บทที่12 ลืมไปว่าแก่แล้ว
บางครั้งคนเรามันก็ซวยสุดอะไรสุด ตอนเช้าเจอก๊วนลูกสาวผู้ว่าฯ กับเพียงนภาคู่ปรับ เลิกเรียนมายังต้องมายืนท่ามกลางสาวงามมากหน้าหลายตา นี่มันวันซวยของเธอชัด ๆ
“มีธุระอะไรก็ว่ามา ฉันรีบ”
“เธอใช่ผู้หญิงในรูปที่อยู่กับพ่อเลี้ยงรึเปล่า?” หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าสุดถามออกมาพร้อมกับโชว์รูปในโทรศัพท์ที่ถูกแชร์ต่อ ๆ กันมาจากพนักงานร้านเสื้อ
กรรณณาราเงยขอมองรูปนั้นด้วยความเจ็บจี๊ด ไม่จี๊ดที่มีรูปตัวเองโชว์หรา แต่จี๊ดที่ยัยคนนี้สูงปรี๊ดจนเธอเทียบไม่ติด ยิ่งใส่ส้นสูงยิ่งสูง ไม่รู้จะสูงไปไหน
“นี่ พี่อรถามก็ตอบสิ จะเงียบอยู่ทำไม” ใครอีกคนที่สูงไม่แพ้กันเอ่ยแทรกขึ้น
“ใช่ ฉันเอง ทำไม อย่าบอกนะว่าเป็นเด็กพ่อเลี้ยงชลน่ะ นี่ ๆ ถ้าจะมากราบเมียหลวงเนี่ยอย่ายกกันมาแบบนี้ เมียหลวงตกใจ” ตั้งสติได้สาวแสบก็พ่นคำเจ็บ ๆ ใส่หน้าบรรดานางงามทันทีโดยไม่รั้งรอให้อีกฝ่ายเปิดฉากก่อน
ไม่รู้ว่าตาแก่นั่นมีอะไรดีสาว ๆ ถึงได้ติดใจจนรุมแย่งกันอยู่ได้ เธอล่ะไม่รู้จะหมั่นไส้ใครก่อน
“นี่ เมื่อกี้เธอพูดว่ายังไงนะ!”
“ก็เมียหลวงตกใจไง เนี่ย...” กรรณณาราไม่ว่าเปล่านิ้วยังชี้ที่ใบหน้าตัวเอง “เมียหลวง”
“กรี๊ด!! ไม่จริง ไม่จริง” กรรณณารายกมือปิดหูทันทีที่ได้ยินเสียงโหยหวน เสียงที่ได้ยินไม่เพียงแค่คนที่ถามเธอตอนแรกแต่ยังรวมถึงคนอื่น ๆ ด้วย
“โอ๊ย จะโหยหวนถึงสามีชาวบ้านอะไรนักหนา ผู้ชายมีอีกเป็นร้อยเป็นพัน เศรษฐี ผู้ดี เจ้านาย ข้าราชการ คนในเครื่องหมายมีอีกเพียบ พวกเธอจะมาจมอยู่ทำไมกับพ่อเลี้ยงเมืองเหนือคนนึง โง่ โง่ เธอก็โง่ ยัยนั่นก็โง่ โง่กันหมดเลยพวกเธอน่ะ” นายหญิงแห่งไร่แสนรักว่าให้ยาวพรืดจนสาวงามถึงกับอ้าปากค้าง
“ยังจะโง่กันอีกเหรอ นี่ สมองน่ะมีมั้ย เจ้านายทางเหนือนี่แต่ล่ะคนหล่อ ๆ ทั้งนั้น ที่รวย ๆ เลิศ ๆ ก็เต็มไปหมด ทำไมไม่ไปอ่อย ไปยั่ว ทำไมต้องมายุ่งกับพ่อเลี้ยงวัยเลข4กันอยู่ได้”
“กรี๊ด!!! ฉันไม่ยอม” หนึ่งในคนที่ถูกด่าได้สติขึ้นมาส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะพุ่งเข้าใส่กรรณณารา ทว่าหญิงสาวนั้นคล่องตัวกว่าบรรดาสาวงามมากจึงหลบได้และตบคนที่พุ่งเข้าใส่ตนได้ทุกคน
“ตบนี้สำหรับเรียกสติ ส่วนอันนี้สำหรับที่มาทำให้ฉันหงุดหงิด” แม่กระแตป่าเอ่ยก่อนจะหยิบสีสเปรย์ที่เธอพกติดตัวไว้ตลอดออกมาฉีดใส่เสื้อผ้าของเหล่านางงามทุกคนจนสาวงามพากันแตกกระเจิง
คาดว่าไม่กล้าจะกลับมาหาเรื่องหญิงสาวอีก คมเข้มและวสาที่เพิ่งจะเดินมาถึงกับอ้าปากข้าง
“เรื่องนี้ต้องขยาย” วสาพูดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพและแชร์ลงในไลน์กลุ่มของชาวไร่แสนรัก “ต้องขยายให้รู้ทั่ว ๆ กันว่าแม่เลี้ยงของเราสุดยอดขนาดไหน”
“แม่เจ้าโว้ย นี่ขนาดยังไม่สปาร์คกับนายนะยังขนาดนี้ นี่ถ้ารักถ้าหลงขึ้นมามีหวังผู้หญิงคนไหนก็เฉียดมาใกล้นายไม่ได้แน่ ๆ นี่แหละเว้ยเจ้านายที่แท้จริง” คมเข้มพูดด้วยน้ำเสียงถูกใจแบบสุด ๆ
สาวหนุ่มสาวอาจจะถูกใจกับความแสบสันของกรรณณาราทว่าชนะชลหาได้สนุกด้วยแม้แต่น้อย
หนุ่มใหญ่ได้รับโทรศัพท์ฟ้องร้องจากพิชชี่ที่โทรมาร้องห่มร้องไห้ว่านางงามในสังกัดของเธอถูกทำร้ายจนไม่กล้าออกไปไหน ขอให้เขาช่วยจัดการคนของเขาให้หน่อย
แต่เขาจะไปทำอะไรได้กันล่ะ ขนาดตัวเขาเองเขายังช่วยตัวเองไม่ได้เลย
ก็แม่คุณเล่นเอาตุ๊กแกของจริงเข้ามาไว้ในบ้านน่ะสิ ให้ตายชัก
1สัปดาห์ต่อมา
เป็นเวลากว่า1สัปดาห์แล้วที่กรรณณาราใช้ชีวิตอยู่ในไร่แสนรักอย่างมีความสุขในแต่ละวันเธอสร้างเรื่องมากมายให้ผู้เป็นเจ้าของไร่ได้ปวดหัวจนไม่หวาดไม่ไหว
หลังเลิกเรียนก็ลากเขาไปจ่ายตลาดด้วยกันจนมะปรางอาละวาดใส่ ทั้งสั่งเขาทำโน่นทำนี่สารพัด แถมยังต้องขวัญผวากับตุ๊กแกของจริงที่แม่คุณหามาเลี้ยงไว้ในตู้กระจกในห้องนอนอีก
“ยัยตัวแสบ ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงตุ๊กแกดังหลังจากเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ให้ตายเถอะ เขาอาศัยอยู่กับความหวาดกลัวและน่าขยะแขยงมา1อาทิตย์แล้วเหรอ ‘เมื่อไหร่ยัยกระแตป่าจะเผลอซะทีวะ’
“บ่นอะไร ชาช่าแค่ทักทายเองนะ” กรรณณาราเอ่ยขึ้น ชาช่าที่พูดถึงไม่ใช่ใครที่ไหนก็เจ้าตุ๊กแกที่เธอหามาเลี้ยงไว้นั้นเอง หญิงสาวได้แต่หัวเราะในใจที่เห็นท่าทางหวาดกลัวของอีกฝ่าย เขาไม่ได้กลัวมากแต่ความขยะแขยงมีมหาศาล
“กระแตพอเถอะอาขอร้อง ไม่ไหวแล้วจริง ๆ เอามันออกไปจากห้องอาเถอะนะ” หนุ่มเกือบใหญ่เอ่ยบอกน้ำเสียงเหนื่อยล้า หลายวันมานี่แค่ได้ยินเสียงไอ้ตัวในตู้กระจกมันร้องเขาก็สะดุ้งตื่นตลอดจนพักผ่อนไม่เพียงพอไปแล้ว
“ได้ แต่พรุ่งนี้พาไปที่ฟาร์มกล้วยไม้ด้วย” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะลูบหัวเกาคางเจ้าถุงทองที่เธอแย่งที่นอนมันมา1สัปดาห์อย่างรักใคร่ เจ้าถุงทองเป็นแมวแสนรู้ทำให้เธอหลงรักได้อย่างง่ายดายแถมยังชอบออดอ้อนและเชื่อฟังคำพูดของเธอด้วย
“ไม่ไปเรียน?”
“นี่กลัวตุ๊กแกจนไม่รู้วันรู้คืนแล้วเหรอ พรุ่งนี้วันหยุด” หญิงสาวตอบกลับ “แล้วคำตอบล่ะ”
“ได้ ได้เลยจ้ะเดี๋ยวอาพาไป อยากไปไหนบอกเลยอาพาไป แค่เอามันออกไปก็พอ” พ่อเลี้ยงคนดังเอ่ยบอก หญิงสาวจึงยกตู้กระจกออกไปจากห้องระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ค้นหาสมาร์ตโฟนของหญิงสาวทันทีแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอ
“เอาติดตัวตลอด อย่าให้เผลอนะกระแต” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะหันไปเห็นแท็บเล็ตของเธอวางอยู่บนเตียง ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะลองหาดู และเขาก็เจอสิ่งที่เข้าต้องการชายหนุ่มรีบลบมันทันที
‘ถึงจะยังมีอีกแต่ถือว่าทำลายไปแล้วได้หนึ่งละนะ’ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะกลบเกลื่อนความผิดด้วยการปล่อยไวรัสลงไปค่อยๆ ทำลายข้อมูลในเครื่องและแน่นอนว่าเมื่อกรรณณารามาเห็นก็จะเข้าใจว่าคลิปนั้นหายไปเกิดจากไวรัสก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
‘รู้จักชนะชลน้อยไปแล้วหนูเอ้ย ไอ้ชัชมันบอกมั้ยหนอว่าอามันเรียนเกี่ยวกับไอทีมา’ ชายหนุ่มคิดก่อนจะหลับตาลงอย่างสบายใจวันนี้เจ้าชาช่าไม่ได้อยู่กวนเขาแล้วคงหลับสบายถึงเช้า
ฟาร์มกล้วยไม้เหมือนฝัน
และตามที่พ่อเลี้ยงวัยกลางคนได้สัญญาไว้รุ่งเช้าวันต่อมาชนะชลก็พากรรณณารามาที่ฟาร์มด้วย หญิงสาวดูจะสนใจการเลี้ยงกล้วยไม้เป็นอย่างมาก ชนะชลจึงอธิบายและสอนเกี่ยวกับหลายๆ อย่างให้อย่างไม่หวงความรู้ยิ่งเห็นเธอกระตือรือร้นเขาก็ยิ่งรู้ซึ้งถึงสิ่งที่พ่อตาได้บอกไว้ว่าบางทีกรรณณาราอาจจะมีความเป็นผู้ใหญ่ที่ใคร ๆ คิดไม่ถึง ซึ่งก็มีจริง ๆ
“เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันกระแต เดี๋ยวตอนบ่ายอาจะพาไปดูทางโน้นต่อ” ชนะชลเอ่ยบอก
กรรณณารามองอย่างงงๆ “ปกติตัวกินข้าวที่ไหน?”
พ่อเลี้ยงหนุ่มมองหน้าคนถามก่อนจะตอบ “บางครั้งก็ที่บ้าน ถ้าวันไหนขี้เกียจกลับก็ล้อมวงกินกับพวกคนงานแววจะเอาปิ่นโตมาส่ง”
“แล้ววันนี้กินที่ไหน” หญิงสาวถามอย่างตื่นเต้น ชนะชลมองอย่างขำขันสมแล้วที่ใครก็มองว่าเด็ก คุณเธอช่างไร้เดียงสาเสียจริง ๆ ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว “แล้วอยากกินที่ไหนล่ะ”
“ที่นี่” และคำตอบของเธอก็ไม่เหนือความคาดหมายของเขาแม้แต่น้อย
“เมื่อยอ่า มาให้ขี่หลังเดี๋ยวนี้” นายหญิงแห่งไร่แสนรักเอ่ยบอก พร้อมทั้งโชว์สมาร์ทโฟนขึ้นเป็นอันรู้กันว่าเขาต้องยอม
“พร้อมแล้วขึ้นมา” พ่อเลี้ยงหนุ่มเกือบใหญ่เอ่ยบอกก่อนหันหลังตั้งท่าเตรียมรับร่างของหญิงสาว กรรณณารามองก่อนจะยิ้มออกมาหญิงสาวถอยหลังไปสามถึงสี่ก้าวก่อนจะวิ่งเข้ากระโดดใส่ชายหนุ่มเกือบใหญ่จนเขาเกือบเซแต่ด้วยความที่ร่างกายถูกฝึกฝนและผ่านการออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอทำให้ชนะชลทรงตัวได้ถ้าเป็นคนคนอื่นมีหวังล้มลงไปทั้งคู่
“อุ๊ย ขอโทษค่ะคุณลุง ลืมไปว่าแก่แล้ว กระดูกกระเดี้ยวยังอยู่มั้ยเนี่ย” หญิงสาวแกล้งเอ่ยขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมา
“แสบจริง ๆ แม่คนนี้” ชนะชลบ่นก่อนจะก้าวเท้าเดินอย่างมั่นคง ในใจนึกคาดโทษคนตัวเล็ก ‘คอยดูเถอะยัยตัวแสบ ได้คลิปในโทรศัพท์เมื่อไหร่จะเอาแมงมุมมาเลี้ยงให้ทั่วบ้านเลย’
