บทที่ 7 สั่งดอกไม้
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานดังลอดออกมาจากปลายสาย ในเวลาประมาณเกือบตีสอง ให้รอยยิ้มมุมปากของเธียรวิชญ์ยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงไม่คุ้นชินนักทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นั่นใครคะ” เธอถามเพื่อความแน่ใจ
“ผม เธียรวิชญ์ครับ” อันนาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งด้วยความแปลกใจ พลางหันมองนาฬิกา ที่บอกเวลาไว้เลขสอง
“ไม่ทราบว่ามีอะไรเหรอคะ” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่ายังคงขมวดคิ้วแปลกใจ
“พอดีว่า ผมให้ลูกน้องหาร้านบริการจัดดอกไม้ แล้วพบว่าร้านของคุณน่าสนใจดี ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้มีคิวจัดที่ไหนไหมครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนถามหญิงสาวด้วยน้ำคำแสนสุภาพ อันนายังคงเลื่อนสายตามองนาฬิกา ก่อนอีกฝ่ายจะกล่าวเสริม
“ผมจะให้มาจัดที่บ้านของผม ส่วนเรื่องราคานั้น ผมให้เพิ่มจากราคาปกติเป็นสองเท่า” เมื่อได้ยินดังนั้น ปากของเธอก็ยกยิ้มขึ้นมา ด้วยความดีใจ
“ว่าง..ว่างค่ะ” หญิงสาวตอบรับในทันที เพราะเดือนนี้กำไรที่ร้านใกล้จะติดลบ หากได้งานนี้ อาจจะทำให้มีเงินมาหมุนจ่ายค่าแรงลูกน้องโดยไม่ต้องควักทุน
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นเจ้าของร้านใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ผมอยากได้การจัดดอกไม้ฝีมือของคุณ ไม่อยากได้ฝีมือของลูกน้อง รบกวนคุณมาด้วยตัวเองนะครับ ส่วนเรื่องเงินผมยังยืนยันคำเดิม” น้ำเสียงราบเรียบของเธียรวิชญ์ ทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกระแคะระคายสิ่งใดยิ่งมีเงินเป็นตัวล่อ ยิ่งทำให้อันนารีบคว้างานนี้ไว้โดยไม่ไตร่ตรอง
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาค่ะ รบกวนคุณลูกค้าช่วยส่งโลเคชั่นมาให้ดิฉันด้วยนะคะ”
“ผมขอเป็นช่วงเช้า ประมาณเก้าโมงจะได้ไหม”
“ได้ค่ะ” หลังจากคุยรายละเอียดเพิ่มเติมของลูกค้าคนสำคัญจบ สายก็ตัดไป อันนานั่งนิ่งทบทวนครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
“ความบังเอิญอาจจะมีอยู่จริง เขาจะรู้ไหมนะว่าเป็นฉัน คนพึ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้” หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะวางมือถือลงแล้วเอนกายพักผ่อน แค่เสียงของเขาเธอก็จำได้อย่างขึ้นใจ
“เสียงแบบนี้จะมีใครนอกจากเขา เธียรวิชญ์ ภักดีขจร เจ้าของบ่อนที่กัมพูชา” ร่างบางพูดเสียงบางเบา ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายแล้วหลับไป
เธียรวิชญ์ยกแอลกอฮอล์ขึ้นดื่ม พร้อมกับเปิดทีวีที่มีแต่ภาพ เขาต้องการความเงียบและใช้ความคิด เพื่อไตร่ตรองบางอย่าง ก่อนเสียงมือถือจะดังขึ้น
“ว่าไงวิชิต”
“เรียบร้อยแล้วนะครับนายใหญ่ พรุ่งนี้เช้านายเข้ามาพักที่บ้านได้เลย ผมให้คนจัดการทำความสะอาดทั้งหมดแล้ว”
“ขอบใจ” หลังจากการ์ดวางสายไปแล้ว เธียรวิชญ์ก็เดินไปหยิบขวดแอลกอฮอล์ในตู้มาเปิดอีก เธียรวิชญ์เป็นหนุ่มรูปงาม มีสาว ๆ มาติดพันมากมายตั้งแต่สมัยเรียน ทว่าด้วยความมุ่งมั่นอยากหาความมั่นคงให้กับชีวิต จึงเลือกเดินในเส้นทางสีเทา และไม่ชายตามองผู้หญิงคนไหน เพียงเพราะไม่ต้องการ ให้จุดหมายของเขาไขว้เขว
และวันนี้เขาก็ทำมันสำเร็จ อันนาจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาคิดเข้าไปติดพัน ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เขากังวลใจมากนัก ผู้ที่พร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติอย่างเขา เพียงแค่กระดิกมือ มีหรือเธอจะไม่เดินเข้ามาหา
อันนาตื่นตั้งแต่เช้า ก่อนขับรถมุ่งตรงไปยังร้านดอกไม้ของตัวเอง ซึ่งลูกน้องได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ตามที่หญิงสาวกำหนด เธอเดินตรวจสอบสิ่งของต่าง ๆ อีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าครบถ้วนดีแล้ว ก่อนเด็กในร้านจะชะเง้อคอมองด้วยความแปลกใจ
“คุณอันนาคะ ดอกไม้เยอะขนาดนี้ ลูกค้าจะเอาไปทำอะไรคะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ลูกค้าบอกว่าขนไปให้หมด แล้วพอถึงหน้างานก็จะแจ้งอีกทีว่าจะเอารูปแบบไหน เออ..จริงสิ เดี๋ยวพินไปกับฉันคนเดียวก็พอนะ”
