอกาสหยิบแหวนวงนี้มาแทนที่
ดวงตาคมมองเลยแหวนวงสวยที่หยิบมาถือไว้ไปที่มือบางของเจ้าสาวที่สาวเจ้ายังคงเก็บไม้เก็บมือมิดชิด พอส่งสายตาไปหญิงสาวยังลอยหน้าลอยตา ชนะชลถอดใจก่อนจะหันไปหาแม่เลี้ยงกานดาที่นั่งอยู่เบื้องหลังเจ้าสาวแทน
แม่เลี้ยงกานดายิ้มรับก่อนจะมีเสียงร้องหลุดออกมาจากเรียวปากสวย ไม่ต้องคิดให้มากความคนแถวนี้คงจะโดนปูหนีบไม่ผิดแน่ ‘สมน้ำหน้า’
“กระแตน้อยยื่นมือให้พี่เขาสิลูก”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเสียงเบาก่อนจะยื่นมือซ้ายออกไปด้วยท่าทีส่ง ๆ
เมื่อฝ่ายหนึ่งยื่นมาแบบส่ง ๆ อีกฝ่ายก็รับมาและสวมแหวนเข้าไปอย่างลวก ๆ เช่นกัน
“กราบที่ตักพี่เขาด้วย” แม่เลี้ยงกานดาคอยกำกับแม้ว่าลูกสาวจะส่ายหน้ากลับมาแต่ก็ไม่สามารถขัดได้ กรรณณารามีท่าทีไม่พอใจไม่น้อยแต่ก็ต้องก้มกราบหนุ่มใหญ่อย่างเสียมิได้ ชนะชลกระตุกยิ้มก่อนจะลูบศีรษะหญิงสาวราวกับผู้ใหญ่ลูบหัวเด็กก่อนจะยิ้มเยาะใส่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น
‘หน็อยแน่ะ เจตนาสื่อว่าเราเป็นเด็กน้อยใช่มั้ยอิตาอาชลเนี่ย’
การแลกแหวนแต่งงานดำเนินต่อไปเจ้าสาวสวมแหวนวงใหญ่ให้เจ้าบ่าวด้วยท่าทีเสียมิได้ก่อนจะเสร็จสิ้นพิธีท่ามกลางเสียงยินดีของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานแม้ตอนแรกจะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็พากันยินดีที่พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ผู้เป็นที่รักของชาวบ้านสละโสดสักทีแต่ก็มีเพื่อนสนิทบางคนที่เย้าแหย่เจ้าบ่าวสายฟ้าแลบว่าเป็น โคแก่กินหญ้าอ่อน ทั้งที่ปากบอกไม่ชอบกินเด็ก จนชนะชลต้องรู้สึกอับอายขึ้นมา ได้แต่นึกแช่งชักหักกระดูกหลานชายในใจ’ ไอ้หลานไม่รู้จักโตขอให้แกได้เมียโหดดัดนิสัยไม่รู้จักโต เอาให้จ๋อยไปเลย’
พิธีต่าง ๆ ดำเนินไปและผ่านพ้นไปด้วยความลุ้นระทึกของครอบครัวคู่บ่าวสาว แน่นอนว่าไม่มีใครนิ่งนอนใจ ทุกคนต่างก็กลัวว่าไม่เจ้าบ่าวก็เจ้าสาวจะอาละวาดขึ้นในสักพิธีการ ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเอาแน่เอานอนกับคนไม่ชอบขี้หน้ากันสองคนนี้ไม่ได้ แต่ทว่าทุกพิธีก็เสร็จสิ้นลงได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อจบพิธีต่าง ๆ เสร็จสิ้นไปก็ถึงเวลาเข้าหอ แม่เลี้ยงชนิสานั่งลงตรงหน้าลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้ (โดยบังเอิญ) ด้วยรอยยิ้มหลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจชนะชลเมื่อเกือบ10ปีก่อนเธอก็ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้
วันที่จะได้เห็นลูกชายคนเล็กได้เป็นฝั่งเป็นฝาได้มีคู่ครองแม้จะเป็นความจำเป็นแต่เธอและลูกชายคนโตรวมถึงครอบครัวเจ้าสาวปรารถนาที่จะให้ชีวิตคู่ของทั้งสองยาวนานจนแก่เฒ่าไปพร้อม ๆ กัน
“แม่ฝากลูกชายคนนี้ด้วยนะหนูกระแต ถึงแม้ว่าลูกสองคนจะแต่งงานกันเพราะจำเป็นแต่หนูก็คือสะใภ้ของสัตยรังสรรค์และจะเป็นแบบนั้นตลอดไป” แม่เลี้ยงชนิสาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานก่อนจะหันไปมองลูกชาย
“สิ่งที่ผ่านมาแล้วอย่าเก็บมาคิดให้เจ็บปวดแม่ขอให้ชลอยู่กับปัจจุบันและอนาคตที่จะต้องมีหนูกระแตอยู่เคียงข้างนะลูก ลืมไม่ได้ก็อย่าให้มันกลับมาทำลายชีวิตคู่ แม่อยากจะเห็นชลของแม่แต่งงานแค่ครั้งเดียว” แม่เลี้ยงวัยชราเอ่ยบอกมือหยาบกร้านลูบผมของลูกชายเบาๆ อย่างรักใคร่ พ่อเลี้ยงชนะชลมองมารดาโดยไม่ได้ตอบโต้ก่อนที่ทั้งสองจะก้มลงกราบเท้ามารดาของชายหนุ่มพร้อมกัน
“พี่ฝากยัยกระแตด้วยนะชล เมื่อจำใจรับไปแล้วอย่าเอามาคืนนะพี่ไม่รับ” พ่อเลี้ยงกรณ์เอ่ยเย้าแต่แฝงไปด้วยความต้องการฝากแก้วตาดวงใจไว้กับน้องชายคนนี้ ชนะชลไม่ตอบว่าอย่างไรแต่คนเป็นเจ้าสาวกลับทำหน้าย่น อะไรคือการที่ให้แล้วไม่รับคืน นี่เธอเป็นลูกสาวนะ ลูกสาวคนเดียวด้วย อย่าไม่รับคืนสิ
“หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก มีอะไรก็หันหน้าเข้าคุยกัน พี่ฝากกระแตน้อยของพี่ด้วยนะชลถ้าดื้อจะตีไม่ว่าแต่อย่าเอามาคืนนะพ่อลูกเขย” แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยสั่งสอนก่อนจะกำชับอีกครั้งว่าห้ามเอามาคืนหรือก็คือไม่ว่าจะยังไงสถานะสามีภรรยาของเธอกับเขาจะไม่มีทางสิ้นสุด คู่บ่าวสาวก้มลงกราบพ่อเลี้ยงกรณ์และแม่เลี้ยงกานดาก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากห้องไปเพื่อให้คู่บ่าวสาวได้พักผ่อน
เวลาต่อมา
มือบางยกสมาร์ตโฟนหรูขึ้นมากดโทรศัพท์หาตัวการใหญ่อย่างโมโหเกือบทั้งวันที่ผ่านมาเธอต้องแกล้งฉีกยิ้มหวานจนเมื่อยปากกว่าที่งานจะจบ และที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้าบ้าชัชรินทร์เพื่อนรักทรยศนั่นเอง
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่ในภายหลัง” เสียงหวานๆ ที่ดังแว่วมาจากสมาร์ตโฟนเกือบทำให้เธอปาของในมือทิ้ง ก่อเรื่องไว้แล้วปิดเครื่องหนีกันแบบนี้ได้ยังไงกัน
ตืด ตืดดดด
เสียงสั่นของสมาร์ตโฟนเครื่องหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงทำให้กรรณณาราเอี้ยวตัวไปมองอย่างสงสัยก่อนที่เจ้าของมันจะเดินมารับ
“ได้เรื่องมั้ยเมฆ...ไม่เป็นไรหาไปเรื่อย ๆ ไปดูที่ไร่ไพรพนาด้วยนายชัชอาจไปที่นั่น เพิ่มคนอีกก็ได้ฉันอนุญาต วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ไม่ต้องเครียด” พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกปลายสายทั้งคู่สนทนากันสักพักก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสายก่อนจะเอ่ยคาดโทษคนก่อเรื่องอย่างโมโหกับความไม่รู้จักโตของหลานชาย ‘กลับมาล่ะน่าดูไอ้เด็กนิสัยเสีย’
“ไม่ใช่ตรงนี้นะ!”
เสียงหวานตวาดขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มเกือบใหญ่ทำท่าจะทรุดตัวลงนอนบนเตียง พ่อเลี้ยงชนะชลมองภรรยาหมาดๆ ของตัวเองก่อนจะเอ่ยขึ้น “รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่บ้างกรรณณารา อาจะนอนตรงนี้ก็ไม่มีใครห้ามอาได้”
“แต่เค้าเป็นเจ้าของห้อง ตัวเป็นแค่คนอาศัย เค้าว่าไม่ก็คือไม่” เด็กไม่รู้จักสัมมาคารวะในสายตาพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ที่ผ่านมาเธอกับเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันในหลายๆ เรื่องและตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม
“ยัยกระแตป่า อย่าหวงนักเลยน๊ากะอีแค่เตียงเนี่ยเก็บความเอาแต่ใจไว้หวงอย่างอื่นดีกว่า อาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ” พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกก่อนล้มตัวลงนอนเพราะเขาวิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าทั้งเรื่องความเรียบร้อยของขบวนขันหมากพานขันหมาก ตามหาหลานชายจนกระทั่งต้องเข้าพิธีแทนพ่อหลานชายตัวดีทำให้เหน็ดเหนื่อยจนไม่อยากต่อปากต่อคำกับเด็กที่ไม่รู้จักโต’ ไว้จบเรื่องแล้วกลับถึงไร่ของเขาเมื่อไหร่รับรองเขาจะเคี่ยวเข็ญจนเป็นผู้ใหญ่ที่มีสัมมาคารวะและเรียบร้อยไม่ซนเป็นลิงเอาแต่ใจแบบนี้แน่’
“ชิ ตาแก่ขี้โมโห คอยดูนะแม่จะป่วนให้ป่วยไปเลย แบร่” หญิงสาววัยใสเอ่ยก่อนจะแลบลิ้นใส่คนที่นอนหันหลังอยู่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะหลับไปในเวลาไม่นาน
