บทที่19 เธอโดนอ่อยอยู่ใช่มั้ย
โรงอาหาร ในไร่แสนรัก
12.00น.
กรรณณาราพร้อมด้วยคมเข้มและวสาเดินเข้ามาในโรงอาหารของไร่ด้วยความหิว โดยเฉพาะกรรณณาราที่เอาแต่แย่งหน้าที่คนงานมาทำเพื่อให้ลืมเรื่องที่เจอมาเมื่อเช้าจนเหนื่อยไปหมดแต่ยังไม่วายคิดถึงเรื่องนั้นอยู่
“ทานอะไรดีคะนายหญิง มีแกงหน่อไม้ ผัดเปรี้ยวหวาน แกงเขียวหวาน ไข่พะโล้แล้วก็น้ำพริกปลาทู” จำปาแม่ครัวใหญ่ของไร่เอ่ยถามอย่างคุ้นเคย พร้อมทั้งนึกชมที่หญิงสาวไม่ถือตัวสักนิดทั้งนั่งทานข้าวในโรงอาหารหรือบางวันยังไปล้อมวงทานข้าวกับคนงานในฟาร์มเหมือนฝัน
“แกงเขียวหวาน กับแกงหน่อไม้ค่ะ พี่สา พี่เข้ม เอาอะไรอีกมั้ย” กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะหันมาถามผู้ติดตามทั้งสอง
“ไข่พะโล้ แล้วกันค่ะนายหญิง” รสาเอ่ยบอกส่วนเข้มแค่พยักหน้าเห็นด้วย จำปาจัดแจงตักแกงและข้าวให้ทั้งสามก่อนจะเหลือบไปเห็นเจ้านายและหมอกเดินมาพอดี
“อ้าว วันนี้นายกินข้าวที่นี่เหรอคะ” จำปาเอ่ยถามผู้เป็นนายขณะที่ตักแกงเขียวหวานใส่ถ้วย กรรณณาราจ้องถ้วยแกงเขียวหวานอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่เธอจะได้แกงเขียวหวานถ้วยนั้นสักที
“ใช่ แล้วก็มาแจ้งข่าวให้ทุกคนรู้ด้วย ทุกคนหันมาฟังทางนี้” ชนะชลเอ่ยบอกจำปาก่อนจะเอ่ยบอกคนงานที่ทานอาหารกันอยู่เสียงดัง กรรณณาราที่ยืนรอข้าวอยู่เริ่มจะหงุดหงิดเมื่อจำปาหยุดฟังผู้เป็นนายแล้วไม่ตักแกงเขียวหวานใส่ถ้วยให้เธอต่อสักที คนมันหิวนะจะมาประกาศอะไรตอนนี้
ชนะชลได้แต่มองแล้วขบขันในใจอย่างเอ็นดู เด็กน้อยจริง ๆ
“อย่างที่รู้กันว่าวันศุกร์หน้าตรงกับวันงานเลี้ยงประจำปี หลายคนคงคิดว่าปีนี้คงไม่มีแต่ไม่ต้องรีบเสียใจเพราะปีนี้ฉันจะจัดสามวันเพื่อชดเชยที่ปีที่แล้วทุกคนต้องหมดสนุกกัน ในงานนอกจากกิน ดื่ม สนุกสนานแล้วฉันอยากให้มีจัดการแสดงเพื่อสร้างความครื้นเครงด้วยมีงบให้ชุดล่ะ1หมื่น และจะให้จัดโหวตด้วยใครที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดจะได้เงินรางวัล1แสนบาท ใครสนใจก็สมัครกับหมอกเลย” ชนะชลเอ่ยบอกพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงเฮของคนงาน
“ดื่มได้มั้ยนาย” เสียงคนงานคนนึงตะโกนถาม
ชนะชลจึงตอบออกมาทันที “งดเครื่องดื่มมึนเมาทุกอย่าง งดการพนันด้วย ฉันไม่อยากให้เหมือนปีก่อน บอกคนที่ไม่ได้อยู่ในนี้ด้วย อีกข้องานเลี้ยงครั้งนี้ถ้ามีใครทะเลาะวิวาทฉันจะเอาหนักกว่าปีก่อน”
“มีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละใครสงสัยถามเจ้าหมอกหรือมาถามฉันก็ได้กินข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวคนโมโหหิวจะเหวี่ยงเอา” ชนะชลเอ่ยบอกลูกน้องก่อนจะแซวคนโมโหหิวที่ยืนรอแกงเขียวหวานอยู่ข้างๆฮิ้ว เสียงเป่าปากของคนงานยิ่งทำให้กรรณณาราเก้อเขิน
“นายจะรับอะไรดีคะ” จำปาถามออกมาทั้งที่มือยังค้างอยู่ที่จวักตักแกงเขียวหวาน
“แหม่ป้า ถามไม่ดูหน้าเมียฉันเลย ตักให้นายหญิงก่อนเถอะ เดี๋ยวเธอจะพาลโกรธฉันไปใหญ่” ชนะชลเอ่ยบอกมิวายแซวคนยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเขินที่ถูกเรียกเต็มปากว่าเมียหรือเจ้าหล่อนกำลังโมโหหิวกันแน่ ช่างน่าเอ็นดู
“อุ๊ยตายแล้ว! ขอโทษค่ะนายหญิง ป้าลืมไปเลย ขอโทษจริง ๆ” จำปาเอ่ยบอกเมื่อหันมองเมียเจ้านายแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังตักแกงให้ไม่เสร็จ
“ไม่เป็นไรค่ะป้า ป้าจำปาไม่ผิด ผิดที่เจ้านายป้าต่างหาก” กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะรับถ้วยแกงแกงเขียงหวานและแกงหน่อไม่ใส่ถาดเดินออกไปก่อนจะวีนใส่คนเป็นเจ้านายจำปา
“นั่นไงป้า ฉันว่าแล้ว มีเมียเด็กนี่ก็เอาใจยากนะป้า” ชนะชลเอ่ยเสียงดังอย่างขำๆก่อนจะสั่งอาหารสองสามอย่าง จำปาให้ผู้เป็นนายไปนั่งรอเดี๋ยวเธอจะเอาไปให้เอง ชนะชลกับหมอกจึงเดินไปที่นั่งลงตรงข้ามกับกรรณณาราที่นั่งตักข้าวเจ้าปากเคี้ยวตุบตุบอย่างอร่อยโดยไม่สนใจใคร คมเข้มและวสามองหน้าหมอกราวกับปรึกษาว่าควรอยู่ตรงนี้มั้ยก่อนที่ทั้งสามจะล่าถอยออกจากโต๊ะอย่างเงียบกริบ
“อร่อยมั้ยกระแตน้อย” เสียงที่เอ่ยถามทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาทานอย่างเอร็ดอร่อยเงยขึ้นมองอย่างตกใจก่อนจะหันมองข้างๆที่วสากับคมเข้มเคยนั่ง ไปกันตอนไหนเนี่ย
“ว่าไงอร่อยมั้ย กินจนไม่สนใจรอบข้างเลยคุณเมีย” ชนะชลเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มแพรวพรายให้ ยิ้มที่ทำให้สาวๆใจละลายมานักต่อนักสมัยยังเป็นนายทหาร ยิ้มที่หายไปเกือบสิบปี
‘เธอโดนอ่อยอยู่ใช่มั้ยเนี่ย อีตาอาชลมาแปลก แค่เมื่อเช้าก็ใจจะละลายแล้วนะ ถ้าไม่คิดจะรักอย่ามาทำให้หลงได้มั้ย’กรรณณาราได้แต่เอื้องเอ่ยตัดพ้อในใจ เธอกลัวหัวใจตัวเองหวั่นไหวกับอีตาคนนี้เสียจริง ๆ แต่สำหรับเธอไม่คิดจะหลงหรอกถ้าอีกฝ่ายไม่คิดจะรัก
‘อย่ามาหลอกแอ้มเสียให้ยาก ชิ’กรรณณาราคิดก่อนจะลงมือทานของตรงหน้าต่อ ชนะชลทำหน้าที่ผู้มองที่ดีจนหญิงสาวต้องเหลือบมองอยู่บ่อยครั้ง
‘เอาแต่มองอยู่ได้ โอ๊ยอยากจะบ้า’ เธอยังคงพูดในใจกับตัวเองจนจำปาเดินถือถาดกับข้าวของชายหนุ่มมาให้
“นี่ค่ะนาย” จำปาเอ่ยก่อนจะเดินออกมาชื่นชมความเหมาะสมของทั้งคู่ไกลๆ
“กินด้วยกันมั้ยกระแตน้อย” ชนะชลเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กแสบมองกับข้าวของเขาตาละห้อย โธ่เด็กหนอเด็ก
“ชิ กินยาลืมเขย่าขวดรึไงอาชล” กรรณณาราเอ่ยถามแต่แทนที่จะตอบคนถูกถามกลับตักผัดเปรี้ยวหวานมาคลุกข้าวตักใส่ปากแทน พ่อคุณช่างกวนประสาทในความรู้สึกของกรรณณารา
“ถามก็ไม่ตอบ เป็น บะ ฮือ” ประโยคที่เอ่ยยังไม่ทันจบถูกกลืนลงคอไปทันทีที่ข้าวคลุกผัดเปรี้ยวหวานถูกป้อนเข้าปากแทบเคี้ยวไม่ทัน
“กินเยอะๆกระแตน้อยจะได้โตเป็นกระแตใหญ่ไวๆ” ชนะชลเอ่ยอย่างอยากยั่วโมโหก่อนจะตักใส่ปากตัวเองบ้าง
“อาชล!” กรรณณาราเอ่ยตวาดเสียงเข้มแต่หาได้สร้างความเกรงกลัวให้แก่เจ้าของชื่อแม้แต่น้อย
“กินก่อนน๊าอย่าเพิ่งบ่น ไว้บ่นทีหลังแล้วกัน สามีหิวมากถ้าไม่รีบกินตอนนี้สาบานเลยว่าสามีจะกินคุณภรรยาแทน ยิ่งอยากกินหญ้าอ่อนอยู่ด้วย” ชายหนุ่มเกือบใหญ่เอ่ยบอกก่อนจะตักนั่นตักนี่ให้กรรณณารา หญิงสาวที่คิดจะต่อว่ารีบกลืนคำพูดลงคอไปด้วยกลัวไอ้คำขู่ทีเล่นทีจริงของเขา ‘มีเมียเด็กกระชุ่มกระชวยดีแท้นี่ขนาดยังไม่ได้กินนะ ถ้าได้กินเนี่ยจะขนาดไหน’
