บท
ตั้งค่า

7. จัดการได้ไฉนไม่ทำ

จางซิงอี้นั่งกำมือแน่นอย่างโกรธแค้น นางไม่เคยต้องกล้ำกลืนฝืนทนเช่นนี้มาก่อนเลย หากไม่ใช่เพราะซูเฟยข่มขู่จะเอาเรื่องข้อเสนอเกี่ยวกับผลประโยชน์มาเปิดโปง นางคงไม่ต้องนั่งเงียบทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แม้สะใภ้ตัวดีจะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าตนพูดเรื่องนี้ ทว่าหากหนิงซูเฟยเอ่ยออกมา คนในจวนเสิ่นก็จะเริ่มสงสัย และมันอาจนำพาให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินขึ้นมาก็เป็นได้

ฉะนั้น…อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เลยน่าจะดีกว่า เอาไว้มีโอกาสค่อยหาทางจัดการสะใภ้ชั้นต่ำนางนี้ในภายหลังเอาก็ได้ อย่างไรเสียนางก็ไม่กล้าเอ่ยบอกเรื่องนี้กับผู้ใดแน่ เพราะตนเคยข่มขู่จะเอาชีวิต หากซูเฟยคิดบอกเล่าเรื่องนี้กับผู้อื่น

ด้านจางซื่อเมื่อเห็นว่าผู้ที่ช่วยตนไม่แยแส นางก็เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ “ไท่ฮูหยิน” นางร้องเรียกผู้ที่คิดว่าช่วยตนกับลูกได้

“หยางเอ๋อร์ เจ้าเองก็เป็นถึงแม่ทัพ รู้ถูกรู้ผิดเป็นอย่างดี สิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ เจ้าก็ตัดสินใจเองเถิด อย่าได้โยนภาระให้ผู้อื่นรับผิดชอบแทนตนเลย ซูเอ๋อร์มานั่งข้างย่า”

ไท่ฮูหยินตบมือลงที่เก้าอี้ข้างกาย ผู้ถูกเรียกก็ยิ้มแป้นก่อนจะก้าวเดินมานั่ง และไม่ลืมหันไปมองสามีที่ยามนี้ยังคงจ้องนางอยู่

คิ้วสวยยกขึ้นอย่างยียวน แต่แทนที่เขาจะมีท่าทางหงุดหงิด ริมฝีปากหนากลับยกมุมขึ้นเสียนี่ คิ้วสวยจึงเปลี่ยนมาขมวดชนกันแทน ‘อะไรของเขา แทนที่จะโกรธกลับมายิ้มใส่ซะงั้น’ หญิงสาวคิดอย่างไม่เข้าใจ พรางปรายตามองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

ด้านสองแม่ลูก หลังได้ฟังคำไท่ฮูหยินกล่าวพวกนางก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีก เนื่องจากตระกูลขุนนาง เรื่องชื่อเสียงคือสิ่งสำคัญ แน่นอนว่าแม่ทัพเสิ่นไม่มีทางหลีกเลี่ยงความสัมพันกับบุตรสาวนางไปได้แน่ คำพูดของไท่ฮูหยินมันก็ชัดแล้วว่า

แม่ทัพเสิ่นต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง จึงจะสมเป็นชาย

จางซื่อจึงรีบพาบุตรสาวหันไปหาผู้ที่นั่งอยู่ทางด้านหน้า แต่เมื่อเห็นแววตาคมดุของเสิ่นจินหยาง สองแม่ลูกก็หน้าถอดสี

แม่ทัพเสิ่นที่เคยอ่อนโยน บัดนี้กลับมีท่าทางดุดันกว่าครั้งไหน ๆ สีหน้าและแววตาเขาที่มองพวกนางดูไม่ต่างจากเพชรฆาตที่จะบั่นคอนักโทษเลย “ฉงเล่อพาพวกนางกลับไปพักที่เรือนนอกตามเดิม วันหน้าหากไม่มีธุระสำคัญอันใด จงอย่าได้เข้ามาวุ่นวายที่นี่ ข้ามีฮูหยินแล้วไม่คิดจะรับใครเพิ่ม ฉะนั้นอย่าได้พยายามเข้าหาข้าเหมือนที่เคยทำ เพราะข้าไม่เคยปรานีใครเป็นครั้งที่สอง”

เอ่ยจบแม่ทัพหนุ่มก็หันมามองภรรยาตนทว่าแววตากลับต่างออกไป ไม่แข็งกร้าวเหมือนยามที่มองสองแม่ลูก ถึงกระนั้นมันก็ยังเรียบเฉยจนคนถูกมองอ่านไม่ออกอยู่ดี

‘ชิ! เก๊กไปเถอะ สักวันแม่จะทำให้หลุดจนเรียกสติกลับคืนไม่ได้เลยเชียว’ ก่นว่าอีกฝ่ายในใจ ก่อนจะหันมามองสองแม่ลูกที่ถูกพาออกไปจากห้องโถง โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ส่งเสียงทักท้วงอีก

‘ดูท่าพวกนางคงจะเกรงคำขู่เสิ่นจินหยางมาก สงสัยอีตาแม่ทัพนี่คงโหดน่าดู แค่ขู่ไม่กี่คำก็ทำคนกลัวจนหัวหดได้แล้ว ทว่าแล้วเหตุใดเขาถึงไม่พูดให้มันแน่ชัดตั้งแต่แรก ปล่อยให้วุ่นวายอยู่ได้’ ซูเฟยก่นว่าเจ้าของจวนในใจ พรางคว่ำปากใส่ยามเขาเผลอ

เมื่อความวุ่นวายสงบลง แขกที่มาเยือนก็เริ่มถามไถ่

“จินหยาง ตกลงเรื่องมันเป็นมาเช่นไรหรือ ก่อนหน้านี้เหตุใดเจ้าไม่ยอมส่งข่าวกลับมาบอกว่าตนยังมีชีวิตอยู่ รู้หรือไม่ว่ามีคนมากมายโศกเศร้าเพราะการจากไปของเจ้า แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังกินไม่ได้ไปหลายเวลา แล้วนี่เจ้าไปอยู่ไหนมา ทำอะไรอยู่ตั้งสามเดือนถึงไม่ยอมกลับจวน” ไป่จิ้งโหวเอ่ยพรางดุหลานชายไปด้วย

แม่ทัพหนุ่มจึงขยับลุกขึ้นยืน ก่อนจะโค้งคำนับผู้อาวุโสเพื่อขอขมา จากนั้นเขาก็นั่งลงเพื่อเล่าเรื่องราวที่แท้จริงให้ฟัง

“หลังจากเอาชนะฝ่ายศัตรูได้ หลานก็ตามล่าตัวการใหญ่ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังไปจนถึงผาในเขตแดนของพวกมัน จึงเป็นเหตุให้พลาดท่า ถูกกลุ่มคนชุดดำลอบโจมตี มันยิงหลานด้วยคมธนูเกลียว ทำให้ล่วงหล่นตกลงไปในผาลึก ยามนั้นหลานคิดว่าตนคงไม่รอดแล้ว ทว่า...” จินหยางเงียบเสียงราวกับกำลังคิด

“อะไรอีก รีบพูดต่อสิอย่าอมพะนำ เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าใช่หรือไม่” หลงเฉินอี้รีบเอ่ยรบเร้าสหาย

“ใช่ ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์เช่นนี้บนแผ่นดิน”

“อย่างไรหรือหยางเอ๋อร์” ผู้เป็นพ่อรีบถามเช่นกัน

“ลูกตกลงในแม่น้ำลึก จากนั้นก็มีขอนไม้ลอยมาให้เกาะ ลูกถูกซัดไปไกลพอสมควรขอรับ ต่อมาก็มีชาวบ้านช่วยเอาไว้”

“เอ๋...ฟังดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกนะ ไยเจ้าต้องเล่าราวกับพบเจอแดนเซียนเช่นนี้ด้วยเล่า ลุงก็รอฟังเสียดิบดี” ไป่จิ้งโหวบ่นพึมพำ พร้อมกับหลับตาค้อนหลานชายไปหนึ่งที

“การรอดตายจากผาสูง ท่านอายังคิดว่ามันไม่อัศจรรย์พอหรือขอรับ” เสิ่นจินอู่หยอกเย้าสหายบิดา

“มันก็จริง ว่าแต่แล้วเหตุใดหลังจากนั้นเจ้าถึงไม่กลับเมืองหลวงเล่า อย่างน้อยแจ้งข่าวให้คนทางนี้รู้บ้างก็ยังดี” ไป่จิ้งโหวยังคงตั้งคำถาม ซึ่งทุกคนต่างก็อยากรู้เช่นกัน

“ที่หลานไม่ได้ส่งข่าว เป็นเพราะจำสิ่งใดไม่ได้เลยขอรับ ชาวบ้านที่ช่วยไว้ก็ไม่รู้จักหลาน สุดท้ายจึงต้องอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนานนับเดือน จนกระทั่งหลานตกผาอีกหน ความทรงจำเก่าก่อนจึงกลับมา ซึ่งมันเป็นช่วงที่สองแม่ลูกได้ช่วยหลานเอาไว้ขอรับ”

ซูเฟยฟังคำบอกเล่าของสามีพรางคิด ‘ทำไมเราถึงรู้สึกเหมือนเขาเล่าไม่หมด เหมือนมีบางสิ่งซ่อนอยู่’ นึกในใจอย่างฉงน

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือนี่ ละ...แล้วเหตุใดเจ้าหายแล้วยังไม่กลับจวนหรือแจ้งข่าวอีกเล่า” จิ้งโหวยังมีข้อสงสัยอีก

“อันที่จริงท่านแม่ทัพแจ้งข่าวกลับมายังเมืองหลวงแล้ว ทว่าไม่รู้เหตุใดมันจึงมาไม่ถึงจวนเสิ่น มีแค่ฉบับที่แจ้งเข้าวังเท่านั้นที่ไม่ถูกสกัด เมื่อฝ่าบาททรงได้รับจดหมาย ก็มีคำสั่งลับส่งให้ท่านแม่ทัพปฏิบัติงานต่อ เมื่อทำสำเร็จถึงได้เดินทางกลับมาขอรับ” เป็นซานเกอที่เอ่ยบอกเรื่องราว เพราะช่วงแรกที่ผู้เป็นนายหายไปพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย จึงเอ่ยได้แค่ช่วงสองเดือนให้หลังเท่านั้น

“นี่เจ้าส่งจดหมายมาด้วยหรือ เหตุใดย่าถึงไม่เคยเห็นจดหมายนั้นเลยเล่า” ผู้เป็นย่าที่นั่งฟังอย่างเดียวรีบถาม

“จดหมายที่หลานส่งมามีสองฉบับ ส่งเข้าวังและส่งมาที่จวนทว่าสาเหตุที่คนในจวนไม่ได้รับ เรื่องนี้คงต้องถามอนุจางกระมัง เพราะนางคือผู้ดูแลจวนเสิ่น จดหมายไปอยู่ที่ใด เรื่องนี้นางน่าจะรู้ดีกว่าใคร จริงหรือไม่อนุจาง” จินหยางจ้องหน้าอนุของบิดาด้วยสายตาคมดุ ราวกับคนมีความแค้นต่อกันมาเนิ่นนาน

จางซิงอี้หน้าเจื่อนไปทันที ถึงกระนั้นนางก็ยังรีบเอ่ยแก้ต่างให้ตนเอง “ข้าดูแลจวนก็จริง ทว่าจดหมายที่ว่าข้าไม่เคยเห็นมันเลยนะเจ้าคะ เป็นไปได้หรือไม่ คนส่งอาจจะทำหายในช่วงที่เดินทางมา ทำให้จดหมายของท่านแม่ทัพมาไม่ถึงจวนของเรา” กล่าวกับบุตรเลี้ยงแล้วนางก็หันมาหาผู้ที่นั่งอยู่ข้างกัน “ท่านพี่ ข้าไม่ได้ปดนะเจ้าคะ ข้าไม่เคยเห็นจดหมายนั่นจริง ๆ”

“ไม่เห็นก็คือไม่เห็น ไยต้องพูดจาร้อนรนนัก อย่างไรเสียยามนี้หยางเอ๋อร์ของข้าก็กลับมาแล้ว ไม่มีจดหมายมายืนยันก็ช่างมันเถิด เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง” ไท่ฮูหยินตัดบท เพราะเกรงว่าเรื่องจดหมาย จะทำให้ทุกอย่างบานปลายจนต้องอับอายขึ้นมาอีก

“นั่นสิ แค่จินหยางกลับมาได้อย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่าฟาดเคราะห์...” เสียงของไป่จิ้งโหวหยุดลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝนที่สาดเทลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ฝะ...ฝนตกหรือ เป็นไปได้อย่างไร” หลงเฉินอี้ขยับลุกเดินออกไป โดยมีไป่จิ้งโหวและหานเยว่ตามไปด้วย

“เมื่อครู่นางบอกว่าฝนจะตกมิใช่หรือ” คุณชายใหญ่เอ่ยพรางหันกลับไปมองน้องสะใภ้ที่ยังนั่งนิ่งอย่างสำรวม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel