บทที่17 มองตรง ๆ ก็ได้
ไลน์!
เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันยอดฮิตดังขึ้นทำให้กรรณณาราที่ทำหน้าไม่ถูกพอๆ กับชนะชลสะดุ้งโหยงก่อนจะหยิบขึ้นเปิดดู
นายชัช : ไฮ อาสะใภ้ ฝากอวยพรปู่กับย่าให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงด้วย รักท่านเสมอ
"ไอ้เพื่อนทรยศ ยังมีหน้ามาฝากนู่นฝากนี่อีก” กรรณณาราเอ่ยขึ้นหลังจากอ่านข้อความของเพื่อนทรยศเสร็จ หญิงสาวพิมพ์ข้อความกลับหาเพื่อนรักทรยศทันที
กระแต : แกอยู่กับเตใช่มั้ย ไอ้เพื่อนทรยศหายไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยนะ
นายชัช : ใครทรยศ ไม่มี๊ เพื่อนแค่หวังดีกับเพื่อนกับอา
กระแต: ไอ้เพื่อนบ้า ไอ้นิสัยไม่ดี ขอให้แกไม่ได้พี่ไผ่หวานสมใจ
นายชัช : โทษทีได้แล้วว่ะ ฮาฮ่าฮ่า หญ้าแก่อร่อยมากกกก
“ไอ้ชัชบ้า ไอ้เพื่อนนิสัยเสีย หมดกันพี่ไผ่หวาน” กรรณณาราเอ่ยอย่างลืมตัวจนคนอื่น ๆ หันมามอง ชนะชลก้มลงมองข้อความสนทนาของทั้งสองก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ กับคำว่าได้แล้ว กับหญ้าแก่อร่อยมาก ไอ้หลานบ้านี่มันหาหลานสะใภ้แก่กว่า (มัน) ให้เขาจริง ๆ เหรอวะเนี่ย
“อะไรกันกระแต แล้วไผ่หวานนี้ใคร นั่นคุยกับตาชัชใช่มั้ย” แม่เลี้ยงวารินทร์เอ่ยถามน้องสะใภ้หน้าตางุนงง
“ลูกสะใภ้ป้ารินทร์ไงคะ ไอ้ชัชมันไปปล้ำพี่เขาแน่ ๆ มันบอกว่าพี่ไผ่หวานเป็นเมียมันแล้ว” กรรณณาราเอ่ยอย่างหงุดหงิด เธอชื่นชมไผ่หวานมาก และรู้จักชัชรินทร์ดีว่าชายหนุ่มค่อนข้างคาสโนว่า ไผ่หวานไม่น่าตกเป็นเมียคนแบบนั้นเลย ด้านคนที่ฟังถึงกับงงไปอีก
“พี่ไผ่หวานเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงานที่ไร่ไพรพนาค่ะ ครั้งก่อนไปเที่ยวกันไอ้ชัชมันมองพี่เขาตาเยิ้มเลย พี่ไผ่หวานอายุ25 ได้ยินว่าเพิ่งตกงาน ไอ้ชัชมันวางแผนไว้แต่แรกว่าจะหนีงานแต่งแล้วไปที่นั่นเพื่อจีบพี่เขา แต่ไปๆ มาๆ มันบอกว่าได้แล้วแบบนี้มันต้องปล้ำพี่เขาแน่ ๆ” กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะหอบแฮ่กๆ เพราะหายใจไม่ทัน
“ไอ้ชัชนี่มัน มันน่านัก” พ่อเลี้ยงชนะชัยเอ่ยขึ้นหลังจากฟังน้องสะใภ้คราวลูกเอ่ยบอก
“ผมว่าปล่อยมันไปก่อนเถอะครับ ผมเคยได้ยินพ่อเลี้ยงติณบอกว่าลูกสาวหัวหน้าคนงานโหดมากหนุ่มๆ ไม่กล้าจีบ ท่านยังเคยแนะนำให้รู้จักเลย โหดๆ แบบนั้นเอาไอ้ชัชอยู่แน่” ชนะโชจน์เอ่ยบอกพี่ชายเขารู้จักกันติณภพเจ้าของไร่ไพรพนาที่เป็นพ่อของเตชินเพื่อนอีกคนของชัชวินทร์และกรรณณารา
“นั้นสินะ ปล่อยมันไปก่อนก็ได้ ไปกินข้าวกันดีกว่า จะได้แยกกันไปพัก เฮ้อ ไอ้ชัชมันหายไปเกือบสองอาทิตย์ได้เมียแก่สมใจ แต่อามันนี่สิของสวยๆ งามๆ อยู่ข้างตัวไม่เห็นจะทำอะไรได้ ไร้น้ำยา” พ่อเลี้ยงชัยชลปรามาสชนะชลอย่างอ้อมๆ ก่อนจะถูกภรรยาเข็ญเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร นี่สรุปเขาผิดใช่มั้ย ให้มันได้แบบนี้สิ ไอ้หลานเวรนั้นก็อีกไวไฟชะมัด
22.00น.
“ไอ้ชัชไลน์มาอีกรึเปล่า” ชนะชลเอ่ยถามเมื่อกลับมาที่ห้อง แต่ดูกรรณณาราจะไม่ได้ตอบหญิงสาวสอดส่องหาอาวุธป้องกันตัว เพราะเธอไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว แถมไม่ไว้ใจตัวเองกลัวจะต้องมนต์เสน่ห์อันมากมายของเขาด้วยแถมเธอยังเคยชื่นชมเขาอีก แค่ชื่นชมนะไม่ได้หลงใหลคลั่งไคล้
“กลัวเหรอเด็กน้อย หึหึหึ ไม่ต้องกลัวไป อาไม่กินเด็ก” ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ’ ซะที่ไหนวะ อยากกินอยู่หรอก แต่ต้องให้ไม่ระแวงซะก่อน หึหึหึ’
“เชื่อได้เปล่าวะ?” หญิงสาวถามตัวเองก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้า หาชุดที่มิดชิดที่สุด
20นาทีต่อมา
ร่างสูงเปลือยอกเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสดชื่นท่อนล่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันไว้อย่างหมิ่นเหม่ท่อนบนเปลือยเปล่ามีหยาดน้ำเกาะพราวเต็มอก สายตาคมสวยที่แกล้งนั่งอ่านหนังสืออยู่แอบมอง โอ๊ยใจจะละลาย กล้ามแน่นมาก หนึ่งสองสามสีห้าหก....โอ๊ยเริดอ่ะ
“มองตรง ๆ ก็ได้นะเด็กทะลึ่ง ไม่ต้องแอบ” เสียงเอ่ยบอกดังขึ้นอย่างขำขันก่อนจะยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา หญิงสาววางหนังสือลงอย่างเขินอายก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป
‘กรี๊ด ยัยแต ไม่น่าอ่านนิยายตอนนั้นเลย’ หญิงสาวได้แต่บ่นในใจ ก่อนหน้านี้เธอกำลังอ่านนิยายเรื่องที่กำลังติดจนวางไม่ลงและมันเป็นฉากที่พระเอกถอดเสื้อออกมาเพราะร้อน ผู้เขียนบรรยายเกี่ยวกับความสง่างามล่ำบึก มาดแมนของพระเอกจนหญิงสาวหลงใหลพระเอกนิยายขึ้นมาและเป็นจังหวะที่ชนะชลเดินออกมาพอดี แวบแรกต้องยอมรับว่าสามีทางนิตินัยของเธอช่างเหมาะกับการเป็นพระเอกนิยายจริง ๆ
“เลิกฝันเลย แค่กล้ามท้องแน่นๆ ซิกแพคล่ำบึกอย่าคิดว่าคนอย่างกระแตจะต้องมนต์ความหล่อ” กรรณณาราเอ่ยก่อนที่จะจัดการถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ
“ตายแล้ว ลืมชุด” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างนึกขึ้นได้มันน่าอายชะมัด เดินออกไปเอาก็ไม่ได้ เสื้อคลุมก็ไม่มี ‘เอาไงดีว่ะ’
“อาชล อาชลมาหน้าห้องน้ำหน่อย” กรรณณาราแง้มประตูห้องน้ำก่อนจะโพล่งออกมาแค่ใบหน้าเอ่ยขอร้องอย่างอับอายแต่เขาคงเป็นตัวช่วยสุดท้าย ถ้าเลือกเดินออกไปเอาทั้งอย่างนี้ชนะชลก็เห็นหมดนะสิ เลือกขอความช่วยเหลือนี่แหละดีสุด
“มีอะไรรึเปล่า” ชนะชลที่สวมแค่กางเกงขายาวแต่ไม่สวมเสื้อเดินมาหน้าห้องน้ำก่อนจะเอ่ยถาม
‘ยังจะอ่อยอีก’ กรรณณาราได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้นี่ไม่ใช่เวลาจะมาหลงใหลไอ้กล้ามแน่นๆ นั้น
“เอ่อ คือ คือว่า เอ่อเอาเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงมาให้หน่อย” หญิงสาวเอ่ยอย่างอับอาย พ่อเลี้ยงหนุ่ม (แก่) ยิ้มพรายก่อนจะหัวเราะออกมา ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดนอนที่สบายที่สุดออกมาแทนที่จะหยิบชุดบนเตียง
“อะนี่ ขืนใส่ชุดนั้นอึดอัดแย่” ชนะชลเอ่ยบอก กรรณณารารับชุดนอนกับกางเกงชั้นในมาแต่เงยหน้าที่ลอดผ่านประตูออกมา
“บราล่ะ? ”
“ปกติเขาไม่ชอบใส่กันมั่ง อึดอัดน่าดู ใส่เท่านี้แหละ อาไม่ทำอะไรหรอกน๊า” ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินกลับไป
“ชิ” ‘รู้อีก สงสัยจะเชี่ยวชาญ’ กรรณณาราปิดประตูห้องน้ำดังปังอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย ทั้งบางทั้งโป๊สบายอยู่หรอกแต่สาบานสิว่าอิตาอาชลไม่ได้คิดอะไรตอนหยิบมา คงไม่มั้ง นางคงไม่มาคิดอกุศลกับเด็กหรอก อ๊ายแล้วฉันจะยอมรับว่าเด็กทำไมเนี่ย เกลียดคำว่าเด็กแต่ตอนนี้อยากเป็นเด็กจะได้ไม่ต้องไปหลงใหลต้องมนต์อีตานั่น” กรรณณาราได้แต่บ่นพึมพำทะเลาะถกเถียงกับตัวเอง ใจนึงไม่ชอบให้คนมองว่าเด็ก แต่อีกใจก็อยากเป็นเด็กเล็กๆ ชนะชลจะได้ไม่ฉวยโอกาสเหมือนเมื่อบ่ายและจะได้ไม่ต้องหลงใหลหรือมีความรู้สึกกับชนะชล
กรรณณาราเดินออกมาจากห้องน้ำมองไปเห็นชนะชลนั้นนอนหลับหันหลังไปทางฝั่งที่เขานอนจึงกล้าล้มตัวลงนอนเพราะความเหนื่อยล้าทั้งวันทำให้หญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา
“เด็กน้อยเอ๋ย ไม่น่าเลือกชุดนี้ให้เลย โอ๊ยไอ้ชลจะทนได้นานแค่ไหนวะ จะกินเด็กก็ต้องให้สมยอม แต่ยัยนี้ไม่มีทีท่าจะยอมสักนิด ทนต่อไปชลเอ๊ย” ชนะชลที่ถูกคิดว่าหลับลุกขึ้นนั่งเบาๆ หันไปมองคนที่นอนข้างๆ ตอนหยิบชุดเขาคิดแค่จะโชว์เนื้อหนังเล็กน้อยที่ไหนได้เซ็กซี่อย่างกับนางเอกเอวี แม้ก่อนหน้านี้จะมีความต้องการในตัวเธอแต่เขาก็อยากจะให้เธอสมยอมพร้อมใจไม่ใช่การรังแกกันซึ่งไม่ใช่แนวทางของเขา จะทนได้แค่ไหนกันอยู่แบบนี้นาน ๆ ไม่ปล้ำเด็กก็คงลักหลับเด็กเป็นแน่
