บทที่ 5 ของหมั้นหมาย
"เศร้าเลยแบบนี้ พวกเราอดได้เป็นแฟนของทั้งสองคนแล้วหละ "
"ทำเอาพวกเราอิ่มเลย แบบที่กินข้าวไม่ลงเลยกลับห้องเรียนกันดีกว่าทุกคน"
"น้องมานาเฮเอลไม่ได้พูด เพื่อให้พวกเขาเลิกวุ้นวายกับพี่ใช่ไหม"
"ไม่คะ พูดจริงๆพี่ไม่เชื่อในสิ่งที่หนูพูดไปเหรอ ไม่ต้องห่วงหนูรักษาสัญญาแน่นอนค่ะ"
"งั้นพี่ขอมอบของหมั้นหมายไว้ก่อนเลยนะ ถ้าโตแล้วพี่จะมารับไปเป็นเจ้าสาว ห้ามถอดออกให้ใครรู้ไหม เพราะมันเป็นสิ่งแทนใจพี่และเป็นของรักของตระกูลพี่ที่เอาไว้ให้เจ้าสาวในอนาคตนะ"
"สำคัญขนาดนี้น้องไม่กล้ารับหรอกคะ"
"ไม่ได้เราต้องรับไว้ เพราะเราสาบานแล้วว่าจะเป็นเจ้าสาวให้พี่ พี่ต้องให้ของหมั้นหมายเราไว้ เพื่อกันคนอื่นมาแย่งเราไปนะ"
"พีชายก็คิดมากไป ใครจะมาแย่งได้ในเมื่อหนูสาบานไปแล้ว หนูจะผิดคำสาบานไม่ได้เดี่ยวพระเจ้าลงโทษไม่ดีถ้าผิดสัญญา"
"พี่รู้ว่าเราไม่ผิดคำพูด แต่พี่อยากทำให้มันถูกต้อง เพื่อที่พี่จะได้มั่นใจว่ามีเจ้าสาวแล้ว พ่อกับแม่จะได้เลิกหาให้พี่สักที"
"พวกเรานี้โตเกินตัวจริงๆ แม่หละตกใจเห็นเพื่อนๆลุ้มล้อมแบบนั้น แม่หละเป็นห่วงมากเลยรู้ไหม แต่พอได้ยินพวกเราพูดเมื่อกี้แล้ว แม่ก็สบายใจไม่ต้องห่วงแล้วว่า ใครจะมาแกล้งหลานชาย เพราะลูกแม่เล่นประกาศตัวเองขนาดนั้น ทำเอาแม่อายแทนเลยรู้ไหมที่มีลูกสาวใจกล้าแบบนี้นะ สองปีนี้พวกเราคงได้เรียนรู้กันมากขึ้น คงรักกันมากขึ้นด้วยแน่จริงไหมหลานชาย เอ้อไม่ใช่สิต้องเรียกใหม่ว่าลูกเขยถึงจะถูกใช่ไหมลูกสาวแม่"
"แม่ก็อย่ามาแซวหนูสิ หนูเขินนะที่ตัวเองเผลอตัวพูดกับทุกคนแบบนั้น พี่ชายห้ามงอนนะหนูอยากกจะเป็นเจ้าสาวให้พี่จริงๆ แค่ตอนนั้นใส่อารมณ์มากไปหน่อย อยากทำให้ทุกคนรู้ว่าพี่มีเจ้าสาวแน่นอนคะ"
"พี่ไม่งอนหรอก เราก็อย่าคิดมากเรื่องของหมั้นหมายเลยนะ เราใส่แล้วสวยดีจริงไหมครับท่านน้า"
"อืม สวยมากเป็นสร้อยคอที่แม่เคยเห็นตอนที่แม่ของเรา สวมมันตอนที่พ่อเราเอามาหมั้นไว้ตอนสาวๆ ก่อนที่จะมาขอแต่งงานไม่คิดว่าแม่ของเรา จะมอบมันให้เราเร็วแบบนี้ คิดว่าต้องให้โตรู้เรื่องกว่านี้เสียอีกนะ"
"ตอนนี้ผมก็โตรู้เรื่องแล้วครับ ถูกฝึกถูกสอนตั้งแต่จำความได้เลยครับ แถบจะไม่ได้มีเวลาทำตัวสบายเหมือนที่นี้เลยครับคุณน้า ผมชอบความเป็นอิสระแบบนี้ที่สุดเลยครับ"
"จ้าน้าเข้าใจ เอาเป็นว่าน้าให้น้องเขารับของหมั้นเราไว้ก่อนนะ แต่ถ้าเรามีคนที่พ่อกับแม่หมั้นหมายไว้ก่อนแล้ว หรือหลังจากนี้ไปเราเจอคนที่เรารักจริงๆ น้ากับน้องจะคืนของหมั้นนี้ให้เราดีไหม เราจะได้ไม่ต้องกังลว่าจะผิดคำพูดกับพวกเรา เพราะคนที่เสนอตัวเองต่างหากที่เป็นคนต้องรับผิดผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง จริงไหมลูกแม่พูดถูกใช่ไหม เราจะไม่ว่าอะไรพี่เขาใช่ไหมถ้าพี่เขาลืมว่าเราเป็นคู่หมั้นของเขา เมื่อตอนที่เขาโตลูกของแม่จะยังรักษาคำพูด จนกว่าพี่เขาจะมารับไปเป็นเจ้าสาว หรือมาขอรับของหมั้นไปให้สาวอื่น ลูกสาวแม่จะรักและอภัยให้พี่เขา ไม่ว่าเขาจะจำสัญญาได้หรือไม่ได้ใช่ไหมลูก"
"คะแม่ หนูจะรักและอภัยให้พี่เขาเสมอ ไม่ว่าวันนี้หรืออนาคต ไม่ว่าจะได้เป็นเจ้าสาวหรือไม่ได้เป็นคะแม่"
"ดีมากสมเป็นลูกสาวแม่ เอาเป็นว่ากินข้าวเสร็จกันแล้วก็ไปห้องเรียนกันได้แล้ว เจอกันตอนเลิกเรียนส่วนหลานชาย น้าไม่อยากให้เราสัญญาอะไรล่วงหน้าแบบน้องเขาหรอกนะ เพราะน้ารู้ดีว่าพ่อเรากับทุกคนที่บ้านเรา เขาอาจจะไม่เห็นด้วยหรือมีคนที่ดีกว่าน้องรอหมั้นหมายกับเราไว้แล้วก็เป็นได้นะ น้าให้เวลาเราสองปีที่อยู่ที่นี้ช่วยพิสูจน์ตัวเองว่ารักน้องจริงๆ ไม่ใช่หลงหรือแค่รู้สึกดีกับน้อง พ้นสองปีไปน้าถึงจะยอมรับว่าเราขอหมั้นน้องไว้เพราะรัก ไม่ใช่เพราะน้องต้องการเป็นเจ้าสาวของเรา แต่เป็นเพราะเราต้องการให้น้องเป็นเจ้าสาวจริงๆ น้าเชื่อว่าเราเข้าใจที่น้าพูดไปแน่นอน เพราะพวกเราสองคนโตเกินตัวกันอยู่แล้วจริงไหม"
"ครับ เข้าใจดีครับ ผมจะพิสูจน์ให้น้ายอมรับให้ได้ว่า ผมต้องการให้น้องมาเป็นเจ้าสาวจริงๆ ไม่ใช่แค่เล่นๆหรือแค่หลงแน่นอนครับ เพราะผมมั่นใจว่าความรู้สึกนี้คือความรัก แม้จะไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่คิดว่ามันคือพรมลิขิตที่ทำให้ผมได้พบกับน้องครับ"
"จ้าน้าจะรอดูนะ ว่าสองปีต่อจากนี้ใครจะปกป้องใคร ใครจะรักใครหวังว่าจะเป็นสองปีที่เราจะเข้าใจชีวิตของคนธรรมดาด้วยนะ"
"ครับน้า พวกเราขอตัวไปห้องเรียนก่อนนะครับ ผมจะปกป้องน้องและดูแลน้องเองครับต่อจากนี้ไป เพราะผมเป็นผู้ชายต้องปกป้องคนที่ตัวเองรักเหมือนที่พ่อปกป้องแม่และผมนะครับ"
"จ้า เรานี้นิสัยเหมือนพ่อกับแม่เราจริงๆ สมเป็นลูกชายสุดที่รักของพวกเขา"
"ไม่หรอกครับ ยังมีน้องชายน้องสาวที่ท่านพ่อท่านแม่รักมากกว่าผมครับ"
"เด็กโง่ พ่อกับแม่เรารักเรามากกว่าอะไรทั้งหมดเลยรู้ไหม ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ส่งเรามาหาน้าๆหรอก เพราะเขารู้ว่าเราจะเป็นคนที่ดีและนารักขึ้นถ้าอยู่กับพวกเรา เพราะพ่อกับแม่เราอยากให้เราได้มีอิสระ ในการเลือกและทำในสิ่งที่เราคิดจะทำและเป็นในอนาคตไง ไม่มีพ่อกับแม่คนไหนที่ไม่รักลูกหรอก พวกเขารักลูกเท่ากันน้าเชื่อเช่นนั้นนะ เพราะน้ารู็จักพ่อกับแม่เราดีที่สุด"
"ครับ ผมจะไม่คิดว่าพวกท่านลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันอีกแล้วครับ"
"ดีมาก ค่อยสมเป็นลูกของพวกเขาหน่อย"
"ทั้งสองคนคุยกันสนุก จนลืมหนูกันเลยนะค่ะ ไปเรียนกันดีกว่าพี่ชายค่อยไปคุยเรื่องท่านพ่อท่านแม่ของพี่ที่บ้านดีกว่านะ"
"อืม พวกเราขอตัวนะครับน้า"
"จ้า ลูกสาวแม่มีงอนแม่ด้วย เดียวเย็นนี้แม่จะทำของชอบลูก ไม่งอนพวกเรานะลูกรัก"
"ไม่งอนคะ แค่อยากเข้าห้องเรียนแล้ว เดียวมันจะไม่ทันเข้าห้องเรียน ไม่อยากให้ใครว่าพวกเราเป็นเด็กเกเรเข้าห้องเรียนสายคะ"
"น่ารักจริงลูกแม่ ไม่สายหรอกไปเรียนกันเถอะ"
"ครับ คะ"
