4 กลับมาเจอกันอีกครั้ง
Eat Me At J Avenue
ต้นไม้พาเมโกะมากินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชันซึ่งตั้งอยู่ในอเวนิวในย่านคนพลุกพล่าน แน่นอนว่าเวลานี้สายตามากมายกำลังจับจ้องมายังเขาและเธอ มีเสียงซุบซิบดังมาเป็นระยะ แม้จะได้ยินไม่เป็นศัพท์ แต่บริบททั้งหลายมันชี้ชัดว่าคนเหล่านั้นกำลังพูดถึงเธอ...และข่าวแย่ๆเรื่องผู้ชาย
“โอเคหรือเปล่า?” ต้นไม้เอ่ยถาม เมื่อเขาเองก็รู้ว่าสถานการณ์ในร้านอาหารตอนนี้เป็นยังไง
“ชินแล้ว...แถมยังรู้ด้วยว่าพวกนั้นพูดอะไรกัน” เมโกะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ขณะที่ไล่นิ้วปาดหน้าจอมือถือ
“อย่าไปสนใจเลย พวกเขาไม่มีใครรู้จักเธอดีสักคน”
“พวกนั้นคุยกันว่าเมโกะเพิ่งมีข่าวกับไฮโซฮาร์ท แล้วทำไมถึงมากินข้าวกับน้องชายเจ้าของเอเจนซี่ได้...? ส่วนคอมเมนท์ในเน็ตก็...แรด ร่าน มั่วผู้ชาย อยากจับแต่คนรวยๆ อยากตกถึงข้าวสาร แม่ที่ตายไปคงเป็นทุกข์ ไม่สมกับเป็นนางเอก น่าจะไปเป็นนางร้าย บทกะหรี่เหมาะกับนาง สงสารแม่นางที่ตายห่าไปแล้วจัง...” นั่นคือข้อความที่เธออ่านจากในมือถือ ที่มีคนโพสต์รูปเธอกับต้นไม้ในเวลานี้ลงไปในเพจเมาท์ดารา ช่างรวดเร็วทันใจดีจริงๆ
“เลิกอ่านอะไรแบบนั้นเถอะ” ต้นไม้พยายามจะดึงมือถือออกจากมือของเมโกะ
“มองจากมุมนี้...เมโกะว่าคนที่ถ่ายน่าจะนั่งอยู่โต๊ะนั้น” ว่าแล้วเมโกะก็ชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่เยื้องๆกับโต๊ะของเธอ ต้นไม้จึงหันมองตาม
“เมโกะ!” แต่เขาหันมา เขาก็ได้เห็นว่าร่างบางลุกออกไปจากโต๊ะแล้ว
“สวัสดีค่ะ...” เมโกะเดินเข้าไปหยุดที่โต๊ะของผู้หญิงสองคน ทั้งสองกำลังถือมือถือที่หน้าเจอเปิดโพสต์ของตัวเองที่ถ่ายรูปเมโกะอยู่
“คะ?” หนึ่งในนั้นเงยหน้ามองเมโกะ ก่อนจะส่งสัญญาณให้อีกคนเก็บมือถือ
“มีอะไรสงสัยถามได้นะคะ...อยากรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นอะไรกับเขา? อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทั้งๆที่มีข่าวกับไฮโซ ฮาร์ท แล้วทำไมวันนี้ถึงมากับผู้ชายอีกคน ชอบนักนี่เรื่องของคนอื่น มีอะไรก็มาเลยสิ!” ดาราสาวชี้กลับไปยังต้นไม้แล้วหันมาตะคอกใส่หน้าผู้หญิงสองคนนั้นอย่างไม่รู้สึกว่าต้องอายหรือเกรงใจใครหน้าไหน
“คะ?”
“ถามมาสิ! ถ้าจะเก่ง...คุณต้องเก่งทั้งต่อหน้าและลับหลัง...แต่ถ้าคิดว่าตัวเองกล้าแค่ตอนอยู่หลังคีย์บอร์ด ฉันก็จะขอตั้งชื่อให้พวกคุณใหม่แล้วกัน...ว่าพวกกาก!”
“เมโกะ...พอเถอะ ออกไปจากที่นี่กัน พี่ขอล่ะ” ต้นไม้รีบเข้ามาห้าม เพราะเขารู้ว่าถ้าไม่ห้าม มันจะไม่จบง่ายๆแน่
“พี่ต้นไม้อยู่เฉยๆ ยังไงวันนี้เมโกะก็ต้องได้จัดการกับพวกกาก!” แต่แน่นอนว่าเมโกะไม่ยอมง่ายๆ
“นี่...พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ! เป็นดาราทำไมถึงมาว่าประชาชนแบบนี้ล่ะ?!” ผู้หญิงอีกคนลุกขึ้นยืนแล้วชี้หน้าเมโกะ
“ฮ่ะๆๆ ตรรกะประหลาดมากเลยนะคุณอ่ะ! ดาราไม่ใช่ประชาชนหรือไง? ฉันไม่ใช่คนเหมือนพวกคุณเหรอ?! ทำไมพวกคุณถึงด่าฉันลับหลังได้ ขณะที่ฉันคิดจะด่าพวกคุณก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องด่าใคร...ด่าดอกไม้เหรอ? หรือหมา หรือภูเขา?! พวกคุณให้แอคหลุมมาด่าคนอื่น...แต่ลืมอะไรไปหรือเปล่า? ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น...แล้วคุณก็ถ่ายรูปฉันมาจากตรงนี้...แถมในมือถือคุณก็ยังล็อกอินแอคเคาท์หลุมนี่อยู่ด้วย!”
หมั่บ!
ในจังหวะอันรวดเร็วนั้น เมโกะก็กระชากมือถือจากมือของผู้หญิงคนนั้นมาดู...
“เอามือถือฉันคืนมานะ!”
“นี่ไง...คุณเป็นคนโพสต์รูปของฉัน เปิดแมพให้ทัวร์มาลง ให้คนมารุมด่าฉัน ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆด้วย...! เตรียมตัวรอได้เลย ถ้าภายในสามนาทีนี้...คุณไม่โพสต์ขอโทษฉัน ฉันฟ้องคุณแน่! คุณแอคเคาท์หลุม!”
ปัก!
พอกดเบอร์ตัวเองลงในเครื่องแล้วโทรออก จนเธอได้เบอร์ของผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว เมโกะโยนมือถือเครื่องนั้นลงบนโต๊ะ ไม่ลืมที่จะจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาเอาจริงเอาจัง ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากร้านอาหาร โดยมีต้นไม้วิ่งตามมาติดๆ
“เมโกะ!”
“พี่ต้นไม่ต้องมาด่าอะไรเมโกะตอนนี้! ของมันขึ้นอ่ะ...พวกนั้นสมควรโดนแล้ว!” เมโกะหันไปโบกมือใส่ต้นไม้ ก่อนจะก้าวเท้ายาวเพื่อเดินหนีเขา
“เมโกะ!” แล้วต้นไม้ก็วิ่งเข้ามาขวางหน้าเธอเอาไว้
“ไม่ได้จะด่า! ไม่ได้จะพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว...แต่จะชวนไปกินไอติม เผื่อเธอจะใจเย็นลงบ้าง” เขาส่งสองมือไปยืดไหล่ของเมโกะเอาไว้
“เมโกะไม่ใช่เด็กๆนะ ที่เวลาโกรธ พอกินไอติมแล้วจะหายอ่ะ” ระหว่างนั้น...ขณะที่เมโกะช้อนสายตาขึ้นมองต้นไม้ สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเบื้องหลังอันคุ้นเคยของใครคนหนึ่งเข้า เพียงเสี้ยววินาทีนั้น...หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมา
ตึกตัก! ตึกตัก!
“ถึงไม่ใช่เด็กๆแต่ก็...”
“พี่ต้นไม้...ไปรอเมโกะที่ร้านไอติมก่อน เดี๋ยวเมโกะตามไป...”
“เธอจะไปไหน?”
เมโกะไม่ตอบคำถามของเมโกะ เวลานี้...เธอไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว นอกจากเสียงฝีเท้าของใครคนนั้น ร่างบางเริ่มออกวิ่ง วิ่งถามแผ่นหลังของใครคนนั้นไป แต่เพราะเขาเดินเร็ว...และเพราะอยู่ห่างกับเขา เธอจึงวิ่งตามเขาไม่ทัน
ฮึก!
หญิงสาวหยุดวิ่งแล้วหอบแฮกออกมา เมื่อเวลานี้เธอมองหาเขาคนนั้นไม่เจอ หันซ้ายหันขวา...สายตาเริ่มกังวล จังหวะนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้...ว่าเธอยังมีเบอร์ของเขาอยู่ มือบางรีบคว้ามือถือขึ้นมากดเลื่อนหาเบอร์ที่เธอไม่เคยโทรหาเลยตลอดหลายปี ต่อไปอยู่นาน...หัวใจก็เต้นแรงไม่หยุด แต่เขากลับไม่รับสายของเธอ
“มันจะเป็นพัตเตอร์ได้ยังไง...” เมโกะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหมดหวัง ใช่...มันจะเป็นพัตเตอร์ไปได้ยังไง ในเมื่อเธอรู้ว่าเวลานี้เขาอยู่ที่อังกฤษ
“แล้วทำไมจะเป็นกูไม่ได้?” ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้นมา เมโกะก็รับหันไปตามต้นเสียงอย่างรวดเร็ว แล้วเธอได้เห็นว่าเป็นเขาจริงๆ คนที่เธอวิ่งตาม...คนที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วคือพัตเตอร์จริงๆ
“พัตเตอร์?!” เมโกะทั้งตกใจ ดีใจ และแปลกใจไม่น้อยที่ได้เจอพัตเตอร์
“อืม...กูเอง” ผิดกับเขา ที่ไม่แม้แต่จะแสดงปฏิกิริยาใดๆออกมา ทั้งๆที่เธอและเขาไม่ได้เจอหน้ากันมานานถึงสี่ปี
“กู...ไม่เห็นรู้เลยว่ามึงกลับมาแล้ว กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วรอบนี้มานานไหม?” เมโกะรัวคำถามมากมายพร้อมรอยยิ้ม การได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง...มันทำให้เธอหุบยิ้มไม่ได้
“มาถึงเมื่อเช้า รอบนี้...ย้ายมาถาวร”
“ถาวร?! หมายถึงว่ามึงจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วงั้นเหรอ?” ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกโตในทันที
“อืม”
“งั้นคงต้องนัดรวมตัวกันหน่อยแล้ว กูดีใจนะ...ดีใจมากๆที่ได้เจอมึง เอางี้สิ...คืนนี้ไปดื่มกัน ชวนเพื่อนๆออกมาให้หมดเลยดีไหม?” เมโกะลืมตัว เผลอไปคว้ามือของชายหนุ่มมากุมไว้แน่น ทว่าเขากลับรีบสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่กลัวเป็นข่าวหรือไง? มึงดังกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ”
“?” รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเมโกะ เมื่อเธอโดนเขาวางท่าทีเฉยเมยและห่างเหิน
“ไม่ต้องรีบนัดเพื่อนหรอก กูย้ายกลับมาแล้ว มีเวลาให้เจอกันอีกเยอะ”
“แต่...”
“แล้ววันนี้กูก็ไม่ว่างด้วย” เขาตัดบทเธอ
“งั้น...ถ้ามีแค่เราล่ะ? แบบ...แค่มึงกับกู ไปกินข้าวหรือดูหนังกัน กูมีเรื่องที่จะเล่าให้มึงฟังเยอะแยะเลยนะไอ้พัต รู้ไหม...ว่ากูคิดถึงมึงมาก” สายตาของเมโกะสั่นไหว ไม่กล้าจะยิ้มออกไปอีกแล้ว เมื่อได้เห็นว่าเขาแทบไม่มีรอยยิ้มให้เธอเลย
“เรื่องเล่า? อย่างเรื่องอะไร...เรื่องที่แม่มึงเสียแล้วน่ะเหรอ?”
“ไอ้พัต?”
“กูได้แต่คิดว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กับมึง แต่มันก็อดไม่ได้ กูแม่ง...สงสัยฉิบหายว่าทำไม มึงถึงใจดำขนาดนี้...แม้แต่วันที่แม่มึงตาย มึงยังไม่คิดจะบอกกูเลย” เขาเคืองเธอเรื่องนี้มาก ทั้งเคืองและพยายามจะหาเหตุผลว่ามันคืออะไร แต่ก็หาคำถามไม่ได้ สุดท้ายก็ทนความอึดอัดไม่ไหวเลยต้องถามออกไป
“พัตเตอร์...กู...ไม่อยากจะปิดเรื่องนั้นกับมึง”
“แต่มึงสั่งห้ามเพื่อนทุกคน ไม่ให้บอกกูไง”
“กูมีเหตุผล!”
“เหตุผลอะไร? มึงบอกมาสิ...แล้วกูจะเชื่อเหตุผลของมึง”
“เพราะกูกลัว กลัวมากว่าถ้าบอกมึง...แล้วมึงจะไม่มา กลัวมากว่าถ้าไม่มีมาแล้วกูจะเสียใจ แต่ถ้าบอกไปแล้วมึงบินกลับมาร่วมงานศพ กูก็กลัวอีกเหมือนกัน...กลัวว่ากูจะรั้งมึงเอาไว้ แล้วเราจะจบด้วยการทะเลาะกันแบบครั้งก่อน กูเลยคิดว่า...ไม่บอกให้มึงรู้จะดีกว่า ถ้าแค่มึงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น กูจะได้ไม่ต้องเสียใจ ไม่ว่าทางไหนทั้งนั้น” เมโกะนิ่วหน้ามองพัตเตอร์ไม่วางตาขณะที่เธอพยายามจะอธิบาย
“อืม กูเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วจริงๆว่ากูไม่ควรไปคาดหวังให้คนอย่างมึง...คิดถึงความรู้สึกคนอื่น ไม่ควรไปคาดหวังให้มึง...คิดแทนว่ากูจะรู้สึกยังไง ถ้าได้รู้ว่ากูเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าแม่มึงตาย มึงมันเห็นแก่ตัวไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ”
“...” เมโกะพูดไม่ออก เมื่อโดนเขาต่อว่าทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี
“ช่างแม่งเหอะ...เรื่องมันผ่านไปแล้ว กูจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก”
“มึงโกรธกูมากขนาดนั้นเลยเหรอ? แค่เพราะกูปิดเรื่องงานศพแม่? หรือที่โกรธ...มันเป็นเพราะมึงคิดว่ากูไม่เห็นความสำคัญของมึง? งั้นกูจะบอกให้ว่ามึงสำคัญกับกูมาก...สำคัญมากจริงๆนะพัตเตอร์”
“มันไม่เกี่ยว! มึงจะเห็นความสำคัญของกูหรือไม่ มันเรื่องของมึง! แต่กูเป็นเพื่อนมึงไงเมโกะ...แม่มึงตาย ครอบครัวคนเดียวที่มึงมี...ตายไปจากโลกนี้แล้ว กูควรได้รับรู้ กูควรได้อยู่ตรงนั้นเพื่อดูแลและปลอบใจมึง เหมือนที่เพื่อนคนอื่นเขาทำ แต่มึง...มันเห็นแก่ตัว มึงเอาเรื่องความรู้สึกทุกอย่างมารวมกันหมด จนแยกแยะอะไรออกจากกันไม่ได้”
“มึงเลิกด่ากูสักทีได้ไหม?! กลับมาเจอกันทั้งที...มึงไม่แสดงออกว่าดีใจด้วยซ้ำที่ได้เจอกูอ่ะ! ถ้ามึงไม่อยากเจอกูก็พูดมาเลย! ไม่ต้องหาข้ออ้างมาโกรธกูหรอกไอ้พัต! มึงเป็นอะไรวะ? จะมาหาเรื่องทะเลาะกับกูทำไม?! ทั้งๆที่เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน...ทั้งที่กูรอจะเจอมึงมาตลอด!”
“มึงจะรอเจอกูทำไม?” พัตเตอร์ขบฟันกรามแน่น เอ่ยถามเมโกะออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เพราะกูอยากเจอมึงไง เพราะที่ผ่านมากูอาจคิดผิด...ที่จริง...กูอาจจะรู้สึกแบบเดียวกับมึงก็ได้ กูอาจจะชอบมึงก็ได้นะไอ้พัต” เมโกะช้อนสายตามองคนตัวสูง พยายามจะให้สายตาคู่นั้นมองเขา เพื่อให้เขาได้เห็นความรู้สึกที่อยู่ในภายใน
“กูไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับมึงแล้ว...ผ่านมาตั้งสี่ปี มึงไม่คิดว่ากูจะไปเจอใครใหม่ ที่เข้ากับกูได้ดีมากกว่ามึงเลยหรือไง?”
“มะ...หมายความว่าไง?”
“หมายความว่าตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึงแล้วไง...เราเป็นได้แค่เพื่อนกัน เพราะกูมีแฟนแล้ว” คำตอบของพัตเตอร์ทำเอาเมโกะนิ่งงัน ไปต่อไม่ถูก เจ็บจี๊ดลงที่อก...ชามาถึงใบหน้าราวกับว่าเธอโดนตบที่แก้มฉาดใหญ่
