บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ระหว่างที่ตั้งหน้าตั้งตาเด็ดลูกมะยมอยู่นั้น กลับมีสายตาของใครบางคนจับจ้องมายังเธอ แววตาของเขาเปล่งประกายเมื่อเห็นเจ้าของกลิ่นที่รบกวนเขาขณะอยู่ในแปลงดอกไม้ จนต้องออกมาตามหาว่าคือกลิ่นอะไร

เขาทิ้งงานที่ทำแล้วตามเธอมาเพราะกลิ่น กลิ่นกายหอมๆ ที่แตกต่างไปจากกลิ่นกายของใครๆ ไม่ใช่กลิ่นดอกไม้หรืออะไรที่เขาคุ้นเคย เพราะกลิ่นนี้ช่างยั่วยวนจนทำให้เลือดในกายเขาสูบฉีด พลังงานบางอย่างในตัวของเขาลุกโชนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันร้อนเสียจนเขาไม่สามารถอธิบายได้

“เธอเป็นใคร” เสียงทุ้มเอ่ยถามกับตัวเอง ขณะที่สายตานั้นยังคงเพ่งมองไปยังหญิงสาวที่พยายามเขย่งปลายเท้าเด็ดมะยมจนสุดมือเอื้อม

นั่นทำให้เชโรม ริท เลห์มันน์ หรือคนที่นี่เรียกว่านายริทเดินเข้าไปหาเป้าหมาย โดยเวลานั้นมาศิตาเอาแต่จดจ่อกับมะยม จึงไม่ทันสังเกตว่ามีคนเดินเข้ามาหาและยืนอยู่ในระยะประชิด

ยิ่งอยู่ใกล้ กลิ่นกายของเธอก็ยิ่งทำให้เชโรมใจเต้นรัว ก่อนจะพยายามควบคุมอารมณ์แล้วเอื้อมมือไปเด็ดมะยมให้เธอ

“อุ๊ย!” มาศิตาอุทานออกมา ก่อนจะหันขวับมามองว่าใครกันที่เด็ดมะยมให้ และทันทีที่ทั้งคู่ได้สบตากัน ทุกอย่างรอบๆ ตัวต่างหยุดนิ่ง มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่เต้นเป็นจังหวะ

มาศิตาเงยหน้ามองชายตรงหน้าที่สูงกว่าเธออยู่หลายสิบเซนติเมตร หัวใจเธอเต้นโครมครามยามได้สบตาสีนิลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการนี้อาจเพราะเธอกำลังเมารถอยู่แน่ๆ ใช่...ต้องใช่

“จะกินนี่เหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม พร้อมๆ กับมองมะยมลูกโตๆ ในมือ เพราะตั้งแต่ในบ้านมีมะยมต้นนี้ เขาก็แทบไม่เคยแตะ ทุกครั้งที่มันมีลูกเขียวๆ ก็จะปล่อยไว้จนแก่จัด จากนั้นคนงานก็จะมาเก็บไปกินบ้าง หรือบางครั้งแม่เขาก็สั่งให้มาเก็บ เพราะจะเอาไปทำมะยมเชื่อมแจกเด็กๆ ในไร่

“อื้อ” มาศิตาเอ่ยรับ อดคิดไม่ได้ว่าเธอไม่น่าเสียมารยาทมาขโมยของเขากินแบบนี้เลย

“กินได้ไหม ของนายหรือเปล่า”

“ไม่ใช่ แต่ถ้าเธอจะกิน ก็กินสิ” เชโรมเอ่ยเสียงเรียบ นั่นเพราะมะยมต้นนี้ไม่ใช่ของเขา แต่ถ้าเธอคนนี้จะกินเขาก็อนุญาตได้ ก่อนจะยื่นมะยมที่เด็ดติดมือมาเมื่อครู่ให้เธอไป

“งั้นกินแล้วนะ” แค่พูดว่าจะกิน น้ำลายของมาศิตาก็สอออกมาอีกครั้ง เธอรับมะยมเม็ดโตๆ นั่นมาจากมือของเชโรม ก่อนจะเช็ดๆ ทำความสะอาดมะยมกับเสื้อตรงหัวไหล่เสียก่อน แล้วจึงส่งมะยมเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยท่าทางที่เห็นแล้ว เชโรมนั้นเสียวฟันแทน

“กินหน้าตาเฉยแบบนั้นเนี่ยเหรอ”

“อื้อ”

“ไม่เปรี้ยวเลยหรือไงกัน” ขณะถามคิ้วหนาได้รูปก็ขมวดเข้าหากันจนยุ่ง

“ก็เปรี้ยว แต่อร่อยดี” ได้ยินแบบนี้ เชโรมจึงเด็ดมะยมให้เธออีกกำใหญ่ โดยได้แต่สงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงมาอยู่ในไร่ของเขาได้และหนำซ้ำยังมายืนกินมะยมหน้าตาเฉยได้แบบนี้อีก

ส่วนมาศิตากินมะยมไปก็สงสัยไป ว่าผู้ชายตัวสูง หน้าตาหล่อราวกับนายแบบ ถึงจะไม่โกนหนวดโกนเคราจนดูรกรุงรัง แต่ก็ไม่อาจบดบังรัศมีความหล่อได้เลย จนอยากรู้ว่าเขาเป็นใครเช่นกัน ใช่เจ้าที่เจ้าทางหรือเปล่า เพราะถ้าคนคงไม่หล่ออะไรขนาดนี้มั้ง

“นี่คุณเป็นคนหรือผี”

“เอ้า! ทำไมมาถามกันแบบนี้ล่ะครับ” คำถามของมาศิตาทำเอาเชโรมงง เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครถามคำถามแบบนี้กับเขามาก่อน

“ก็แค่ถาม สรุปคนหรือผี”

“ผี…ผีดูดเลือดด้วย”

“อ้อ…งั้นรอตรงนี้ ฉันขอไปเอากระเทียมแป๊บ”

“เธอนี่มัน…สรุปเข้ามาทำอะไรที่ไร่นี่ครับ หรือแค่มากินมะยม” ประโยคสุดท้ายดูจะติดประชดประชันนิดๆ หน่อยๆ มาด้วย ทำเอาคนถูกถามเบ้ปากใส่เบาๆ

“ฉันชื่อศิตา มาเป็นครูสอนพิเศษที่นี่” มาศิตาละประโยคต่อท้ายไว้ ขืนบอกว่าเธอมาสอนแวมไพร์ คนตรงหน้าอาจคิดว่าเธอบ้า

“ครูสอนพิเศษ” เชโรมเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยิน และยิ่งได้ฟังประโยคถัดมาของมาศิตาด้วยแล้วก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“ใช่ ฉันต้องมาสอนเด็กๆ ไม่แน่ใจว่าจะใช่ลูกๆ ของคุณหรือเปล่า” มาศิตาเพ่งสายตามองคนตัวสูง แอบเสียดายนิดๆ ที่เขาอาจไม่โสดแล้ว ถ้าเธอต้องมาสอนลูกๆ ของผู้ชายตรงหน้าจริง งั้นก็แสดงว่าเขาคือเจ้านายใหญ่ที่พ่อพูดถึงใช่ไหม

“ผมยังไม่มีเมีย ลูกเลยยังไม่เกิด ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ”

“ศิตา มาศิตาค่ะ” คำตอบที่ได้ยิน ทำไมมาศิตาถึงต้องใจเต้นแรงก็ไม่รู้ หรือเธอยังเมาโค้งอยู่ ต้องใช่แน่ๆ

“คุยอยู่กับใครน่ะริท” เสียงที่เอ่ยทักขึ้น ทำให้เชโรมหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะส่งยิ้มให้ผู้เป็นแม่ มาศิตาที่ถูกเขายืนบังจนมิด ค่อยๆ เอี้ยวตัวมามองเจ้าของเสียง ก็พบผู้หญิงคนหนึ่ง

แวบแรกที่เห็นคำๆ เดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของมาศิตาคือสวย นั่นเพราะผู้หญิงตรงหน้าสวยจริงๆ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ความสวยยังคงไม่สร่าง

“แขกของแม่หรือเปล่าครับ เธอบอกว่าชื่อศิตา”

“ศิตาเหรอ” ณิอรเอ่ยทวนชื่อที่ได้ยิน นั่นเพราะจดจำชื่อนี้ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะมองเลยไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่หลังบุตรชายแล้วส่งยิ้มที่แสนจะอบอุ่นไปให้

“ค่ะ หนูชื่อศิตา”

“หนูเป็นลูกสาวของอาทิตย์หรือเปล่า”

“ใช่ค่ะ คุณรู้จักพ่อศิตาด้วยเหรอคะ” มาศิตามีสีหน้าที่ดูจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่มาคิดๆ ดู พ่อเคยบอกว่าคนที่นี่รู้จักพ่อดีนี่นา

“รู้จักสิ ไม่เจอกันแป๊บเดียว ดูสิ หนูน้อยศิตาโตเป็นสาวเสียแล้ว”

“ท่าทางจะท้องด้วยครับแม่ เพราะเด็ดมะยมกินหน้าตาเฉย” เชโรมเอ่ยแทรกขึ้น นั่นทำให้มาศิตารีบแก้ต่างให้ตัวเองทันที

“ไม่ได้ท้องนะคะ ศิตาแค่เมารถ เพราะกว่าจะมาถึงที่นี่นั่งรถผ่านโค้งมาตั้งเยอะ เลยพะอืดพะอม แต่ได้มะยมเปรี้ยวๆ ไปก็หายแล้วค่ะ”

“เอาเถอะๆ อย่าเพิ่งเถียงกัน ไปๆ พาน้องเข้าบ้านด้วยริท” ณิอรเดินนำไปก่อน จากนั้นเชโรมก็ผายมือเชื้อเชิญให้มาศิตาเข้าไปภายในตัวบ้าน

เมื่อมาถึง ณิอรจึงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการว่าเธอนั้นเป็นใคร รวมทั้งแนะนำเชโรมด้วย มาศิตาถึงกับนั่งทำตาปริบๆ นั่นเพราะจุดไต้ตำตอแท้ๆ เธอคุยกับเจ้าของบ้านอยู่นานสองนาน แต่ไม่รู้สักนิดว่าเขาเป็นใคร

“แล้วนี่ศิตาต้องสอนพิเศษให้ใครเหรอคะ”

“ลูกชายป้าเอง” คำพูดของณิอร ทำเอามาศิตาอุทานออกมาอย่างลืมตัว พร้อมๆ กับหันไปมองเชโรมตาปริบๆ

“หา!…เขาเหรอคะ” มาศิตายังคงจ้องหน้าเชโรมอย่างไม่หยุด พลอยทำให้เขารู้สึกอึดอัดไปด้วย แต่น่าแปลกที่ความอึดอัดนั้นไม่ได้ทำให้เขาอยากอยู่ห่างจากเธอสักเท่าไหร่

สิ่งที่เธอคิดมาตลอดมันผิดสินะ นึกว่าต้องมาสอนแวมไพร์ตัวน้อยให้ดื่มเลือด แต่พอมาถึงกับเจอแวมไพร์ตัวเท่ายักษ์ แต่กลับกินมังสวิรัติซะนี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel