บทที่ 5
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก หลับตาลงข่มกลั้นความหวาดกลัวที่แล่นเข้ามากัดกินหัวใจ สูดหายใจลึกแล้วผ่อนออกช้าๆ ควบคุมสติของตัวเองให้มั่นคง ก่อนที่จะทนไม่ไหวแล้วยกเลิกเงินก้อนโตเอากลางครัน
“มานี่” เสียงนั้นทุ้มเข้มไพเราะสุดจะบรรยาย
อย่างน้อยมันก็ทำให้คนฟังรู้สึกใจชื้นขึ้นมากกว่าเดิม...
ไปรยาไม่ได้ตอบรับใดๆ เพราะปากคอสั่นไปหมดแล้วในเวลานี้ เจ้าของร่างเพรียวบางสมส่วนวางชุดกับผ้าเช็ดตัวไว้ตรงที่เดิม ก่อนจะหมุนตัวหันกลับมาทางด้านหลังอย่างช้าๆ
ชายผู้นั้นนั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟากำมะหยี่ ซึ่งตรงนั้นเป็นมุมมืดที่แสงสว่างจากโคมไฟหัวเตียงส่องไปไม่ถึง ทำให้เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขา เห็นแค่เพียงช่วงขาเพรียวยาวภายใต้กางเกงขายาวสีดำกับรองเท้าหนังมันปลาบ
“หยุดอยู่ตรงนั้น” เขาสั่ง
“ค่ะ” เสียงที่ตอบรับออกมาฟังดูสะท้านจนไปรยาต้องกัดฟันแน่น ความหวั่นวิตกพวกนี้จะทำให้เธอสอบตก และอาจชวดเงินก้อนใหญ่ไปอย่างง่ายดาย
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
“คะ?” เธอทวนถามทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่
“ไม่ได้ยินที่สั่งเหรอ” เสียงของคนในเงามืดเอ่ยอย่างใจเย็น ไม่ตะคอกข่มขู่ให้สินค้าราคาแพงต้องใจฝ่อแต่อย่างใด
ไปรยาใจสั่นและแม้แต่ตัวก็ยังสั่นไปหมด หญิงสาวเลื่อนมือขึ้นช้าๆ กัดริมฝีปากแน่นข่มความหวั่นกลัว ขณะถอดเสื้อผ้าออกไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงชุดชั้นในสวมติดกาย
“ทั้งหมด” เขาย้ำ แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีสิทธิ์คัดค้าน ไม่มีโอกาสได้เหนียมอายด้วยซ้ำ จำเป็นต้องทำตามคำสั่ง ดังนั้นทุกอย่างจึงร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นในที่สุด และต้องพยายามอย่างมากทีเดียวในการกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาอาบใบหน้า
”รูปร่างดี สมส่วนกลมกลึงไปทั้งตัว อกสวย สะโพกสวย ผิวพรรณก็ดีมาก ขาวผุดผ่องไร้ที่ติ แต่เรื่องบนเตียงนี่สิ จะดีสมคำการันตีหรือเปล่า ในเมื่อ...เธอยังบริสุทธิ์อยู่” น้ำเสียงนั้นฟังดูโล่งใจ มากกว่าจะเจือปนความโกรธจากการถูกหลอกให้ซื้อสินค้าไร้คุณภาพ
ไปรยายกมือขึ้นปิดตามจุดสงวน ดวงตาหลุบต่ำลงมองพื้น ริมฝีปากเม้มแน่นขณะนึกหาคำแก้ตัว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร คนที่ซ่อนตัวเองอยู่ตรงเงามืดก็ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ก่อนจะก้าวออกมาเพื่อเผยตัวตนให้เธอได้เห็นชัดเต็มต่อสายตา
ร่างบางสะท้านเยือก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือใคร!
ดวงตากลมโตเบิกโพลงและเซถอยหลังไปเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาขาวคม ประกอบไปด้วยดวงตาลุ่มลึกมีเสน่ห์ ขนตายาวเป็นแพยิ่งกว่าผู้หญิง จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักลึก ไม่ว่ามองคราใดก็ทำเอาหัวใจเธอเต้นแรงได้ไม่เคยเปลี่ยน
“พะ...พี่วิน!” เสียงที่เปล่งออกมาสั่นพร่าด้วยความตกใจ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะปริม สวยไม่เปลี่ยน แต่ไม่ยักรู้เลยนะว่าจากผู้หญิงหวงตัว วันนี้จะกลายเป็นผู้หญิง...ขายตัว” สิ้นคำนั้น ดวงตาของไปรยาก็พร่ามัวเลือนลาง เธอส่ายหน้าเบาๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่พัชรีบอกจะเป็นผู้ชายใจร้ายอย่างวินธัย
อดีตคนรักเก่าของเธอเอง...
“ปริม…ปริมจะกลับค่ะ” เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รีบก้มลงคว้าเสื้อผ้าขึ้นมา กำลังจะหันหลังเดินตรงไปยังห้องน้ำ
“แน่ใจเหรอว่าจะทิ้งเงินเป็นแสนๆ ไป”
ประโยคนี้หยุดฝีเท้าของหญิงสาวเอาไว้ แต่ไม่ใช่เพราะเธอสนใจเรื่องเงิน ทว่าเป็นเพราะจู่ๆ ก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความดำมืดแผ่ขยายเข้ามาบดบังดวงตา ร่างเปลือยเปล่าจึงทรุดฮวบลงบนพื้น หมดสติไปเพราะความเหนื่อยล้าสะสมนานนับเดือน
วินธัยยิ้มตรงมุมปากพร้อมกับสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง มองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เขาเดินไปใกล้ๆ อุ้มร่างไร้สตินั้นไปวางลงบนเตียงนอน มองพิจารณาสรีระอันงดงามนั้นเพียงครู่เดียว แต่ทำเอาแก่นกายแข็งตึงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
วินธัยเดินไปยังบาร์เครื่องดื่มขนาดย่อมตรงมุมหนึ่ง เปิดขวดวิสกี้แล้วรินใส่แก้วให้ตัวเอง สาดน้ำสีอำพันอันร้อนแรงนั้นลงไปในลำคอรวดเดียว ก่อนจะหันไปมองอดีตคนรักอีกครั้ง
เขารับรู้มาตลอดว่าไปรยากำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน เพราะต้องรักษาอาการพี่สาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และเขาก็ตั้งใจใช้ให้พัชรีไปติดต่อเธอเรื่องการขายศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับเงิน
ทีแรกเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าคนหวงตัวอย่างไปรยาจะติดต่อกลับไปหาพัชรี บอกว่ายินยอมรับข้อเสนอเรื่องการขายเรือนร่างหนึ่งคืนแลกกับเงินหนึ่งแสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวที่สูงมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขา
วินธัยหัวเสียอย่างหนักที่ไปรยาตัดสินใจขายตัว เมื่อตอนคบกันแค่กอดจูบยังหาโอกาสได้ยาก แต่เมื่อได้เห็นกับตาว่าเธอสั่นหนักแค่ไหนในตอนที่ถูกสั่งให้เปลื้องผ้า เขาก็มั่นใจทันทีว่าเธอยังคงเป็นคนเดิม ผู้หญิงที่หวงตัวและยังคงรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เจนจัดเรื่องกามอย่างที่อวดอ้างไว้กับพัชรีแต่อย่างใด
