ลงโทษ ครั้งที่สิบห้า
[LOCKETKEYDEPENDING ON YOU]แล้วแต่นายท่าน...(YAOI)
ตอน : ลงโทษ ครั้งที่สิบห้า
หลังจากที่คนตัวเล็กสลบลงไปเพราะสูญเสียพลังงานมาก ฟรานซ์ก็สั่งให้คนมาดูแลทำความสะอาด ทำแผล และเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนตัวเล็กใหม่ เป็นชุดสูทแขนสั้นสีเทาและกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน ก่อนจะจัดการใช้โซ่เส้นเล็กเส้นเดิมคล้องคอและล็อคปลายโซ่ไว้กับกรงเหล็ก.....
"ฉันจะไปพัก....ห้ามใครรบกวนจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น" เสียงทุ้มต่ำของร่างสูงพูดสั่งลูกน้องคนสนิทที่ตอนนี้เลื่อนขั้นมาเป็นเลขาของเขาอย่าง...หลงเฟย...ร่างเล็กค้อมหัวลงเมื่อได้รับคำสั่งและไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป...
ในขณะที่ฟรานซ์และหลงเฟยแยกทางกันตรงทางเดิน ร่างเล็กร่างหนึ่งที่แอบอยู่นานก็ปรากฏตัว...
"ตัดสายกล้องวงจรเรียบร้อย"
"อาวุธล่ะครับ?"
"อือ พี่เตรียมมาแล้ว ปืน ขวาน...อย่างไรก็ต้องตัดโซ่นั่นให้ได้..."
"ยาสลบพี่ก็เตรียมมาพร้อม"
"พวกนั้นโทร.มาบอกว่าสถานที่พร้อมแล้วล่ะ...ไปเถอะเดี๋ยวเขารู้"
"โอเคครับ..."
ย้อนเวลากลับไปเมื่อเวลาเก้าโมงเช้า....ร่างเล็กและคนรักที่กลับมาจากเที่ยวเพราะลืมของสำคัญไว้ก็รีบเข้าห้องพักของตัวเองและหามัน...เมื่อหาเจอเขาและคนรักกำลังจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ อีกครั้ง...แต่ก็ได้ยินเสียงของลูกน้องหน้าห้องพูดสนทนากัน...
'คุณเอ็กซ์น่ะน่าสงสารเนอะ....'
'นั่นซิ...โดนนายท่านเฆี่ยนตีจนสลบแทบทุกวัน จะหนีก็ทำไม่ได้...พวกเราอยากช่วยก็ไม่ได้อีก'
'ขืนทำงั้นเรานี่แหละที่จะตาย....เห้ออออ จะมีใครมาช่วยได้มั่งวะ...ฉันละสงสารจริงๆ'
ถึงเสียงพูดคุยจะไม่ดังมากแต่พอจะทำให้ร่างเล็กได้ยินและเข้าใจทุกประโยค...ถึงว่า ทำไมไม่เจอพี่เอ็กซ์....ร่างเล็กเลยคิดจะต่อว่านายของที่นี่เลยออกมาจากห้องพร้อมคนรักแต่ระหว่างที่กำลังจะถึงห้องนั้น ร่างสูงกำยำของเจ้าของบ้านก็เดินออกมาด้วยหน้าตานิ่งสนิท...แต่แววตาดูจะมีความสุขเหมือนได้เจอเรื่องสนุก...ร่างเล็กและคนรักจึงเลือกที่จะเดินตามไปแทบไม่มีใครรู้ จนกระทั่งถึงห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสาม...ชั้นนี้มีแต่เอกสารวางอยู่ร่างเล็กเลยไม่ค่อยสนใจ แต่ก็อดทึ่งไม่ได้ เพราะชั้นนี้ดูอลังการยิ่งกว่าชั้นอื่นเสียอีก...ทั้งสองยังคงแอบตามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้าของบ้านหลังนี้เดินมาหยุดอยู่ที่ห้องๆ หนึ่ง...ประตูไม้บานใหญ่ขนาดเท่ากับห้องของเขาและห้องอื่นๆ แต่รูปทรงแปลกกว่ากันก็คือ ประตูตรงหน้ามีลวดลายสลักเป็นรูปสุนัขพันธ์ไทยที่นอนหมอบเป็นแนวยาวขวางของประตูเอาไว้..ต่างจากประตูอื่นที่มักจะเป็นรูปสิงโตสวมมงกุฎ...
'ห้องอะไร?' ร่างสูงถามคนรักเบาๆ
'ก็มาด้วยกัน
' อีกคนตอบ มองดูร่างกำยำของเจ้าของบ้านยืนคุยกับลูกน้องทั้งสี่คน...เดี๋ยวนะ...สี่คนเลยงั้นหรอ...ทำไมต้องดูแลขนาดนี้...? หรือจะเป็นห้องเก็บยาไม่ดี?...ร่างเล็กคิดในใจ...
'แปลก...'
'อือใช่...เป็นน้องของเขาแต่ไม่รู้เรื่อง
' คราวนี้เป็นร่างสูงที่ส่ายหัวระอากับคนรัก ก่อนจะโดนหมัดฮุคเข้าที่ท้องน้อยอย่างจัง
ร่างสูงกำยำเดินเข้าไปในห้อง...ทั้งสองคนมองไม่เห็นว่าในนั้นมีอะไรแต่สีหน้าของลูกน้องทั้งสี่คนที่ยืนประจำหน้าห้องกับดูกังวลและหวาดกลัวไปตามๆ กัน...แต่ร่างเล็กคิดว่าห้องนั้นคงเป็นห้องทำยาผิดศีลธรรมที่พี่ชายเขาสร้างขึ้น เขาเลยไม่สนใจคิดไว้ว่าจะต่อว่าคราวหลังก็ได้....แต่ในขณะที่พวกเขาหมุนตัวกลับก็เจอกับคนคุ้นเคยพอดี...
'นายน้อย! เอ่อ...คือ มะ มาทำไมครับ มาที่นี่ได้ไง....!?'
'ทำม้ะ! โด่ว โง่จริงก็ขึ้นบันไดมาไง'
'ไม่ใช่อย่างนั้นครับ...คือ...'
เปรี๊ยะ!
'ใครใช้ให้มึงเอาออก!!'
ในขณะที่หลงเฟยกำลังจะอธิบาย เสียงแส้กระทบพื้นและเสียงตวาดดังลั่นตามมาด้วยเสียงร้องไห้เล็ดลอดออกมาจากห้องนั้น...ที่นี่ถูกสร้างให้เก็บเสียงได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้รู้ทัน.....ทำให้เสียงร้องได้ยินมาถึงนี่ แต่ไม่สามารถได้ยินไปไกลกว่าระยะสิบเมตร...
'เสียงไร?'
'คือ...'
'หลงเฟย....บอกกูมา'
ด้วยความที่หลงเฟยสำนึกในบุญคุณที่ร่างเล็กเคย(สั่งให้ลูกน้อง)ช่วยชีวิตตนไว้ บวกกับความอึดอัดในจิตใจที่สงสารคนตัวเล็กมากและเห็นว่าคงมีเพียงคนตรงหน้าเท่านั้นที่จะช่วยได้...จึงเล่าเรื่องทุกอย่างออกไป....
'ไอ้เลว
!'
'นั่นพี่ชายน้องนะครับ?'
'เออ! มันเลว! หึ้ยยย!'
'ไม่รู้สึกเหมือนด่าตัวเองหรอ?'
'เอ๊ะ ไอ้เหี้ยเฮีย! นี่ขัดอยู่ได้ จะเอาช้ะ!?'
'คร้าบบบๆ" หลงเฟยมองคู่รักตรงหน้าไปมาแล้วถอนหายใจ...ทำไมถึงได้มีความสุขจังนะ...
'เดี๋ยวกูช่วยเอง'
'ครับ....แต่...อย่าบอก....'
'เออ กูไม่บอกหรอกน่าว่ามึงหักหลังเขา
'
'โธ่...ไม่ใช่อย่างนั้นครับนายน้อยยย'
'เรื่องนี้เป็นความลับ...กูกับเฮียจัดการเอง...ส่วนมึงก็อยู่เฉยๆ ห้ามพูดมากนะเว้ย!'
'เฮียด้วยหรอ?'
'เออดิ เดี๋ยวน้องตบคว่ำ จะปล่อยน้องไปตายคนเดียวไง
?'
'แต่เฮียก็ไม่อยากตายด้วยหรอกนะ เอ่อ...ก็ได้จ๊ะ...แหะๆ'
...หลังจากตกลงกันได้แล้ว พอเหมาะกับที่ลูกน้องทั้งสองคนที่หลงเฟยใช้ให้ยกของก็กลับขึ้นมา คู่รักทั้งสองก็เข้าไปแอบและแยกกันตรงนั้น ก่อนที่ทั้งสองจะรีบกลับไปที่ร้านอาหารที่มีเพื่อนๆ รออยู่ เล่าทุกอย่างให้ฟังในเวลาไม่นาน และขอให้ทุกคนร่วมมือด้วย...ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี จึงคิดแผนการและเตรียมตัวเตรียมสถานที่โดยมีหลงเฟยคอยแนะนำผ่านทางมือถือ และจัดหาอุปกรณ์ ช่องทางลัดไว้ให้....ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง...แผนการก็เริ่มต้นขึ้น...
ฟรานซ์ใช้เวลาจัดการเสร็จกิจธุระของตัวเองในห้องน้ำอยู่นานพอควรเมื่อเรียบร้อยจึงกลับมาพักผ่อนบนเตียงขนาดใหญ่พิเศษอีกครั้ง...ในจดหมายของซานน์ คู่แข่งของเขานั้นบอกไว้ว่าอีกสามวัน....แต่ถ้าหากนับเวลาที่กว่าจดหมายจะมาถึงเขา...คงประมาณสองวัน ซึ่งคงเป็นวันนี้..แน่นอนเขาเตรียมรับมือไว้แล้ว โดยการจัดเตรียมคนกว่าร้อยไปดูแลน้องชายของเขาและสอดแนมคู่อริ...เขาจึงสบายใจ...แต่ว่าหลายวันมานี้มีเรื่องของสุนัขที่อยู่ในกรง เรื่องงานที่มีคนยักยอกเงินบริษัทหลายสาขา และรวมถึงเรื่องโกดังที่ถูกวางเพลิงทำให้เขาเครียดมากจึงจำเป็นต้องทานยาระงับความเครียด ซึ่งมีผลทำให้หลับนานประมาณสี่
**-ห้าชั่วโมง...พอเหมาะกับเวลา เขาจึงสั่งให้ลูกน้องทุกคนห้ามปลุกเขาจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็นเพราะเขาคำนวณแล้วว่า...ตนจะตื่นตอนนั้นพอดี...**
.................ขณะเดียวกัน............
ลูกน้องของซานน์นับร้อยคนที่ติดตามน้องเล็กเพื่อหวังแย่งตัวก็ได้สะกดรอยตามา จนเห็นคนตัวเล็กออกมาจากบ้านมุ่งตรงไปร้านกาแฟ...
'หัวหน้าครับ...คุณซานน์สั่งมาว่าให้รีบจัดการพวกนั้นให้หมด จะได้รีบพาน้องเล็กไป'
'อือ'
และการตะลุมบอนก็ค่อยๆ เกิดขึ้นทีละนิดๆ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้รับรู้ ลูกน้องของซานน์ใช้เวลานานมากในการจัดการพวกนั้นทีละคนสองคนพร้อมกับตามน้องเล็กจนกระทั่งมาถึงบ้านหลังใหญ่ของฟรานซ์....เลยคิดที่จะจัดการลักพาตัว แต่ท่าทางแปลกๆ ของน้องเล็กและกลุ่มเพื่อนที่แอบย่องเข้าบ้านทางประตูหลังและสีหน้าตื่นกลัวทำให้พวกลูกน้องของซานน์เกิดอาการงงและตัดสินใจที่จะรอจนกว่าจะสบโอกาส...
.......................................................
"ยาสลบที่ผมได้มามีสองตัวนะ ตัวแรกหาได้ทั่วไป ผมไม่กล้าใช้ของคุณใหญ่เดี๋ยวเขาจะรู้ และอีกตัวเป็นยาพิเศษที่ทางหน่วยงานใช้สำหรับนักโทษหลบหนี....พ่นทีหลับเป็นตายเกือบห้าชั่วโมง ตื่นมาอีกทีก็เข้าคุกล้ะ ผมให้พี่ชายไอ้เมลิคที่เป็นตำรวจเอามาให้ แกทำงานอยู่แถวนี้พอดี" คิริวบอก
"เออ ฟ้าแม่งเป็นใจว่ะ"
"ใส่นี่ไว้....จะได้ไม่สลบ" หน้ากากป้องกันสารพิษถูกแจกให้ทุกคนยกเว้นหลงเฟย
"หลงเฟย มึงอะต้องสลบด้วยนะ จะได้เนียนๆ"
"คร้าบๆ รู้แล้วครับเดี๋ยวผมไปหาที่นอนก่อน"
"ยังเล่นอีก ไปเลยเดี๋ยวพวกกูจัดการเอง" หลงเฟยพยักหน้าวางใจและอวยพรให้ทุกคนโชคดีไร้อะไรกีดขวาง...และห้ามตาย...
"ผมวางยาสลบไว้ทั่วบ้านแล้วก็รอบๆ นี้แล้ว....แม้แต่คนสวนที่อยู่บ้านพักคนงานไกลออกไปก็ไม่น่ารอด" คิริวพูดชื่นชมผลงานตัวเอง
"เห้อออ เจ...ไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม...ตี้รักเจนะ..."
"อืมมม อย่าตายนะ"
"เดี๋ยว...ไอ้สัดกูไม่ได้พาพวกมึงไปทำสงคราม"
"ไอ้ชาเย็น มึงก็พูดได้นิหว่า นี่กูมาทำอะไรตรงนี้วะ...จะถอยก็ไม่ได้...เสือกมาลูบคมสิงโต...ตายแน่ๆ"
"ฮื่อออ พี่ภาค ถ้ากูตายเอาเค้กอร่อยๆ ทำบุญให้กูด้วย"
"อย่าพูดงี้ดิ้เมีย ถ้าโดนจับได้ก็ตายหมดแหละใครจะไปรอดทำบุญเล่าาา"
เสียง(แกล้ง)ร้องไห้และสวดมนต์อ้อนวอนภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้มีชีวิตรอดปลอดภัยดังไม่ขาดสายจากรั้วข้างบ้านหลังใหญ่...
"ผมกดนะ"
ตึ้ง....
เสียงสัญญาปล่อยยาสลบดังขึ้นเบาๆ...ยาสองตัวถูกผสมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แถมยาทั้งสองตัว ไม่มีสี ไม่มีควัน ไม่มีกลิ่น...เรียกได้ว่า โคตรเทพ! ใช้เวลานานกว่าสิบนาทีพวกเขามั่นใจว่าในบ้านและรอบๆ รวมไปถึง...ทั้งซอย(แอบไปวางเพราะกลัวมีคนซุ่มแอบดู) มั่นใจว่าทุกคนนอกจากพวกเขาหลับกันไปหมดแล้ว จึงเข้าไปในบ้าน....
กลุ่มลูกน้องของซานน์ที่ไม่รู้เรื่องและสะกดรอยตามมาก็หลับไปด้วยเช่นกัน....
"เหี้ยยยย อย่างกับหนังงง" มิกกี้มองภาพชายชุดดำที่นอนหมดสภาพบนพื้นแล้วเดินไปแตะๆ เขี่ยๆ ให้แน่ใจว่าหมดลม(?) จริงๆ
"ถ้ามึงไม่รีบ...มึงจะได้ไปเล่นหนังในนรก"
แล้วทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังชั้นสามอย่างรวดเร็ว...ไม่ต้องกลัวกล้องวงจรปิด...เพราะก่อนหน้านี้เมลิค ภาค และหลงเฟยได้ไปห้องควบคุมและจัดการทำให้มันใช้งานไม่ได้ และลบภาพตั้งแต่ช่วงสามวันที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้ดูเจาะจงมากเกินไป..
"ทางโล่ง.." สงครามที่เป็นคนไปดูลาดเลาห้องนั้นให้สัญญาณก่อนจะเปิดประตูเข้าไป...
"ฟู่วววว" เขาถอนหายใจเมื่อเปิดประตูมาเห็นทุกคนในห้องหลับอยู่...เพราะไม่ได้มาปล่อยยาสลบแถวนี้โดยตรงเลยกลัวว่ายาจะไม่ถึง..แต่โชคก็ช่วย..
"คนนี้คือคนที่เคยมาบ้านเล็กใช่ไหม? พี่จำได้"
"ใช่...แตกต่างหน่อย....ก็โดนไปเยอะนี่.." ทุกคนมองไปที่กรงเหล็กขนาดใหญ่ที่มีผู้ชายตัวเล็กสูงไม่ถึง165ซม.นอนหลับพิงลูกกรงอยู่....เหมือนที่หลงเฟยบอกเลย...มีคนเฝ้าแปดคน มีโซ่ล่ามคอ...ถูกจับขังกรง...และบาดแผลเต็มตัว..
"ดูคุณใหญ่ไม่ใช่คนโหดร้ายแบบนี้เลย..." คิดตี้เอ่ยตัดพ้อ..
"ผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็กก็จริง...แต่ไม่เคยยุ่งกับชีวิตของเขา...เรื่องแบบนี้ก็พอได้ยินมาบ้างแต่ไม่นึกว่าจะทำกับลูกน้องตัวเองขนาดนี้....ทั้งๆ ที่พี่เอ็กซ์เป็นคนดีแท้ๆ..."
การลักพาตัวเริ่มขึ้นหลังจากนั้น...สงครามและเมลิคช่วยกันจัดการโซ่ ภาค เจ ศิลป์ จัดการกรง เมื่อสำเร็จในเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงพวกเขารีบพาคนตัวเล็กออกมาจากบ้าน และทำลายหลักฐานเรื่องยาสลบและลายนิ้วมือจนหมด ใช้เวลาทั้งหมดเกือบชั่วโมงกว่าๆ จึงได้พาตัวคนตัวเล็กออกมาจากบ้านไปยังสถานที่ไม่ใกล้ไม่ไกลที่พวกเขาเช่าไว้..แถมยังโทร.ตามสาวๆ เพื่อมาดูแลอีก...กว่าจะขับรถไปถึงและรอสาวๆ มา บวกกับเวลาที่ลงมือก็เกือบสี่ชั่วโมง พวกเขาทุกคนจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบขับรถกลับมาที่บ้าน....ทำให้เหมือนกับว่าพึ่งกลับมาจากเล่นน้ำ...เพราะก่อนหน้านี้ได้บอก ฟรานซ์ไว้แล้ว...
ในขณะที่ทุกคนขับรถอยู่บนถนนก็มีรถเก๋งหรูยี่ห้อเดียวกันหลายสิบคันวิ่งว่อนทั่วพื้นที่ไม่ต่างจากในซอยที่มีชายฉกรรจ์สวมชุดสูททำหน้าเคร่งเครียดมองซ้ายมองขวาอย่างกับหาอะไร....ไม่ผิดแน่ๆ...ลูกน้องของพี่ใหญ่...ถึงใจจะเต้นตุบๆ แต่ทุกคนก็ยังแสดงได้ดีและขับรถจนมาถึงบ้าน...บ้านที่เหมือนสนามรบ...ไม่รู้ว่าชายชุดสูทสีดำมาจากไหนเยอะแยะ ทุกคนต่างเหมือนกันคือมองซ้ายมองขวาสีหน้าเคร่งเครียด แต่เมื่อเห็นรถของเจ้านายที่พวกเขาเรียกว่านายน้อย ทุกคนก็ปรับสีหน้าเป็นเคร่งขรึมปกติก่อนจะทำความเคารพเหมือนทุกอย่างปกติดี...
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป..
