บท
ตั้งค่า

บทที่9 คำด่า

ทันทีที่กลับมาถึงคอนโด ฉันถึงกลับทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง กว่าจะกลับมาถึงบ้านเล่นทำเอาเหนื่อยอยู่ไม่น้อย

ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเห็นว่าลูกกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง ใบหน้าของลูกช่างดูน่ารักน่าเอ็นดู

นิ้วเรียวเลื่อนไปสัมผัสที่แก้มลูกเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน อาการเหนื่อยจากการทำงานก่อนหน้านั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง

แกร๊ก~ ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา ก็สะดุ้งด้วยความตกใจจนถึงขีดสุดเมื่อเห็นว่ารามิลนั่งอยู่บนเตียงข้างๆ น้องปริม ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาแอบเข้ามาในห้องของฉันตั้งแต่ตอนไหน

ฉันยกมือขึ้นกระชับผ้าขนหนูไว้แน่นเมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองมา กลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งผ่านทางลมหายบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาคงดื่มหนักมาก่อนหน้านั้น

“ไม่ต้องทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ได้คิดพิศวาสอะไรเธออยู่แล้ว”

“มิลมะ…มีอะไรหรือเปล่า?”

“ที่นี่มันบ้านฉัน ถ้าจะเข้ามาต้องมีอะไรด้วยเหรอ?”

“ปรางไม่ได้หมายความแบบนั้น”

“แล้วหมายความว่ายังไง?”

“ปกติไม่เคยเห็นมิลเข้ามา ปรางสงสัยก็เลยถามดู”

“ก็แค่เข้ามาดูว่าของในบ้านยังอยู่ครบหรือเปล่า เผื่อบางทีเธออาจจะขโมยเอาไปขายกินโดยที่ไม่บอกฉัน”

“ของทุกอย่างยังวางอยู่ที่เดิม ปรางไม่เคยมีความคิดแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ”

“ทำเป็นพูดดีไปเถอะ”

เนื้อตัวของฉันเริ่มสั่นเทาเมื่อรามิลเดินเข้ามาใกล้ สายตาที่เขามองมาฉันไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของเขาได้เลย

“วันนี้ปรางเหนื่อย อยากนอนพักแล้ว อย่ามาหาเรื่องกันได้ไหม”

รามิลปรายสายตามองไปยังน้องปริมที่นอนหลับอยู่ ก่อนจะยอมถอยแล้วเดินออกจากห้องไป

ฉันยืนก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้เหนื่อยทั้งกายและใจ เหนื่อยจนไม่อยากอยู่สู้หน้าเขาอีกแล้ว

หลายวันต่อมา…

-RM BAR-

“วันนี้ปรางเอาบิลไปเบิกเครื่องดื่มกับผู้จัดการมาให้พี่นะ เสร็จแล้วมาช่วยในครัวเตรียมอาหารต่อ”

“ได้ค่ะ” ฉันรับคำสั่งจากหัวหน้า วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ลูกค้าเลยจะเยอะมากเป็นพิเศษ

“วันนี้เงินเดือนออก พวกเราไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันไหม?”

“ดีเลยพี่แจ๋ว ปากซอยมีบุฟเฟต์ร้านหมูกระทะเปิดใหม่เราไปกินไหม”

“เป็นความคิดที่ดีมากนังโอ๋ ไปกินหมูกระทะกัน”

“…..” ฉันได้แต่ยืนฟังในสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน โชคดีที่ได้เพื่อนร่วมงานดีการทำงานเลยราบรื่นไม่มีเรื่องให้ต้องปวดหัว

“ไปด้วยกันนะปราง เดี๋ยววันนี้พี่เป็นเจ้ามือเลี้ยงเอง” พี่แจ๋วหันมาชวนฉันที่กำลังขมักเขม้นจัดของหลังร้านอยู่

“ปรางต้องรีบกลับไปหาลูกน่ะค่ะ เชิญพวกพี่ตามสบายเลย”

“ไปกินแค่แป๊บเดียวไม่เสียเวลาอะไรมากหรอก พี่เห็นแกทำแต่งานงกๆ ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างสิ”

“ไปด้วยกันนะปราง คนขี้งกอย่างพี่แจ๋วอุตส่าห์เป็นเจ้ามือทั้งที ชาตินี้ทั้งชาติหาไม่ได้อีกแล้วนะ” ตั้งโอ๋พูดสมทบพร้อมเดินเข้ากอดคอ เราเป็นเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิทกัน

“เอ้า! ยัยโอ๋ นี่แกหลอกด่าฉันอยู่เหรอ”

“หนูไปทำงานก่อนนะ แล้วเจอกันหลังเลิกงาน”

สิ้นประโยคตั้งโอ๋ก็รีบวิ่งหนีออกไป จะเหลือแค่ฉันกับพี่แจ๋วที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน

“สรุปว่าเลิกงาน ปรางไปกับพี่นะ”

“ไปก็ได้ค่ะ”

ก๊อก~ ก๊อก~ ฉันเคาะประตูเพื่อส่งสัญญาณขออนุญาตคนที่อยู่ด้านในก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องแล้วเห็นรามิลกำลังนั่งทำงานอยู่

“ขออนุญาตค่ะ”

“มีอะไร?” รามิลละสายตาจากแฟ้มเอกสารแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“ปรางจะเข้ามาถามเรื่องเงินเดือน”

“…..”

“เงินของคนอื่นๆ โอนเข้าธนาคารแล้ว แต่ของปรางยังไม่ได้เลย ปรางกลัวว่ามิลจะลืมเลยมาถามดู” ฉันถามด้วยความอึกอัก ตอนนี้มีเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อย วันพรุ่งนี้ก็ต้องพาน้องปริมไปหาหมออีก เลยกลัวว่าจะไม่พอ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่กล้าโทรไปขอเงินพ่อกับแม่เพราะเกรงใจและกลัวจะถูกด่าถ้าเกิดว่ารามิลรู้

“นึกว่าเรื่องอะไร ในสมองของเธอคงมีแต่เรื่องเงินสินะ”

“ใช่ เพราะเงินสำคัญกับปรางและลูกมาก คนที่มีเงินมากมายอย่างมิลคงไม่เข้าใจหรอก”

“ไม่ต้องพูดมาก! ของเธอค่อยเอาเป็นเงินสด”

“พรุ่งนี้น้องปริมต้องไปหาหมอฉีดวัคซีน ขอเงินเพิ่มหน่อยได้ไหม”

“จะเอาเท่าไหร่?”

“ขอสักหมื่นนึงได้ไหม แล้วมิลค่อยหักเอาจากเงินเดือนของปรางก็ได้”

“ค่อยกลับไปเอาที่บ้าน”

“…..”

-หลังเลิกงาน-

“เดินจนขาจะหลุด ทำไมลูกค้าถึงเยอะขนาดนี้ทุกวัน” พี่แจ๋วบ่นพึมพำไม่หยุดหลังจากที่เลิกงาน

“ลูกค้าแน่นร้านแบบนี้ทุกวัน คุณรามิลจะเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนกันนะ”

“เห็นผู้จัดการบอกเดือนนี้ร้านเราได้กำไรหลายสิบล้านเชียวนะ”

“แบบนี้พวกเราก็ต้องได้เงินพิเศษน่ะสิ”

“…..” ฉันได้แต่นั่งฟังบทสนทนานั้นแบบเงียบๆ พลางหยิบขนมปังขึ้นมากินรองท้องแก้หิว

“ว่าไงสาวๆ มานั่งทำอะไรตรงนี้” เสียงผู้จัดการร้านดังขึ้นจากทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉัน

“กำลังจะไปร้านหมูกระทะน่ะสิผู้จัดการ สนใจไปด้วยกันไหม?”

“เป็นความคิดที่ดีมาก ผมขอไปด้วยคน” ผู้จัดการหันมายิ้มให้ ฉันจึงยิ้มตอบกลับอย่างไม่คิดอะไร

“งั้นปรางนั่งรถไปกับผู้จัดการนะ ส่วนพี่กับยัยโอ๋จะขับมอเตอร์ไซค์ตามไป”

“ได้ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับอย่างไม่เรื่องมาก ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นรามิลที่ยืนสูบบุหรี่จ้องมองพวกเราอยู่ที่ชั้นสองของร้าน

-ร้านหมูกระทะ-

“เป็นไงอร่อยสมคำร่ำลือไหม?”

“อร่อยมากตั้งโอ๋ ปรางไม่เคยกินหมูกระทะที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย” ฉันยิ้มกว้างแล้วใช้ตะเกียบคีบหมูย่างคำโตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

ไม่ใช่มีแค่เรา แต่ยังมีพนักงานคนอื่นๆ ที่ออกมาฉลองในวันเงินเดือนออกอีกด้วย

“ถ้าชอบก็กินเยอะๆ เลยนะ ตักได้ไม่อั้นแบบจุกๆ”

“ขอบใจมากนะที่ชวนมากินของอร่อยๆ”

“ทำไมต้องทำหน้าปลื้มปริ่มขนาดนั้น ทำอย่างกับไม่เคยคิดอะไรพวกนี้” ตั้งโอ๋พูดแซว ทำเอาฉันถึงกลับหุบยิ้มลงในทันที

ชีวิตฉันไม่ได้สัมผัสกับของอร่อยพวกนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ…

“…..”

“นั่นมันคุณรามิลใช่ไหม พวกแกช่วยพี่ดูหน่อยสิ”

“ใช่จริงๆ ด้วยพี่แจ๋วนั่นมันคุณรามิลกับคุณเพื่อนเขานิ สงสัยมากินหมูกระทะเหมือนเราแน่เลย”

บทสนทนาก่อนหน้านั้น ทำเอาฉันต้องหยุดชะงักไป ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะมาที่ร้านนี้ด้วย

“เอ้า! ปราง”

“คุณยอส คุณเชนสวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหวทักทายตามมารยาทเมื่อคุณยอสกับคุณเชนเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทัก

“มากินหมูกระทะเหมือนกันด้วยเหรอ ไปนั่งกับพวกผมสิ”

“จะไปชวนทำไมแกะกะ” เสียงรามิลดังแทรกขึ้นมาก่อนจะมองฉันสลับกับผู้จัดการที่นั่งข้างๆ กัน

บรรยากาศรอบตัวของพวกเราเริ่มตึงเครียดขึ้นมา เมื่อมีรามิลที่เป็นเจ้านายยืนอยู่ตรงนี้ด้วย

“เอ้า! ไอ้เวรนิ นั่นมันเมีย…”

“พวกมึงจะยืนโง่กันอีกนานไหม รีบไปหาที่นั่งสิ”

“…..”

“ทำไมถึงพูดเหมือนสนิทกัน แกรู้จักกับคุณรามิลด้วยเหรอ?” พี่แจ๋วกระซิบกระซาบเอ่ยถามเมื่อพวกเขาเดินออกไปแล้ว

“เคยปะ…เป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนน่ะค่ะ”

“ไม่เห็นเคยเล่าให้พวกพี่ฟังบ้างเลย”

“ปรางเห็นว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรเลยไม่เล่าให้ฟัง”

“แล้วน้องปริมเป็นยังไงบ้าง ได้ยินว่าไม่ค่อยสบายหายดีหรือยัง” พี่แจ๋วถามด้วยความเป็นห่วง เพราะฉันเคยบอกว่ามีลูกแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าพ่อของน้องปริมเป็นใคร

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ กลับมาซนเหมือนเดิมแล้ว”

“ลำบากแย่เลยนะ ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวแบบนี้ แต่จะว่าไปพี่ไม่เคยเห็นแกพูดถึงผัวแกเลยนะ เลิกกันแล้วเหรอ?”

“ค่ะ”

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นมันเป็นพ่อประสาอะไรวะ ถึงทิ้งขว้างปล่อยให้ลูกให้เมียอดอยากอยู่ลำบากขนาดนี้” พี่แจ๋วโวยวายออกมายกใหญ่ด้วยความเมา ก่อนจะคว้ากระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด ที่พี่แจ๋วโมโหขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเข้าใจหัวอกฉันดี

“แกตัวเล็กนิดเดียวแต่ต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำ พี่ว่าหาผัวใหม่ไปเลยดีไหม สวยๆ อย่างแกหาใหม่ได้ไม่ยากหรอก”

“…..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel