บทที่ 16 คนเคยช่วยชีวิต
“ผมสืบมาได้ว่า เธอเป็นคนมอบทุนการศึกษาให้กับลูกพี่ลูกน้องของผมจนจบหมอ และเด็กยากไร้อีกหลายคนที่อยู่ในการอุปการะของเธอ หากเธอเป็นอะไรไป ผมกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อคนพวกนั้นครับ” วิชิตก้มหน้าพูดตรง ๆ
“ถ้าคิดจะอยู่กับฉัน อย่าหัดเป็นคนใจอ่อน ถ้าอยู่ไม่ไหวก็ออกไปซะ ฉันจะให้คนอื่นทำหน้าที่แทน”
“นายใหญ่ครับ” วิชิตแสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ผมจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง อย่าไล่ผมไปไหนเลยนะครับ ตอนนี้ ส.ส.องอาจติดต่อกลับมาแล้ว บอกให้เราดำเนินการสร้างกาสิโนที่นั่นได้เลย มันรับรองว่าตำรวจจะไม่มายุ่งกับกาสิโนของพวกเราแน่นอน” เธียรวิชญ์ยิ้มมุมปาก
“งั้นฉันมอบหมายงานนี้ให้กับนาย ส่งคนไปสร้างได้เลย เอาให้ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ให้มันตายใจที่สุด เก็บหลักฐานการคุยทั้งหมดให้ได้มากที่สุด”
“ครับนายใหญ่”
อันนาหันไปเปิดตู้เย็น พบกับวัตถุดิบจำนวนมากกักตุนอยู่ อาจเป็นเพราะเธียรวิชญ์สั่งให้คนจัดหาเอาไว้ให้ก่อนหน้าแล้ว เธอหยิบออกมากองไว้จำนวนหนึ่ง แล้วนึกบางอย่างได้ จึงรีบไลน์หาชายหนุ่มในทันที
“คุณเธียรคะ วันนี้ทานข้าวที่ห้องฉันนะ ตอบแทนที่คุณดูแลฉันอย่างดี”
“ครับ” เขาตอบกลับแทบในทันที ทำให้อีกฝ่ายเผยยิ้มหวานอย่างมีความสุข หญิงสาวหันกลับไปหยิบผักและเนื้อสดบางส่วนออกมาจัดการล้างทำความสะอาด เครื่องดูดควันพร้อมทำงานในทันทีที่เธอเปิดเตา
“ท่านครับ ทางนั้นติดต่อมาแล้วว่าจะเข้ามาต่อเติมโครงสร้างกาสิโนภายในสัปดาห์หน้า” คนสนิทของนายองอาจเข้ามารายงานความคืบหน้า
“ดี ตอนนี้ลูกสาวฉันไม่อยู่ จะทำอะไรก็รีบทำ อันนาเป็นคนช่างสังเกต พวกนายทุกคนอย่าพูดเรื่องนี้ กับฉันภายในบ้านอย่างเด็ดขาด ฉันไม่ต้องการให้ลูกสาวรับรู้เรื่องพวกนี้”
“ครับท่าน แล้ว...”
“อะไร” เสียงเข้มของท่าน ส.ส. ทำให้คนสนิทก้มหน้าลงเล็กน้อย
“ทางนั้นทวงถามว่า ท่านแน่ใจใช่ไหมว่าตำรวจจะไม่เข้าไปยุ่งกับกาสิโน ดูมันจะห่วงเรื่องนี้เป็นพิเศษ”
“ฉันก็รับรองไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง กลับไปบอกมันว่าฉันรับรองด้วยชีวิตของฉันเอง”
อันนารวบผมขึ้น เพื่อไม่ให้เกะกะระหว่างการทำอาหาร พลางหยิบที่คาดผมลายสีชมพูน่ารักขึ้นมาคาดไว้อีกทบหนึ่ง ควันพุ่งโชยขึ้นจากเตาส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่ว หญิงสาวตักขึ้นชิมก่อนจะปล่อยยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ มือบางตักอาหารลงใส่ชามด้วยความระมัดระวัง พลางหันไปมองนาฬิกา ก่อนจะกดมือถือโทรหาเธียรวิชญ์
“อาหารพร้อมแล้วนะคะ”
“เดี๋ยวผมเข้าไป” ชายหนุ่มกดวางสายหญิงสาว ก่อนจะหันมาเจอกับวีดา ที่ยืนนิ่งมองตรงมาเหมือนมีบางอย่างในใจ
“วีดา คุณไม่ไปทำงานเหรอ เวลานี้ลูกค้าเยอะ มายืนอะไรตรงนี้” วีดาเป็นผู้จัดการกาสิโนแห่งนี้ เธอมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนเขาหลายอย่าง และทำงานกับเขามาหลายปีจนเป็นไว้วางใจอยู่ไม่น้อย
“ผู้หญิงคนนั้นใครคะ” หญิงสาวหุ่นดี ผอมบางผิวขาวละเอียดถามเธียรวิชญ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไม่เกี่ยวกับคุณ หน้าที่ของคุณคือเป็นผู้จัดการกาสิโนของผม ไม่ใช่ผู้จัดการชีวิตผม” เธียรวิชญ์เดินผ่านหญิงสาวไปเหมือนกับเธอเป็นเพียงอากาศธาตุ
“แต่ฉันเคยช่วยชีวิตคุณไว้ จะไม่ตอบคำถามฉันหน่อยเหรอคะ ว่าเธอเป็นใคร” สายตาส่อระส่ำของวีดา มองตรงมายังชายหนุ่มด้วยความน้อยใจบางอย่าง
“ผมไม่เคยลืมบุญคุณในครั้งนั้น ว่าคุณเคยชีวิตผมไว้” เธียรวิชญ์หันตัวกลับมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พลางก้าวเท้ามาหาวีดาช้า ๆ
“ผมถึงตอบแทน ให้คุณเป็นผู้จัดการกาสิโน มีสิทธิตัดสินใจแทนผมในหลาย ๆ เรื่อง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของผม เรื่องบุญคุณนั้นผมไม่เคยลืม” เธียรวิชญ์พูดจบจึงหันตัวเดินตรงไปยังห้องของอันนาทันที ปล่อยให้วีดายืนกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ
เธอหลงรักเขามานานหลายปี ทำทุกอย่างเพื่อให้เธียรวิชญ์พอใจ หากแต่เขาไม่เคยชายตามองหญิงใด แม้แต่ตัวเธอเองที่พยายามทอดสะพานให้มาตลอด หญิงสาวยังคงทอดสายตามองเธียรวิชญ์เดินหายลับเข้าไปยังห้องของอันนา ก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม
