บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

สิ่งที่แปลกอีกอย่างก็คือ การคลุมถุงชน นี่ซิ คือเรื่องแปลกและถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ศิวนาถไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น

“คุณแม่บอกว่าให้ทำความรู้จักให้สนิทกันไว้มากๆ แล้วจะรีบหาฤกษ์แต่งงานให้เร็วที่สุด” ชโยดมกลุ้มจนพูดไม่ออก ทำได้แค่ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้งแล้วถอนหายใจดังๆ

“แล้วพี่บอกคุณแม่ไปว่าไง” น้องชายอยากรู้ท่าทีที่เกิดขึ้น

“บอกว่าไม่พร้อม อยากทำงานที่บริษัทให้ดีแต่คุณแม่ก็ไม่ฟัง ยืนยันท่าเดียวว่าพรุ่งนี้จะพาผู้หญิงคนนั้นมา” สีหน้าและน้ำเสียงคนพูดกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด

ชโยดมนึกโมโหตัวเองไม่น้อย เมื่อครู่เขาน่าจะบอกมารดาไปตรงๆ เลยว่า ไม่ต้องการให้พาใครมาวุ่นวายด้วยทั้งนั้น เพราะในเวลานี้หัวใจมีเจ้าของและพร้อมจะพามาเปิดตัวให้ทุกคนรู้จัก แต่ความตกใจทำให้นึกคำพูดที่จะพูดไม่ออก ซ้ำยังถูกมัดมือชกจนดิ้นไม่หลุดด้วย

“แล้วพี่จะทำไงต่อ” ศิวนาถรอฟังว่าพี่ชายจะว่าอะไร

เขานึกถึงตัวเองอย่างไรไม่รู้ ถ้ามารดาจัดการให้พี่ชายลงเอยตามที่ต้องการได้สำเร็จโดยง่าย ไอ้การคลุมถุงชนเช่นนี้มันจะมาถึงชีวิตตนด้วยหรือไม่

ศิวนาถไม่พร้อมสำหรับการมีครอบครัว ไม่พร้อมที่จะต้องดูแลใคร ไม่อยากมีใครติดสอยห้อยตามเป็นเงาตามตัว ไม่ได้การแล้ว มันต้องไม่เกิดขึ้นกับเขาเป็นอันขาด

“ฉันยังไม่รู้” ชโยดมส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง

ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องไม่ต้องการถูกคลุมถุงชนแค่นั้น แต่มันมีปัญหาใหญ่ที่มากกว่านั้นก็คือ เขาจะบอกเรื่องนี้กับคนที่รักสุดหัวใจว่าอย่างไร ชโยดมไม่มีทางที่จะพูดเพื่อทำให้เธอเสียใจแน่ แต่หากมารดาพาผู้หญิงคนนั้นมาที่บริษัทจริงในวันพรุ่งนี้ จะใช้วิธีไหนทำให้เรื่องทุกอย่างดีขึ้น

“ใจเย็นๆ พี่ใหญ่ มันต้องมีทางออก” ศิวนาถสงสารและเห็นใจพี่ชายเหลือเกิน

“ทางออกทางไหนล่ะ นายเล็ก” พี่ชายย้อนถาม

“ผมก็ไม่รู้แต่ว่ามันต้องมีทางอื่นซิ แล้วผู้หญิงที่คุณแม่จะให้พี่แต่งงานด้วยคือใคร”

“เห็นบอกว่าเป็นลูกสาวเพื่อนเก่าคุณพ่อ ชื่อน้องนุช ชมพูนุช พิมพ์รักษา” ชโยดมเอ่ยชื่อผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้าแต่ถูกหมายตาให้เป็นคู่ชีวิตในอนาคตเสียแล้ว

“ชมพูนุช พิมพ์รักษา” ศิวนาถพึมพำชื่อนี้ในลำคอ รู้สึกคุ้นหูอย่างไรไม่รู้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

ศิวนาถนึกชื่อที่ได้ยินจากปากพี่ชายว่าคุ้นหูแค่ไหน ใช่แล้ว เขานึกออก ชมพูนุช พิมพ์รักษา ผู้หญิงของจรัล เพื่อนรักที่หนีรักคุดไปอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ ชายหนุ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทั้งจากที่เพื่อนรักเล่า อะไรมันจะโลกกลมขนาดนี้

ชมพูนุช พิมพ์รักษา ผู้หญิงที่ใช้ตัวเองแลกกับเงินสิบล้านเพื่อหมั้นกับลูกชายของผู้มีอันจะกินครอบครัวหนึ่ง ใครจะคิดว่าครอบครัวที่จรัลคร่ำครวญว่าพรากความรักของเขาไป ก็คือครอบครัวประวันวิทย์ของตน และคู่หมั้นสิบล้านของแม่ผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ก็คือพี่ชายสุดที่รักของเขานั่นเอง

ไม่ได้การแล้ว ทีแรกศิวนาถว่าจะไม่ยุ่งและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของมารดาจัดการกับพี่ชายเอง แต่พอมาถึงเวลานี้ไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะเขาจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงหน้าเงินที่ไร้ศักดิ์ศรีคนนี้ มาเกี่ยวข้องกับครอบครัวเป็นอันขาด

ที่สำคัญศิวนาถคนนี้แหล่ะ จะกระชากหน้ากากหน้าเงินของเธอออกมาให้โลกรู้ ทั้งมารดา ทั้งจรัล ต้องได้รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อชมพูนุชคนนี้ หัวใจหน้าเงินแค่ไหน

“ฉันไม่ต้องการแบบนี้” ชโยดมบอกตามตรง

หัวใจเขามีคนอื่นครอบครอง ความรักที่สร้างขึ้นมาโดยไม่มีใครรู้เพียงรอเวลาที่เหมาะสมจะมาพังเพราะการคลุมถุงชนนี้ไม่ได้ ชโยดมไม่ยอมให้เรื่องนี้ทำร้ายหัวใจและความรักของตนกับเธอแน่

“พี่ก็ต้องพูดกับคุณแม่” ศิวนาถเสนอทางออกแรกที่ง่ายที่สุดให้ บางทีมารดาอาจยอมรับฟังและล้มเลิกความต้องการนี้ก็เป็นได้

“พูดไปก็เท่านั้น คุณแม่ไม่ฟังหรอก อวยพรให้นายไม่เจออย่างฉันนะ นายเล็ก แต่ฉันจะไม่ยอมถูกจับแต่งงานเด็ดขาด” ชโยดมยกกระป๋องชูขึ้นเหนือศีรษะ หันมาส่งยิ้มให้น้องชายด้วยแววตาแสนกลัดกลุ้ม ก่อนจะกระดกเบียร์ในกระป๋องลงคอรวดเดียวหมด

“พี่จะทำอย่างไรต่อไป”

“หนีไปให้ไกล ไม่ให้คุณแม่จับแต่งงานได้ ชีวิตฉันทั้งชีวิตนะนายเล็ก ฉันควรได้เลือกเองซิถึงจะถูก”

น้อยครั้งที่จะเห็นพี่ชายขัดใจความต้องการของบิดามารดา น้อยครั้งที่จะเห็นท่าทีกลัดกลุ้มหรือเสียใจของชโยดม ศิวนาถเข้าใจความรู้สึกและเห็นใจพี่ชายสุดที่รักเหลือเกิน เขาไม่รู้หรอกว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ชโยดมปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้คืออะไร

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจก็คือคงไม่มีใครอยากถูกบังคับ หรือถูกกำหนดการเลือกคู่ของตนเองเป็นแน่ เขาเองก็คนหนึ่งที่จะไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้แน่

“การหนีไม่ใช่ทางออก คิดดูซิว่าพี่จะหนีไปได้ไกลแค่ไหน และถ้าพี่หนีเกิดมีครอบครัวขึ้นมา เมียพี่ ลูกพี่อีกล่ะ ปัญหาอะไรจะตามมาอีก”

“มันก็จริงของนาย” ชโยดมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

ไม่ต้องรอให้เขาพบครอบครัวหรอก ตอนนี้ต่างหากผู้หญิงที่รักจะทำอย่างไร ความรักแสนลับจะต้องไม่เป็นความลับอีกต่อไป หรือบางทีนี่อาจเป็นเวลาเหมาะสม ที่ชโยดมจะประกาศให้ทุกคนในครอบครัวรู้ว่า ผู้หญิงที่รักและร่วมชีวิตด้วยนั้นคือใคร

ปัญหาเดียวที่กังวลและทำให้ต้องคิดทบทวนตลอดมาก็คือ บุพการีทั้งสองจะรับได้หรือไม่ หากว่าศรีสะใภ้นั้นเป็นแค่...

“แต่มันก็พอมีวิธี” ศิวนาถขัดขึ้นมากะทันหัน เพราะสงสารพี่ชายและไม่อยากได้ผู้หญิงหน้าเงินมาเกี่ยวดองด้วย บางทีงานนี้จำเป็นต้องช่วยชโยดมให้รอดพ้นจากบ่วงนี้

“วิธีอะไร” ชโยดมถามด้วยความสนใจ

“บอกแล้วพี่จะทำได้เหรอ”

“ต่อให้บุกน้ำลุยไฟถ้าทำให้พี่ไม่ต้องเจอเรื่องบ้าๆ แบบนี้ นายว่ามาเลย นายเล็ก ต้องทำอย่างไร” น้ำเสียงที่มุ่งมั่นและแววตาที่เด็ดเดี่ยวของชโยดม ทำให้ศิวนาถค่อยๆ บอกวิธีเสี่ยงที่จะเลี่ยงการแต่งงานครั้งนี้ และหวังว่ามันน่าจะมีผลช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นไม่มากก็น้อย

อาคารพีวีมอลล์กรุ๊ปจำกัด

รถของบ้านประวันวิทย์ไปรับชมพูนุชแต่เช้า เพื่อเดินทางมาพบชโยดมตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก คุณหญิงประภาพาหญิงสาวแนะนำให้ทุกคนในบริษัทรู้จัก พร้อมกับบอกให้รู้เป็นนัยว่าสาวน้อยหน้าหวานคนนี้คือบุคคลพิเศษที่ในอนาคตจะมาเกี่ยวพันกับครอบครัว

“เหนื่อยไหมจ้ะหนูนุช” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มในระหว่างที่ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นทำงานของชโยดม

“ไม่ค่ะ”

ชมพูนุชพูดเพียงแค่นั้นแล้วก้มหน้า พยายามบอกตัวเองว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัวเท่านั้น แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็ตามที แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่านี้แล้ว

คุณหญิงประภาเดินนำชมพูนุชมาที่หน้าห้องประธาน สาวน้อยหน้าแฉล้มที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นทำความเคารพ และเตรียมจะลุกขึ้นเพื่อไปรายงานให้คนที่อยู่ในห้องรู้

“ไม่ต้องจ้ะญาดา เดี๋ยวฉันเข้าไปหาตาใหญ่เอง นี่คุณชมพูนุชจะมาเป็นเลขาส่วนตัวของตาใหญ่ ต่อไปมีอะไรให้บอกคุณชมพูนุชนะ”

“ค่ะ” ญาดารีบรับคำและไม่พูดอะไรต่อ คุณหญิงประภาสั่งให้ไปจัดเตรียมเครื่องดื่มมารับรอง ส่วนนางจับมือชมพูนุชเดินเข้าห้องท่านประธานไปทันที

ชโยดมลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหามารดาด้วยรอยยิ้ม สองแม่ลูกกอดทักทายกันตามปกติเหมือนเคย จากนั้นคุณหญิงประภาจึงแนะนำสาวน้อยที่ยืนอยู่ด้านหลังให้บุตรชายได้รู้จักเป็นครั้งแรก

“นี่หนูชมพูนุชจ้ะ หนูนุชจ้ะ นี่ตาใหญ่ลูกชายป้าจ้ะ” คุณหญิงประภาดันร่างเล็กมายืนเคียงข้างบุตรชาย

ยิ่งเห็นภาพนี้แล้วนางก็ยิ่งวาดฝันว่า ทั้งคู่เหมาะกันราวกิ่งทองใบหยก มันจะดีไม่น้อยหากว่าทั้งสองเข้าสู่ประตูวิวาห์และมีหลานตัวน้อยให้อุ้มในเร็ววัน

“สวัสดีครับ คุณชมพูนุช” ชโยดมกล่าวทักทายก่อน

พิจารณาสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านามว่าชมพูนุช ใบหน้าหวานรับกับรอยยิ้มที่ปรากฏในเวลานี้ แววตาเป็นประกายฉายความเป็นมิตรออกมาให้เห็น เขายอมรับว่าเธอสวยและดูอัธยาศัยดีไม่น้อย แต่มันก็ไม่อาจสะกิดหัวใจที่มีเจ้าของจับจ้องให้วอกแวกแม้แต่น้อย

“สวัสดีค่ะ” ชมพูนุชพนมมือไหว้ชโยดมตามมารยาท ส่งยิ้มหวานทักทายกลับไปเช่นกัน

เธอแอบพิจารณาว่าที่คู่หมั้นที่จำต้องรับอย่างชโยดม เขาตัวสูงและดูใจดีเป็นมิตรไม่น้อย ถือเป็นโชคดีของชมพูนุชที่ไม่ต้องเจอคู่หมั้นคู่หมายที่ทำตัวกรุ้มกริ่มหรือเป็นพวกฉวยโอกาสแต่อย่างใด

“ไหนล่ะโต๊ะทำงานหนูนุช” คุณหญิงประภามองหาโต๊ะทำงานที่สั่งให้คนเตรียมไว้ในห้องท่านประธาน

“คือว่าอย่างนี้ครับคุณแม่”

ท่านประธานหนุ่มเตรียมจะอธิบาย แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับบุตรชายคนเล็กของบ้านประวันวิทย์ที่ก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ติดตามด้วยญาดาที่ยกถาดเครื่องดื่มมารับรองตามคำสั่ง

“ลมอะไรหอบตาเล็กมาทำงานแต่เช้าจ้ะ วันนี้” คุณหญิงประภาแปลกใจไม่น้อยที่เห็นศิวนาถในชุดสูทเรียบร้อยที่บริษัทในเวลานี้

ปกติแล้วศิวนาถไม่ค่อยเข้ามาที่บริษัทนอกจากมีประชุมสำคัญ เพราะลูกชายคนเล็กมักใช้เวลาทำงานที่บ้าน หรือออกไปดูแลงานตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ดังนั้นการพบกันในเวลานี้ถือเป็นเรื่องผิดแปลกสำหรับคุณหญิงประภาอย่างยิ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel