บทที่ 17 ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
“มาแล้วเหรอคะ” เธียรวิชญ์ชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์ของอันนายิ้มต้อนรับ พร้อมกับอาหารหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ
“คุณทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ” ชายหนุ่มทอดสายตาจับจ้อง ไปยังควันโชยฟุ้งที่ขึ้นจากอาหารเหล่านั้น
“อย่าพึ่งชมสิคะ ถ้ายังไม่ได้ชิม มานั่งก่อนค่ะ” อันนาจูงมือชายหนุ่มเข้ามานั่งยังเก้าอี้ ก่อนจะตักข้าวสวยร้อน ๆ ให้ แล้วเดินมานั่งประจำที่ตัวเอง พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าคาง จับจ้องไปยังชายหนุ่มด้วยความหวังว่าจะได้รับคำชม ช่วงเวลานี้ทำให้เธียรวิชญ์เห็นความเป็นธรรมชาติของอันนามากที่สุด
“ชิมสิคะ”
“ผมควรชิมอันไหนก่อนดี” ชายหนุ่มประหม่าเล็กน้อย ก่อนอันนาจะเอื้อมมาตักต้มจืดให้เขาลองชิมก่อน เพียงคำแรกเท่านั้นรสสัมผัสแตกซ่านในปาก เป็นรสชาติที่เขารู้สึกพอใจอย่างมาก
“เป็นไงคะ ฝีมือฉันอร่อยไหมคะ” หญิงสาวทำตาปริบ ๆ รอคำตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะวางช้อน แล้วจ้องมองเธอกลับ
“อร่อยมาก ผมว่าคุณควรเปิดร้านอาหารไทยที่นี่ดีไหม” สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาทำเอาอันนาจับได้
“งานดอกไม้ยังไม่ได้เริ่มเลย จะให้ฉันทำอย่างอื่นอีกคงไม่ได้ ฉันมีเวลาในกัมพูชาแค่สามเดือนเท่านั้น คุณพ่ออนุญาตให้อยู่ได้เท่านี้” หญิงสาวมุ่ยหน้า พลางตักอาหารเข้าปาก ส่วนเธียรวิชญ์ค่อย ๆ เก็บข้อมูลจากเธอทีละนิด
“พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง แต่จะให้คนพาคุณไปดูตลาดดอกไม้ที่ว่า ส่วนเรื่องภาษาไม่ต้องห่วง คนของผมจะช่วยคุณเอง” อันนาเหลือบมองชายหนุ่มด้วยความประทับใจ แม้น้ำเสียงจะไม่อ่อนหวานนัก แต่เธอก็พอเข้าใจได้ว่านั่นเป็นลักษณะนิสัยของเขา
“ขอบคุณนะคะ” ก่อนจะตักไก่ทอดชิ้นพอดี ให้กับเขาเป็นการตอบแทน ก่อนรอยยิ้มอบอุ่นของเธียรวิชญ์จะตอบกลับมา
“ถ้าไม่รู้สึกอะไร อย่าทำแบบนี้บ่อย ๆ นะ ผมหวั่นไหว” เขาพูดเสียงเรียบ แต่ก็ทำให้อันนารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ต้องบังคับ เธอเบี่ยงหน้าไปทางอื่นพลางเม้มปากแน่น กิริยาน่ารักแบบนี้ทำให้เธียรวิชญ์เผลอยิ้ม ก่อนจะก้มตักอาหารทานต่อ
“กรี๊ด” เสียงแหลมของวีดา แผดออกมาจนวิชิตที่นั่งอยู่ด้านข้างสะดุ้งตกใจ
“เป็นบ้าอะไร” เขาตวาดกลับมาอย่างกะทันหันด้วยความตกใจ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“เป็นคนของนายใหญ่ คุณจะทำไม” เมื่ออีกฝ่ายตั้งสติได้จึงหันกลับมาตอบ
“ฉันไม่เชื่อ นายใหญ่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้ามา ทั้งชีวิตของนายใหญ่ ผู้หญิงที่สนิทกับเขาก็มีแค่ฉัน”
“หยุดเพ้อฝัน ถึงอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้สักทีได้ไหมวีดา”
“บอกฉันมาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“อยากรู้ก็ไปถามนายใหญ่เอาเอง” วิชิตทำท่าเบี่ยงตัวเดินออก ก่อนที่หญิงสาวจะคว้ามือเอาไว้ได้ทัน
“วิชิต นายเป็นคนสนิทของนายใหญ่ ฉันไม่เชื่อว่านายจะไม่รู้เรื่อง บอกฉันมา ว่านายใหญ่คว้าผู้หญิงคนนี้มาจากที่ไหน เขาเอาผู้หญิงคนนั้นมาเพื่ออะไร ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่ามันจะเป็นเพราะความรัก”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
“ตกลงนายจะไม่บอกฉันใช่ไหม” หญิงสาวเสียงสั่นเครือ หัวใจกำลังร้อนรุ่ม เคยหลงคิดว่าความสามารถที่มี ไม่นานจะสามารถเอาชนะใจของเธียรวิชญ์ได้ เธอทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เขาเห็นความสำคัญ แต่มาในวันนี้เหมือนสิ่งที่ทำมากำลังไร้ค่า
“คุณเลิกฝัน ว่าจะครองใจนายใหญ่ได้แล้ววีดา มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“แต่ฉันเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ฉันเป็นคนเก่งอย่างนายใหญ่ต้องการ ทำไมฉันจะไม่มีโอกาส ถ้าไม่มีคนอื่นเข้ามาแทรก”
“คุณคิดว่ามันจะเหมือนในละครงั้นเหรอ ที่พระเอกต้องตกหลุมรักคนที่ช่วยชีวิตเขา นายใหญ่ของเราไม่ใช่คนแบบนั้น ตัดใจเถอะ” วิชิตสลัดมือของวีดาออก แล้วหันตัวเดินลงไปตรวจตราความเรียบร้อยยังด้านล่าง ปล่อยให้หญิงสาวใช้เวลาทบทวนสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
หลังจากที่เธียรวิชญ์ นั่งรับประทานอาหารกับอันนาอย่างเรียบง่าย ภายในห้องพักราคาแพงที่เขาเตรียมไว้ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก ด้วยอาหารมื้อนี้มีรสชาติกลาง ๆ อย่างที่เขาชอบ ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มพลางมองตรงไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้า
“ขอบคุณ สำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ” หญิงสาวพยักหน้า ก่อนจะเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำบางอย่าง
