บทที่ 4
เบื้องหน้าเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก เมื่อตั้งอยู่บนทำเลที่มีมูลค่ามหาศาลใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มันจึงกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่แสนวิเศษยิ่งขึ้นไปอีก และนั่นบ่งบอกได้ทันทีว่า ‘คุณเขา’ คงร่ำรวยมหาศาลเพียงใด
ทันทีที่เครื่องยนต์ดับสนิทลง สองสาวต่างวัยก็เปิดประตูลงมาจากรถ บอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าขรึมอยู่เต็มบริเวณมองมาด้วยความสนใจ แต่ทันทีที่เห็นร่างคุ้นตาของแม่เล้านามว่าพัชรี หนึ่งในนั้นก็รีบเดินตรงมาต้อนรับ
“เชิญด้านในครับ” ชายหนุ่มผายมือ แล้วเดินนำเข้าไป
ไปรยาดึงชายกระโปรงที่สั้นกุดให้เลื่อนต่ำลงไปอีกราวกับว่านั่นจะช่วยให้ตัวเองดูโป๊น้อยลง เธอสะบัดผมที่ม้วนเป็นลอนไปทางด้านหลัง สูดลมหายใจลึกแล้วเดินตามคนแปลกหน้าเข้าไปข้างในอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความกลัวแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ทำเอาร่างบางถึงกับสั่นระริก แข้งขาชักเริ่มอ่อนแรง เท้าเรียวที่อยู่ภายใต้รองเท้าส้นสูงหยุดชะงักลง เมื่อบอดี้การ์ดที่นำเข้ามาก่อนหยุดเดิน แล้วหันกลับมามอง
“มีคำสั่งให้ส่งแค่ตรงนี้ครับ”
“ฝากบอกด้วยว่ารายนี้น่ะเด็ดทีเดียว”
พัชรีว่าแล้วขยิบตา นั่นคงเป็นการอวดอ้างสรรพคุณสินค้าเพื่อเน้นถึงค่าตอบแทน เขาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันมามองไปรยาแล้วผายมือเชิญให้เดินไปอีกทาง
“คุณจะไม่อยู่รอฉันเหรอคะ” หญิงสาวชะงัก หันมาถามคนที่พาเธอเดินทางมาที่นี่
“ไม่ได้หรอก เธอต้องอยู่ที่นี่ไปจนเช้า จะให้ฉันนั่งหลับคอยหรือไง” เจ้าหล่อนสะบัดหน้าหันมาตอบ “เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวทางนี้ก็ให้คนไปส่งกลับกรุงเทพฯ เองนั่นแหละ ไม่ต้องพะวงเรื่องไม่เป็นเรื่องหรอก มีหน้าที่ทำอะไรก็รับผิดชอบให้มันดีเถอะ อย่าทำตัวด้อยคุณภาพล่ะ ไม่งั้นค่าตัวที่เธอควรได้ก็จะลดลงไปด้วยเหมือนกัน”
“ค่ะ”
ไปรยาตอบเพียงสั้นๆ แม้จะไม่พอใจกับคำขู่ของอีกฝ่าย เพราะตกลงเรื่องราคาค่าตัวกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้หญิงขายตัวมือใหม่อย่างเธอจะเรียกร้องอะไรได้ สิ่งเดียวที่คิดในตอนนี้คือจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าถูกจับได้ว่าไม่ใช่พวกเจนโลก
ในตอนที่บอดีการ์ดเดินนำขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ไปรยาเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินสวนลงมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง อีกฝ่ายมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะเบ้ปากใส่แล้วสะบัดหน้าเดินลงบันไดไปทันที
ชั้นบนของบ้านหลังใหญ่โตนี้ มีห้องที่มองเห็นอยู่ในระยะสายตาทั้งหมดสามห้อง ตรงกลางโถงจะเป็นโซฟาเข้าชุดกัน มีระเบียงกว้างมากทอดออกไปสู่ภายนอก หากออกไปยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อมองออกไปจะเห็นทิวทัศน์งดงามรวมถึงสระว่ายน้ำเบื้องล่างอย่างชัดเจน
“เชิญที่ห้องใหญ่ด้านนี้เลยครับ เข้าไปรอได้เลย อาบน้ำแล้วก็สวมชุดที่เตรียมไว้ และกฎสำคัญข้อหนึ่งคือ...ห้ามเปิดไฟสว่างก่อนได้รับคำสั่ง”
เมื่อเขากำชับเรียบร้อยก็เดินลงบันไดไปทันที ทิ้งให้ไปรยายืนเคว้งอยู่ตรงนั้นตามลำพัง มองซ้ายแลขวาอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะเดินไปยังห้องที่บอดีการ์ดชี้บอก
มือเย็นเฉียบและสั่นระริกแตะลงบนลูกบิดประตูอย่างช้าๆ เมื่อเปิดเข้าไปก็พบความเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ามาที่ใบหน้าและเนื้อตัวจนขนลุกไปหมด
หลังบานประตูจะมีเคาน์เตอร์ไม้ราคาแพงไว้สำหรับวางข้าวของ มีพวงกุญแจรถยนต์ แว่นกันแดดแบรนด์แนม และโน้ตบุ๊กราคาแพงวางอยู่ตรงนั้น
เธอเดาได้ทันทีว่าคงเป็นของเขา...
ไปรยาสูดลมหายใจลึกและผ่อนออกทางปากอย่างช้าๆ เงยหน้าขึ้นจะพบรูปภาพธรรมชาติแขวนเรียงรายได้สัดส่วนอยู่บนผนัง เธอปิดประตูลง เดินเข้าไปในห้องอย่างใจเย็น พบเตียงกว้างที่มีผ้าปูสีขาวสะอาดตั้งอยู่กลางห้อง มีโซฟากำมะหยี่สีดำตั้งอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ มีเฟอร์นิเจอร์จำพวกอื่นตามความจำเป็น แม้ข้างในจะเปิดไว้เพียงแค่โคมไฟเหนือหัวเตียงซึ่งเป็นสีส้มสลัว แต่เธอก็มองออกว่าข้าวของทุกชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาแพงลิ่วทั้งนั้น
สุดทางเดินของห้องนั้นจะเป็นประตูไม้แบบบานเฟี้ยม เมื่อเปิดออกจะพบตู้เสื้อผ้าแบบบิวด์อินอยู่ตรงกลาง และแบ่งโซนซ้ายขวาไว้เท่าๆ กัน ด้านซ้ายจะเป็นส่วนเปียกของห้องอาบน้ำที่หรูหราสวยงาม ส่วนด้านขวาจะเป็นส่วนแห้งของชักโครก
ไปรยาสังเกตเห็นชุดนอนผ้าซาตินสีขาว แต่งขอบตรงอกและชายกระโปรงด้วยผ้าลูกไม้แขวนอยู่ในตู้ หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ในตอนที่คว้าชุดนั้นและผ้าเช็ดตัวมาถือเอาไว้
ยังไม่ทันที่จะได้อาบน้ำตามคำสั่งของบอดีการ์ด เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออกและปิดลงด้วยฝีมือของใครคนหนึ่ง...
