8.ไม่มีเหตุ
เอโลอีสยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ก่อนที่เธอจะกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนอนด้วยความรู้สึกอยากจะกรีดร้องออกมาให้ดังๆ
จูบไปแล้ว..เธอและท่านลูเซียนจูบกันไปแล้ว! ให้ตายสินั่นคือจูบแรกและมันดีมากกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลย เขาอ่อนโยนแถมยังอบอุ่นมากๆอีกต่างหาก คืนนี้คงเป็นคืนแรกที่เธอบอกตามตรงว่าเธอไม่อยากพาตัวเองกลับมาเลย เธออยากอยู่กับเขาแต่ถึงอย่างนั้นเอโลอีสยังคงทำตามความต้องการของเธอไม่ได้..
เพราะในใจยังคงมีความกลัวอยู่
“อา..นี่มันยากชะมัดเลยแฮะ”
ทั้งที่อยากจะกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขนให้แน่นแต่ทว่าเธอก็ยังกลัวว่าความสัมพันธ์ของเรามันจะจบลงในทันทีที่เขาได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ..
แต่ทว่าในอีกมุมหนึ่งล่ะ หากว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลย ไม่ได้รักไม่ได้ชอบและไม่ได้สนใจ ที่เขาทำไปทั้งหมดก็หวังเพื่อร่างกายของเธอเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้นการยื้อไปเรื่อยๆ เช่นนี้มันจะได้ประโยชน์อะไรกันล่ะ
หากอยากรักเขา เช่นนั้นก็ต้องลองเสี่ยงดูสินะ หากมันจบลง..ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแต่มันก็เท่ากับว่าเธอจะไม่เสียเวลากับเขาอีกต่อไป และแน่นอนว่าหากเขา..ไม่ได้ต้องการแค่ร่างกายของเธอ แต่ต้องการหัวใจของเธอด้วย..บางทีเธออาจจะพบเจอคู่รักที่ดีก็เป็นได้
เช่นนั้นครั้งหน้าก็ลองบอกเขาไปตรงๆ เลยดีกว่าว่าเธอต้องการ..ขึ้นไปที่ห้องชั้นบนกับเขาน่ะ
.
.
“ตื่นได้แล้วค่ะคุณหนู ท่านเซอร์ดิโอมารอที่ด้านล่างตั้งนานแล้ว..”
เอโลอีสปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่สาวใช้กำลังปลุกเธอ คงเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนหลับก็ปาเข้าไปเกือบเช้าและหลังจากที่เธอหลับหนึ่งชั่วโมงสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาเพื่อจับเธอแช่น้ำนมและแต่งหน้าทำผมอยู่ค่อนวัน
“อา..อย่างนั้นเองสินะ”
“อย่าลืมว่าคุณหนูจะต้องคำนึงถึงหน้าตาของตระกูลอแลงให้มากนะคะ ในงานวันนี้องค์หญิงทรงตั้งใจเชิญคุณหนูเพียงผู้เดียวเท่านั้นในตระกูลอแลง ฉะนั้นแล้วจะต้องไม่ก่อเรื่องหรือว่าทำให้องค์หญิงขุ่นเคืองพระทัย”
เรื่องนั้นเธอรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรไปแตะต้องกับเส้นเรื่องของนิยายและไม่ควรทำตัวเด่นเกินหน้าเกินตานางเอกหรือว่านางร้ายอะไรทั้งนั้น
“ข้าเข้าใจแล้วค่ะแม่นม..”
แม่นมวัยชรามองคุณหนูของเธอด้วยแววตาที่อ่อนลงเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงเพื่อจัดกระโปรงให้เอโลอีส
“คุณหนูเองก็ผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะแล้วนะคะ นี่คือช่วงเวลาที่ดีในการมองหน้าคู่ครอง..เซอร์ดิโอพึ่งจะได้เลื่อนขั้นเป็นราชเลขาขององค์รัชทายาทตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น..เซอร์ดิโอเองก็นับเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะคะ”
บอกตามตรงว่าฉันยังไม่เคยเห็นเซอร์ดิโออะไรนั่นมาก่อนเลย ฉันรู้แค่ว่าเซอร์ดิโอคือเพื่อนวัยเด็กของเอโลอีส ทั้งสองคนสนิทกันมากตั้งแต่ยังเด็กจนถึงปัจจุบัน..
“เจ้ามาช้านะเอโลอีส”
เธอจ้องมองใบหน้าของเพื่อนวัยเด็กตาไม่กะพริบ ดิโอขยับแว่นตาของเขาเล็กน้อยเมื่อถูกจ้องมองจากเอโลอีส
“ทำไมจ้องขนาดนั้นเพราะวันนี้ข้าหล่อมากรึไง”
เรื่องความหล่อเหลา เซอร์ดิโอก็นับได้ว่าโดดเด่นมากทีเดียว แต่เธอไม่ค่อยชอบผู้ชายที่มีบุคลิกเหมือนกันหนอนหนังสือเท่าไหร่นัก..
“ก็..ดูดีมากกว่าทุกวันจริงๆ นั่นแหละ ไปกันเถอะข้าไม่อยากไปถึงงานช้า”
เพราะเธออยากไปชมฉากเด็ดที่จะได้เห็นในวันนี้ต่างหาก เอโลอีสฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับเดินขึ้นบนรถม้า เธอไม่ได้หันกลับมามองใบหน้าที่แดงซ่านของดิโอเลยแม้แต่น้อย
“ให้ตายสิมาชมกันแบบนั้น..แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยงั้นเหรอ..”
เขายกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองก่อนจะรีบเดินขึ้นรถม้าไป ในระหว่างที่อยู่บนรถม้านั้น เอโลอีสไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาเลย เธอนั่งนิ่งๆ พร้อมกับปรายสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างรถม้า..
“ที่งานเลี้ยงคงมีบุรุษมากมายจ้องมองเจ้าตาเป็นมันแน่ๆ จะเลือกคู่ครองก็ต้องดูให้ดีหน่อยเข้าใจไหม หรือหากว่าเจ้าไม่ต้องการ..ให้บุรุษเหล่านั้นมาเกาะแกะเช่นนั้นเจ้าก็มาอยู่ใกล้ๆ ข้าเอาไว้ล่ะ”
เธอช้อนสายตามองหน้าของเซอร์ดิโอ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนดีมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้สินะ
“อื้อ..ขอบคุณนะดิโอ”
ดิโอกระแอมเบาๆ เพื่อขับไล่อาการเขินอายให้จางหายไปจากใบหน้า
เราเดินทางไม่นานก็มาถึงที่พระราชและผู้ที่รอเราอยู่คือเลดี้เฟมที่กำลังยิ้มแย้มอย่างสดใส
“แหมดิโอ ทีกับข้าไม่เห็นเจ้าจะสนใจไปรับเลยนะ”
ดิโอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“ก็เพราะที่ด้านหน้าคฤหาสน์เบนัวนั้นเต็มไปด้วยรถม้ามากมายที่มารอรับเลดี้เฟม นะสิ มีหนุ่มๆ มากมายที่ต้องการเป็นคู่ควงของเจ้านะเฟม เจ้าจะให้ข้าไปรับเจ้าอีกทำไมกัน”
เลดี้เฟมยกมือขึ้นมาตีที่แขนของดิโออย่างแรง
“ช่างเถอะข้าไม่เถียงกับเจ้าอีกแล้ว ไปกันเถอะเอโลอีส ไปตามหาบุรุษหล่อเหลาที่พอจะเป็นคู่เต้นรำของเจ้าในคืนนี้”
เมื่อกล่าวจบเลดี้เฟมก็จูงมือของเอโลอีสไปในทันที โดยที่ไม่รอให้ดิโอได้กล่าวคำใด
“ข้าต่างหากล่ะที่เป็นคู่ควงของเอโลอีสในคืนนี้..”
ทำไมคำว่าเพื่อนมันถึงได้หนักหนาสำหรับเขามากขนาดนั้นกันนะ..
.
.
“นี่มันใช่โต๊ะของเราจริงๆ อย่างนั้นหรือลูติน ข้าไม่ชอบโต๊ะที่หลบมุมเช่นนี้เลย ข้าต้องการมองหาสตรีหน้าใหม่ที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาในงานเลี้ยงนี้นะ”
ซีโมนกำลังบ่นเมื่อลูตินพาเขามานั่งโต๊ะที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้เช่นนี้ ปกติแล้วพวกเราต้องโดดเด่นสิ ไม่อย่างนั้นจะออกล่าได้อย่างไรกัน
“อยู่เงียบๆสักวันเจ้าไม่ตายหรอกน่าซีโมน”
แกรนด์ดยุคนั้นดูเหมือนจะแปลกไปมากทีเดียว ซีโมนไม่มั่นใจเลยว่าเพื่อนของเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่เขารู้แค่ว่ามีบางอย่างที่ลูตินกำลังทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำมัน
“ดูนั่นสิ..เลดี้เบนัวที่กำลังเดินมากับเลดี้อแลง ให้ตายสิข้าไม่เคยเห็นหน้าของเลดี้ อแลงมาก่อนเลย สตรีผู้นั้นงดงามชวนให้หัวใจเต้นแรงเลยล่ะ”
เคาน์มาเอลกล่าวออกมาในขณะที่เขากำลังมองไปที่งานเลี้ยง และเสียงนั้นทำให้สายตาของซีโมนและลูตินมองไปในทางเดียวกัน
รอบกายของเลดี้อแลงมีบุรุษมากมายกำลังยืนรายล้อมนาง ดูก็รู้ว่าบุรุษพวกนั้นคงกำลังขอนางเต้นรำอย่างแน่นอน
“ให้ตายสิความงดงามนั้นมันอะไรกัน..ข้าเองก็อยากไปทำความรู้จักกันเลดี้อแลงสักหน่อย..เจ้าทั้งสองก็ช่วยหลีกทางให้หน่อยก็แล้วกันนะ"
ซีโมนกล่าวก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเพื่อจัดการเสื้อผ้าที่มันยับเล็กน้อยของตัวเอง
“หยุดตรงนั้นเลยซีโมน..ห้ามยุ่งเกี่ยวกับเลดี้อแลงไม่อย่างนั้นข้าจะตัดเพื่อนกับเจ้าให้รู้แล้วรู้รอด!!”
ซีโมนได้แต่อ้าปากค้างด้วยความสงสัย..ว่าลูตินมีเหตุผลอันใดกันที่สั่งห้ามไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับเลดี้อแลงนะ?
