บทที่11 โจทย์เก่า
“พี่กระแต อุ๊ย พี่กระแตจริง ๆ ด้วย สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงตื่นเต้นของใครคนหนึ่งดังขึ้นทำเอาคนยิ้มเงียบ ๆ อยู่คนเดียวถึงกับสะดุ้ง
“น้อง?”
“ใบหม่อนค่ะ เราเจอกันวันรับน้องสองอาทิตย์ก่อนไง” สาวน้อยที่เข้ามาทักเอ่ยแนะนำตัวและทวนความจำ กรรณณารานึกย้อนไปถึงวันรับน้องเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เธอตัดสินใจมาร่วมด้วยเพื่อแก้เครียดที่ไม่รู้จะล้มงานแต่งยังไง วันนั้นเธอได้จับคู่กับเธอคนนี้และมีเรื่องกับเพื่อนของอีกฝ่ายที่ชอบให้เมลานีหรือใบหม่อนคนนี้เป็นเบี้ยล่างมาตั้งแต่อยู่มัธยม
“อ้อ ใบหม่อนนั่นเอง ดีเลย งั้นเราเดินไปที่คณะพร้อมกันเนาะ” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะชวนอีกฝ่ายเดินไปด้วยกันระหว่างทางก็สอบถามถึงเรื่องราวหลังจากวันนั้นไปด้วย
“พวกเขาก็ไม่คุยกับใบหม่อนอีกเลยล่ะค่ะ แต่ใบหม่อนไม่เป็นไรหรอก ใบหม่อนได้เพื่อนใหม่แล้ว นั่นไงคะเดินมานั่นพอดี” เมลานีตอบก่อนจะชี้ไปที่ร่างบางของใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหา ใครคนนั้นเป็นเด็กหนุ่มแต่ท่าทีตุ้งติ้ง เขาเดินตูดบิดมาใกล้ก่อนจะยกมือไหว้ย่อตัวลงเกือบจะถึงพื้นคล้าย ๆ กับที่นางงามเขาทำกัน
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อแฟรี่ค่ะ”
“เมื่อก่อนชื่อกาแฟค่ะพอค้นพบตัวเองเลยเปลี่ยนเป็นแฟรี่” เมลานีชี้แจงแล้วก็แนะนำให้กวินทร์หรือกาแฟได้รู้จักกับกรรณณาราแต่เหมือนว่ากวินทร์จะรู้จักกรรณณารามากกว่าเมลานีเสียอีกดูได้จากการตอบกลับอันยืดยาวของอีกฝ่ายก็รู้แล้วล่ะ
“หนูรู้จักพี่ค่ะไม่โง่เหมือนยัยใบหม่อนกับคนอื่น ๆ หรอก พี่น่ะดังมากเลยเข้าเรียนปี1ตั้งแต่อายุ17จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ เอกการตลาด โทภาษาจีน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมีเพื่อนหล่อม๊ากกก ถึงสองคน 1พี่เตชินทร์ รุ่นพี่คณะเราที่ฮอตที่สุดในขณะนั้น 2คือพี่ชัชรินทร์ รุ่นพี่คณะสถาปัตย์ที่อายุน้อยแต่หล่อเวอร์รวยเวอร์และเป็นขวัญใจสาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัย พี่สามคนอะเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยที่ถูกพูดถึงที่สุดในม.เลยนะหนูรู้จักอยู่แล้ว”
“รู้ดีเชียว รู้มากกว่าที่พี่รู้อีกอ่ะ”
“แหม่พี่ขา ก็ก่อนจะเลือกม.หนูก็ต้องสืบก่อนว่าผู้หล่อมั้ย และตอนสืบ ๆ อยู่ก็ได้ยินเรื่องราวของพวกพี่ ๆ แต่น่าเสียดายที่พี่ชัชรินทร์กับพี่เตชินทร์จบไปแล้วเลยได้เห็นแค่รูปภาพกับผลงานการถ่ายภาพของพี่เขาในคณะ” กวินทร์เอ่ย ลักษณะของหนุ่มน้อยใจสาวบ่งบอกว่าเป็นคนร่าเริงและมองโลกในแง่ดี เป็นคนที่น่าคบหาคนนึงเลยทีเดียว
“สักวันอาจจะได้เจอตัวเป็น ๆ ก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ตอนนี้พวกเราไปที่คณะกันดีกว่านะ”
“นั่นสิลืมเลย ไปค่ะไป” กวินทร์เอ่ยก่อนที่ทั้งสามจะเดินไปที่ตึกคณะด้วยกัน เมื่อไปถึงด้านหน้าก็ต้องพบเข้ากับกลุ่มเพื่อนที่เคยหาเรื่องเมลานีเข้าพอดี กรรณณาราขบคิดในใจว่าเมื่อเช้าเธอย่างเท้าออกจากบ้านถูกข้างรึเปล่าถึงได้เจอโจทย์แต่เช้าขนาดนี้
แต่ไม่เป็นไรเมื่อไหร่ เวลาไหนเธอก็พร้อมไฝว้อยู่แล้ว อยากเจ็บก็เข้ามาเลย!!!
“หาพวกได้ไม่เลยนี่ยัยหม่อน คนนึงก็ตุ๊ด คนนึงก็...แรด”
คำว่าแรดที่อดีตเพื่อนของเมลานีเอ่ยออกมาทำเอาดวงตาหวานวาวโรจน์ไม่ด้วยความโกรธ ในชีวิตไม่เคยมีใครว่าเธอแบบนี้มาก่อน นี่เธอเหมือนสัตว์มีนอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
มันจี๊ด บอกเลยว่ามันจี๊ด
“นี่ฉันไปเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับพวกเธอเมื่อไหร่กันฮะ แรดน่ะควรจะเรียกตัวเองมากกว่านะ”
“นี่ นี่แก แกว่าฉันแรดเหรอ แกกล้าดียังไงฮะ” ตัวหัวโจกที่กรรณณาราไม่รู้ว่าชื่ออะไรแต่พอเดาได้ว่ามักจะทำตัวใหญ่เย่อหยิ่งกว่าเพื่อนพ้องเอ่ยราวกับไม่เคยมีใครกล้าต่อล้อต่อเถียงกับเธอมาก่อน
จะว่าไปแล้ววันที่เจอครั้งแรกอีกฝ่ายก็พูดประมาณนี้แล้วก็ลงท้ายด้วยคำยอดฮิตว่า ไม่รู้เหรอว่านี่ลูกใคร
“แกไม่รู้เหรอว่าฉันลูกใคร” เธอคนนั้นพูดในสิ่งที่กรรณณาราคิดจนหญิงสาวต้องลอบกลอกตา
ถ้าเธอเดาแผนของชัชรินทร์ได้เหมือนที่เดาได้ว่ายัยคนนี้จะพูดอะไรเธอคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ เจ็บใจจริงเชียว
“คะ คุณพี่ขา นางถามคุณพี่คุณพี่ไม่ตอบเหรอคะ?” กวินทร์ส่งเสียงถามเมื่อไม่เห็นกรรณณาราโต้ตอบอะไรกลับ กรรณณาราเบนสายตามาทางกวินทร์พร้อมกับถามออกไป
“แล้วนางลูกใครอ่ะ”
“นี่แกไม่รู้เหรอ ฮึย นี่นังตุ๊ดบอกเพื่อนแกไปสิว่าฉันน่ะลูกใคร นางจะได้เจียมตัวซะบ้าง” เธอคนนั้นพูดอย่างเกรี้ยวกราดและยิ่งเกรี้ยวกราดหนักกว่าเดิมเมื่อกรรณณาราไม่มีท่าทีจะใส่ใจ
“คืออย่างนี้ค่ะพี่ นั่นน่ะธัญญ่าค่ะ ลูกสาวท่านผู้ว่า” กวินทร์กระซิบกระซาบบอก กรรณณาราเบิกตากว้างทันทีที่ได้รับรู้ทำให้ธัญญ่าหรือธัญญาดาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้ว่าราชการยิ้มร่าเมื่อเห็นใบหน้าตกใจของกรรณณารา
กรรณณาราเก็บความตกใจก่อนจะพึมพำ “ลูกสาวผู้ว่า? อ้อ งั้นก็น้องของนายธเนศน่ะสิ”
“มีอะไรกันเหรอธัญญ่า ทำไมยังไม่เข้าไป?” น้ำเสียงทุ่มน่าฟังดังขึ้นขณะที่กรรณณาราพึมพำกับตัวเอง หญิงสาวหันไปมองต้นเสียงก็ได้เห็นคนที่เธอพึมพำถึง...นายธเนศ
มารหัวใจของพี่ชายเธอยังไงล่ะ แถมนายคนนี้ยังมาพร้อมกับคนที่เธออยากจะไฝว้ด้วยที่สุดด้วย
“ยัยฟ้าหม่น”
“ยัยเตี้ยกระแต” คนถูกเรียกว่าฟ้าหม่นตอกกลับพร้อมกับมีสีหน้าคาดไม่ถึง “ไม่ใช่ว่าจบไปแล้วเหรอ?”
“จบไปแล้วรึยังไงมันก็เรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงใจร้ายอย่างเธอหรอก”
“โอ๊ะ ใครใจร้าย เธอต่างหากล่ะใจร้าย ให้ตายสิอุตส่าห์ดูฤกษ์ดูยามก่อนออกจากบ้านแล้วแท้ ๆ ทำไมยังมาเจอยัยรกหูรกตานี่ได้นะ” เพียงนภาหรือฟ้าใส สวนกลับด้วยใบหน้าไม่พอใจ กะว่าปีนี้จะไม่ต้องเจอะเจอกับกรรณณาราอีกแต่ทำไมยัยคนนี้ยังอยู่อีกล่ะเนี่ย?
“พูดอย่างนี้อยากมีเรื่องเหรอ ตัวต่อตัวมั้ย?” กรรณณาราท้าอย่างเอาเรื่อง ยิ่งปรี๊ดกับยัยลูกสาวผู้ว่าอยู่มาเจอโจทย์เก่าแก่อีก อารมณ์พุ่งจี๊ดเลย เธอพร้อมปะทะเชียวล่ะ
“ว้ายตายแล้ว คุณพี่ใจเย็น ๆ คร่า” กวินทร์ร้องกรี๊ดกร๊าดเมื่อรู้สึกได้ว่ากรรณณาราดูจะพร้อมปะทะไปทั่ว นี่ใช่ผู้หญิงจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย? แลดูเกรี้ยวกราดอย่างกับนักเลง
“พี่กระแตใจเย็น ๆ ค่ะ อย่ามีเรื่องเลยนะคะ” เมลานีช่วยห้ามอีกแรงด้วยกลัวจะมีเรื่องร้ายแรงพร้อมทั้งดึงร่างบางให้เข้าไปภายในตึก
“เจอกันครั้งหน้าฉันเล่นเธอแน่ยัยฟ้าหม่น” ทว่าคนที่เมลานีกลัวมีเรื่องยังคงไม่วายตะโกนใส่เพียงนภาเป็นการส่งท้าย
“ฉันก็ไม่อยู่เฉยหรอกย่ะ” เสียงตอบกลับมาพาให้กรรณณาราหัวเสียแต่ก็เห็นแก่รุ่นน้องทั้งสองคนจึงยอมนิ่ง ถ้าไม่กลัวถูกห้ามและที่นี่ไม่ใช่สถานศึกษาอันทรงเกียรตินะเธอจะจัดการทั้งเพียงนภาทั้งแก็งลูกสาวผู้ว่าเลย มาทำให้หงุดหงิดแต่เช้า คิดแล้วมันน่าตบสักยก
