13 แค่ตามมาดูว่าตายหรือยัง
คืนนั้นทั้งคืนเมริษาไม่สามารถข่มตานอนได้เลยเพราะยังทำใจยอมรับไม่ได้ว่าวันนี้อีริคได้ทิ้งเธอไปแล้วจริงๆ
ว่างเปล่า...ข้างกายไม่มีเขา
วันก่อนยังมีเขาข้างกายอยู่เลย แล้วเราไม่รักกันตอนไหน
“คนใจร้าย ฉันเกลียดคุณ!”
ด้วยความที่นอนไม่หลับทั้งคืนส่งผลให้วันนี้เมริษาตื่นสายกว่าทุกวัน หลังจากนี้ชีวิตประจำวันคงเปลี่ยนไป จากที่ต้องตื่นเช้าไปเรียน กลายเป็นต้องตื่นเช้าไปดูแลกิจการช่วยครอบครัวที่บริษัท
“ฉันได้ข่าวว่าเมื่อคืนแกแอบหนีเที่ยวใช่ไหม” เสียงเข้มของบิดาเอ่ยขึ้นทำให้เมริษาที่กำลังเดินเหม่อลอยลงมาจากชั้นสองของบ้าน สะดุ้งตกใจ พบว่าบนโต๊ะอาหารมีบิดากับพี่สาวกำลังนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข
แต่ทว่ากลับมีเก้าอี้แค่สองตัว ไม่ได้มีเก้าอี้สำหรับเธอ
“เมื่อคืนเมย์ไปเลี้ยงฉลองหลังเรียนจบกับเพื่อนมาค่ะ” เธอก้มหน้างุด พยายามหลบซ่อนใบหน้าเพราะไม่อยากให้บิดาเห็นดวงตาอันแสนบวมเป่ง
“ไหนตอนแรกแกบอกว่าจะไม่ไป”
“พอดีว่าเมื่อคืนสิตาโทรมาคะยั้นคะยอให้ไป เมย์ก็เลยต้องออกไปกลางดึกค่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่ว่าออกไปหาผู้ชายหรอกนะ”
“ปะ…เปล่าค่ะ เมย์ไม่ได้ออกไปหาผู้ชาย” เมริษาพยายามไม่สบตากับอามีนาที่กำลังนั่งจ้องหน้าอยู่
“อย่าให้ฉันรู้ทีหลังนะว่าแกแอบไปนอนกกกับผู้ชาย ถึงได้กลับบ้านดึกๆดื่นๆแทบทุกวัน”
“เมย์ไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ เมย์รู้ว่าพ่อไม่อนุญาตให้เมย์มีแฟน”
“มีได้ แต่ฉันบอกข้อตกลงกับแกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าต้องทำยังไง ถ้ามันรักแกจริง แค่ร้อยล้านทำไมมันจะให้ไม่ได้ หรือว่าแกจะไปคว้าเอาไอ้กุ้ยข้างถนนมาเป็นแฟน”
“เปล่าค่ะ ตอนนี้เมย์ยังไม่อยากมีแฟน อยู่คนเดียวน่าจะสบายใจกว่า”
“คิดได้แบบนั้นก็ดี” วิศรุตปรายตามองไปที่ลูกสาวคนโตด้วยความภาคภูมิใจ “ดูพี่แกเอาไว้เป็นตัวอย่าง ถ้าหาไม่ได้เหมือนพี่แก ฉันจะไม่ยอมรับมันเป็นลูกเขยเด็ดขาด”
เมริษาเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง อำนาจเงินบดบังความเป็นคนไปหมดแล้วจนไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด เอาเงินคนอื่นมา สุดท้ายเดี๋ยวเขาก็มาตามทวงคืน
“พ่อกับพี่ไม่รู้ตัวเลยหรอคะ ว่าสิ่งที่ทำอยู่กำลังทำร้ายใครอีกคน”
“ทำร้ายใคร!” วิศรุตเริ่มมีน้ำโหที่ลูกสาวคนเล็กชอบขัดใจตลอด ทั้งๆที่เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาบริษัทเอาไว้ ถ้าไม่ได้อามีนาช่วยไว้ ป่านนี้คงกลายเป็นบุคคลล้มละลายไปนานแล้ว “หมอนั่นมันเต็มใจให้มีนา มีแต่แกนั่นที่แหละชอบขัดขวางอยู่ตลอดเวลา”
“เพราะพี่มีนาไม่ได้รักอาร์เธอร์”
“ความรักมันกินไม่ได้ เงินต่างหากที่ทำให้แกยังหายใจได้อยู่ทุกวันนี้ หรือแกอยากให้บริษัทล้มละลายถึงได้คอยขัดขวางอยู่เรื่อย!”
เมริษาเบือนหน้าหนีเพราะกำลังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอสงสารอาร์เธอร์ที่ถูกพ่อกับพี่สาวหลอก ทั้งๆที่เธอพยายามขัดขวางแล้วทุกวิถีทางแต่สุดท้ายก็โดนตราหน้าว่าเป็นลูกอกตัญญู
“แกเลิกทำตัวเป็นคนดีได้แล้วเมษา ฉันรู้นะว่าที่แกคอยขัดขวางเพราะว่าแกชอบอาร์เธอร์ แต่เขาดันชอบฉัน!” อามีนาเริ่มทนไม่ไหวกับความไร้เดียงสาของน้องสาว หล่อนรู้ว่าน้องสาวโกรธที่หล่อนมาแย่งผู้ชายของมันไป
“เมย์บอกแล้วไงว่าไม่เคยชอบอาร์เธอร์ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน เมย์แค่อยากให้พ่อกับพี่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด รู้ไหมว่าอาร์เธอร์เสียใจแค่ไหน”
“งั้นแกก็ตามไปปลอบมันสิ ป่านนี้มันคงลงนรกไปแล้วมั้ง”
“พี่มีนา!”
“ทำไม! ฉันพูดถึงผู้ชายของแกไม่ได้เลยใช่ไหม ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้” อามีนาเชิดหน้าขึ้นท้าทายน้องสาว “ตามมันไปสิ ไปเลย ที่นี่ไม่ต้องการแก รู้ไว้ซะด้วย!”
“ค่ะ” เมริษาน้ำตาไหลพรากลงมาเป็นทาง เพิ่งโดนผู้ชายทิ้ง หัวใจเต็มไปด้วยบาดแผลแต่กลับมาเจอคำพูดทิ่มแทงจากครอบครัว บอกตรงๆว่าตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนแล้ว มันมืดหม่นไปแทบทุกทาง “เมย์ขอตัวก่อนนะคะ วันนี้มีธุระ”
“แกจะไปไหน เรียนจบแล้วไม่ใช่หรอ” วิศรุตเอ่ยถามลูกสาวคนเล็กเสียงแข็ง
“ไปส่งเอกสารที่มหาลัยค่ะ”
“เออ รีบไปรีบมา เรียนจบแล้วก็รีบๆมาทำงานช่วยฉันซะ แกจะได้รู้ว่าซักทีว่าที่มีนาทำ…ไม่ผิดเลยสักนิด”
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทั้งสองคนคงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นถูก พอแย้งก็หาว่าเธอเป็นคนอกตัญญู
เธอผิดเองที่เป็นคนพาอาร์เธอร์มาเจอพี่สาวเพียงเพราะวันนั้นต้องการซื้อเค้กไปร่วมฉลองวันเกิดที่ไนท์คลับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปปิ๊งกันตอนไหน มารู้อีกทีก็ตอนที่อาร์เธอร์หลงรักพี่สาวของเธอจนหมดหัวใจ
เมริษารีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นที่มีแต่พลังลบ วันนี้ไม่ได้มีธุระอะไรเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เธอไม่อยากนอนซมอยู่แต่ในห้อง ออกไปเดินเล่นดีกว่าเผื่อรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
เธอซื้อแซนวิชที่ร้านสะดวกซื้อแล้วเดินไปนั่งรอรถประจำทางเหมือนทุกๆวัน แค่แซนวิชชิ้นเดียวก็ยังททานไม่หมดเหมือนตอนนี้ท้องยังไม่รับอะไร สมองยังวนเวียนนึกถึงแต่เรื่องระหว่างเธอกับเขา
…ผู้ชายใจร้ายคนนั้น
“คนใจร้าย ฉันเกลียดคุณ”
ถึงวันนี้ยังทำใจไม่ได้ แต่เธอเชื่อว่าถ้าชีวิตนี้ไม่เจอเขาอีกเลย สักวันเขาจะหายไปจากใจของเธอ...สักวันเธอจะไม่รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้อีก
ในขณะที่เมริษากำลังนั่งทานแซนวิชพร้อมกับนั่งรอรถสองแถว มีใครบางคนกำลังนั่งมองมาที่เธอซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขานั่งอยู่ในรถตู้สีดำทึบที่คนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็น
แล้วเมริษามานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้?
“นั่นคุณเมริษาไหมครับ”
“อืม” อีริคตอบเสียงเบา
เมริษากำลังจะออกไปไหน?
ทั้งๆที่เมื่อวานเขาเป็นคนไล่เธอออกจากชีวิตแล้วย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามมายุ่งกับเขาอีก แต่วันนี้เป็นเขาเองที่ให้ลูกน้องขับรถพามาสังเกตุลาดราวที่บ้าน ว่าเธอทำอะไรอยู่
นี่เขาเป็นอะไร ทำไมต้องอยากรู้ขนาดนั้นว่าเธอทำอะไรหรือจะไปไหน ในเมื่อเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว
“แล้วนายจะทำยังไงต่อ จะปล่อยเธอไปจริงๆหรอครับ” ลูกน้องคนสนิทถามกลับด้วยความสงสัย ตอนแรกคิดว่าเจ้านายชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆซะอีก ก็เห็นทำตัวดีขึ้นช่วงที่คบกับเธอ
“กูไม่เอาคนพวกนั้นเข้ามาทำให้ตระกูลแปดเปื้อนหรอก คงชั่วไม่ต่างกัน”
“นายอย่าเอาความเกลียดชังไปตัดสินคนอื่นสิครับ ผมว่าคุณเมริษาก็ดูเป็นคนดีนะครับ ผู้หญิงแบบนี้หายากนะในสมัยนี้”
“ฝันไปเถอะ! ผู้หญิงมีอีกเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมกูต้องมาเลือกผู้หญิงที่มาจากตระกูลเห็บไรวะ กูก็แค่ตามมาดูเฉยๆว่าตายหรือยัง….ก็แค่นั้น”
ลูกน้องคนสนิทส่ายหน้าให้กับความปากแข็งของเจ้านาย
อีริคไม่มีทางรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาพูดขัดกับความเป็นจริง เมื่อคืนไล่เมริษาออกไปจากชีวิต แต่พอรุ่งเช้าแอบขับรถตามมาสอดส่องถึงหน้าบ้าน....แบบนี้เรียกว่าอะไร
…กลืนน้ำลายตัวเองชัดๆ
