บท
ตั้งค่า

บทที่8 แกล้ง

“ดีใจจังเลยน้องปริม แม่กำลังจะได้งานทำแล้วนะ”

“แอ้~” น้องปริมยิ้มกว้างส่งเสียงร้องออกมาเหมือนว่าเข้าใจในสิ่งที่ฉันบอก

หลังจากตกลงเข้าไปทำงานที่คลับของรามิล เขาก็ให้ฉันเริ่มงานในวันถัดมา ไม่ว่าจะได้ทำตำแหน่งอะไรก็ยินดีทั้งนั้นขอแค่เป็นงานที่สุจริตก็พอ

“เราจะได้มีเงินไว้ซื้อของเล่นกับชุดสวยๆ ไว้ให้หนูใส่เวลาไปหาคุณหมอ น้องดีใจไหม”

“แอ้~”

“คนเก่งของแม่ อดทนรออีกนิดนะ แม่สัญญาว่าจะทำให้หนูมีความสุขที่สุด”

“…..” ฉันโน้มริมฝีปากลงไปหอมแก้มลูกฟอดใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เราสองคนแม่ลูกต้องห่างกันไปแบบนี้ แต่เข้าใจว่ามันคือความจำเป็น

แกร๊ก~ บานประตูห้องนอนถูกเปิดออก ก่อนที่รามิลจะเดินออกมา ฉันรีบหยัดตัวลุกขึ้นพร้อมจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวจะไปทำงาน

“จะไปกันเลยไหมคะ?”

“แล้วฉันบอกตอนไหนว่าจะให้เธอไปด้วย”

“…..”

“คงอยากนั่งรถราคาแพงจนตัวสั่นเลยสินะ ถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้” ไม่พูดเปล่าแต่ยังไล่สายตามองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

“มันไม่ใช่แบบที่มิลคิดเลยนะ ปรางเห็นว่าเราสองคนไปทางเดียวกันเลยอยากจะขอติดรถไปทำงานช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย”

“ไม่จำเป็น! เธอจะนั่งรถเมล์หรือเดินไปมันก็เรื่องของเธอ แต่ไม่เกี่ยวกับฉัน”

“เดี๋ยวปรางนั่งรถเมล์ไปเองก็ได้”

“อย่าให้ใครรู้เรื่องระหว่างเราเด็ดขาด ไม่งั้นเธอเดือดร้อนแน่ เข้าใจหรือเปล่า” ฉันขยับถอยหลังหนีเมื่อคนตัวโตเดินเข้ามาใกล้

“ปรางรู้”

“จะไปก็ไปสิ! ถ้าเธอเข้างานสายแม้แต่วินาทีเดียว ฉันไล่เธอออกแน่”

“…..” ฉันหันไปมองลูกที่อยู่กับพี่เลี้ยงคนใหม่ เขาเป็นคนที่รามิลไว้ใจจ้างมาเลี้ยงน้องปริมในระหว่างที่ฉันไปทำงาน

“ฝากน้องด้วยนะคะ ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรหาปรางได้ทันที”

“คุณปรางไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ป้าจะดูแลคุณหนูให้เป็นอย่างดีเลย”

“ขอบคุณมากนะคะ”

“แม่ไปทำงานก่อนนะน้องปริม แล้วแม่จะรีบกลับมาหาหนู”

-RM BAR-

ฉันเดินทางมาทำงานโดยการนั่งรถเมล์ ใช้เวลาราวๆ เกือบสี่สิบนาทีก็มาถึงบาร์และร้านอาหารที่รามิลเป็นเจ้าของอยู่

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อเหลือบไปเห็นรามิลกับแพนที่เดินลงมาจากรถพร้อมกัน เขาปรายหางตามามองฉันเพียงนิด ก่อนจะจับมือแพนเดินเข้าไปยังด้านในร้าน

“ฉันมาสมัครงานค่ะ”

“ตำแหน่งอะไร?”

“…..” ฉันยื่นเอกสารที่เตรียมมาให้กับพี่พนักงานที่นั่งอยู่ในออฟฟิศ

เธอขมวดคิ้วแล้วมองหน้าฉันสลับกับเอกสารด้วยความสงสัยเมื่อเห็นลายเซ็นรับรองของรามิลที่อยู่ในนั้น

“ตำแหน่งในร้านว่างเยอะแยะ สวยๆ ตรงสเปกลูกค้าแบบนี้ทำไมคุณมิลถึงไม่ให้ไปเป็นPRคอยรับแขก น่าแปลกจริง”

“…..” ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อนแทนคำตอบ คงเป็นเหมือนที่เขาบอก ตำแหน่งแม่บ้านคงเหมาะกับฉันที่สุดแล้ว

“งานของเธออยู่หลังร้านนะ จะมีหัวหน้าแผนกคอยสั่งอีกที เข้างานห้าโมงเย็นเลิกตีสาม ค่าแรงวันละห้าร้อยห้าสิบไม่ร่วมทิป”

“ค่ะ”

-หลังร้าน-

ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหลังร้านตามคำบอก ก่อนจะเห็นพนักงานคนอื่นๆ ยืนรออยู่ก่อนหน้านั้น

“เด็กใหม่เหรอเราอ่ะ”

“ใช่ค่ะ ชื่อปรางทิพย์หรือเรียกว่าปรางเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”

“พี่ชื่อแจ๋วนะ เป็นหัวหน้าแผนก”

“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่แจ๋วและพี่พนักงานคนอื่นๆ อย่างนอบน้อม

“งานที่นี่หนักมากนะ ท่าทางตุ้งติ้งแบบเธอจะทำได้หรือเปล่า”

“ทำได้ค่ะ”

“งั้นดีเลย หน้าที่ในทุกวันคือต้องไปล้างห้องน้ำ กวาดพื้นถูกพื้นเช็ดโต๊ะให้เสร็จก่อนร้านเปิด”

“รับทราบค่ะ” ฉันพยักหน้ารับคำสั่งจากหัวหน้าแผนก งานคงไม่ได้หนักมากเพราะมีพี่พนักงานคนอื่นคอยช่วยกัน

“ทำงานระวังหน่อยนะ ห้ามให้มีอะไรเสียหาย” สิ้นประโยคนั้นพี่แจ๋วค่อยๆ หันซ้ายมองขวาอย่างเลิ่กลั่กแล้วกระซิบกระซาบบอกฉันที่ยืนอยู่

“คุณรามิลเจ้าของที่นี่เนี๊ยบมาก แถมดุยังกะหมาแม่ลูกอ่อน พนักงานคนเก่าก็โดนไล่ออกเพราะเผลอทำโต๊ะจนเป็นรอยข่วน ระวังด้วยล่ะ”

“ค่ะพี่แจ๋ว ปรางจะระวัง”

“งั้นไปเริ่มงานได้แล้ว ถ้ามีปัญหาหรือสงสัยอะไรให้มาถามพี่ได้ตลอด”

เมื่อได้รับคำสั่งจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเอาไว้เช็ดโต๊ะเป็นอันดับแรก ร้านของรามิลค่อนข้างใหญ่มากการทำความสะอาดเลยกินเวลาค่อนข้างเยอะ

กว่าที่ฉันจะทำทุกอย่างเสร็จก็เป็นช่วงเวลาที่ร้านเปิดพอดี ลูกค้าที่มาเที่ยวใช้บริการล้วนมีฐานะกันทั้งนั้นเลย

“น้องปราง เสร็จแล้วขึ้นไปทำความสะอาดห้องทำงานคุณรามิลด้วยนะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินคำสั่งในขณะที่กำลังนั่งกินแซนด์วิชช่วงเวลาพักเบรคหนึ่งชั่วโมง

“ให้หนูไปทำเหรอคะ?”

“ปรางนั่นแหละทำ พวกเราทุกคนต้องพลัดเวรกันไปทำในแต่ละวัน”

“ได้ค่ะ”

“ปรางนี่ดูหน้าคุ้นๆ เหมือนกันนะ เหมือนพี่เคยเจอที่ไหน”

“พี่แจ๋วคงจำผิดแล้วล่ะคะ ปรางอยู่แต่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหน”

“ก็คงงั้นแหละ พี่แก่แล้วอาจจะหลงๆ ลืมๆ”

“…..”

ก๊อก~ ก๊อก~ ฉันเคาะประตูส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ด้านในก่อนจะเดินเข้ามาในห้องทำงานของรามิลที่อยู่ชั้นบนสุดของบาร์

ห้องทำงานของเขาถูกตกแต่งประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าแบบหรูหรา ถ้าเกิดฉันพลาดทำอะไรเสียหายขึ้นมามีหวังได้ชดใช้หนี้จนหัวโตแน่ๆ เลย

ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน มันคือกรอบรูปที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนรูปถ่ายของน้องปริม

“ทำอะไรน่ะ!?”

ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงของรามิลที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“ปรางเข้ามากำลังทำความสะอาดห้องให้น่ะ”

“ใครอนุญาตให้เข้ามาในห้องนี้ ขืนซุ่มซ่ามทำข้าวของฉันพังขึ้นมามีปัญญาชดใช้หรือไง?”

“…..”

“ทำงานทั้งปีจะมีปัญญาจ่ายหรือเปล่าเถอะ!”

“…..”

“ออกไปได้แล้ว อย่าเสนอหน้าเข้ามาในห้องนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต”

“ปรางเข้าใจแล้ว” สิ้นเสียงคำสั่ง ฉันจึงรีบหอบหิ้วข้าวของออกมาจากห้องทำงานของรามิล ฉันควรชินกับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจได้แล้ว แต่ทำไมมันยังคงรู้สึกเจ็บและไม่ชินสักที

-หลังเลิกงาน-

“บ้านอยู่แถวไหน?” พี่แจ๋วเดินมาถามเมื่อพวกเรากำลังเก็บของเตรียมตัวจะเลิกงาน

“อยู่แถวคอนโดSBค่ะ”

“ถ้าอยู่แถวนั้นคงนั่งรอรถเมล์นานหน่อยนะ ตอนนี้ดึกแล้วกว่าจะมาแต่ละคันก็กินเวลาเป็นชั่วโมง”

พอได้ยินแบบนั้น ฉันถึงกลับถอนหายใจลากยาวออกมาด้วยความเหนื่อย ในใจตอนนี้คิดถึงลูกอยากกลับไปกอดไปหอมลูกจนใจจะขาดอยู่แล้ว

“งั้นปรางไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”

“กลับบ้านดีๆ เดินทางปลอดภัยนะ”

ดวงตากลมโตวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง เมื่อเดินออกมาตามทางที่เป็นซอยเปลี่ยว ป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากร้านออกไปตั้งครึ่งกิโล กว่าจะถึงก็ใช้เวลาเดินพอประมาณ

คร๊อก~ เสียงท้องร้องดังขึ้นเป็นระยะ ตอนนี้ทั้งรู้สึกหิวแล้วก็หนาวมากๆ ด้วย มองไปทางไหนก็มาแต่ความมืดจะมีก็เพียงแค่เเสงไฟริบหรี่จากข้างทางที่พอจะส่องให้เห็นแสงสว่างอยู่บ้าง

ซ่า!

“อ๊ะ!” ฉันยกมือขึ้นบังตัวเองตามสัญชาตญาณเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาใกล้พร้อมเหยียบน้ำใส่จนเสื้อผ้าเลอะไปหมด

“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง” คนในรถค่อยๆ กดลดกระจกลง ทำให้เห็นว่าเป็นแพนกับรามิลที่นั่งรถมาด้วยกัน แพนเป็นคนขับส่วนรามิลนั่งอยู่เบาะข้างๆ

“…..”

“ขอโทษทีนะ พอดีว่ามองไม่เห็น” แพนกล่าวคำขอโทษออกมาแต่ฉันกลับรู้สึกว่าเธอไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด

“ให้เขากลับด้วยไหมคะมิล ไหนๆ ก็ต้องไปทางเดียวกันกับเราอยู่แล้ว”

“อย่าเลย ตัวเธอสกปรกเดี๋ยวจะเปื้อนรถผม”

“…..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel