บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 กาสิโนที่ใหญ่โต

หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า อันนานั่งมองลงไปยังเบื้องล่าง พร้อมหอบเอาความหวังทั้งหมดมาด้วยความมั่นใจ เธอจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ก่อนมือหนาของคนด้านข้างจะเอื้อมมาจับ

“ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะช่วยคุณทุกอย่าง”

“ขอบคุณนะคะคุณเธียร” ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย ใบหน้าสวยหวานของอันนา แสดงออกมาอย่างสดใส เขาเผลอมองครู่หนึ่งก่อนจะหันไปอ่านหนังสือ พลางเหยียดขาในท่าสบาย

หลังจากนั้นมีรถมารับทั้งสองถึงสนามบิน ในเวลานี้อันนาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเขาค่อนข้างมีอิทธิพลพอสมควร การ์ดหลายคนเดินเข้ามาล้อมตัวเขาพร้อมกับก้มเคารพทักทาย ก่อนจะยกกระเป๋าของทั้งสองขึ้นรถคันหรู พร้อมแล่นออกจากสนามบินตรงมายังกาสิโนขนาดใหญ่

อันนามองกาสิโนแห่งนี้ด้วยความตกตะลึง เพราะเป็นกาสิโนที่ใหญ่มาก การดูแลรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวดเลยทีเดียว หลังจากเธียรวิชญ์เดินเข้าไป พนักงานทุกคนต่างก้มต้อนรับด้วยความเป็นระเบียบ เขาเปรียบเสมือนกับราชาที่รวยมหาศาลมีแต่คนเคารพ หญิงสาวเดินตามหลังชายหนุ่มไป พร้อมกับเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นชิน เธอหันซ้ายแลขวามอง ตรงเข้ามายังชั้นสามของตึก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนโผล่มายังอีกโลกหนึ่ง ทุกอย่างเพียบพร้อมและหรูหราอย่างไม่น่าเชื่อ

“ห้องนี้เป็นของคุณนะ ผมยกให้”

“ยกให้...เหรอคะ” หญิงสาวหันมองไปภายในห้อง ด้วยความตกตะลึง เป็นลักษณะห้องที่มีพื้นที่ใช้ช้อยกว้างขวาง อีกทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ว่ากันว่าเขาร่ำรวยมหาศาลและเป็นผู้มีอิทธิพลมากนั้นเป็นเรื่องจริง มิได้เสริมเติมแต่งแต่อย่างใด

“คุณอยู่ที่นี่อย่างสบายใจได้เลยนะ ถือว่าผมเป็นเพื่อนสนิทของคุณก็แล้วกัน ส่วนห้องของผมอยู่อีกด้านหนึ่ง” เธียรวิชญ์พูดพลางเดินเข้าไปจับมืออันนา พร้อมกับสายตาเบิกกว้างของเหล่าพนักงานของเขา ที่หันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

“พวกเธอออกไปทำงานกันได้แล้ว ฉันขอเวลาส่วนตัว” ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าไปยังพนักงานของเขาเล็กน้อย

“ได้ค่ะ นายใหญ่” เหล่าแม่บ้านและการ์ดแยกย้ายกันออกไปทำหน้าที่ ปล่อยให้เธียรวิชญ์และอันนาอยู่กันตามลำพัง หญิงสาวเดินสำรวจห้อง ก่อนเดินไปหยุดที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ทอดสายตาไปยังถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน เดินกันขวักไขว่ ไม่น่าเชื่อว่ากัมพูชาจะเจริญกว่าที่คิดไว้มาก

“ไม่ไกลจากตลาดนี้ จะมีชุมชนที่ส่งดอกไม้สดจำนวนมาก คนของผมจะพาคุณไปเมื่อคุณต้องการ” เธียรวิชญ์เดินเข้ามาจากด้านหลัง แล้วบอกอันนาด้วยน้ำคำแสนอบอุ่นเช่นเคย

“ทำไมคุณต้องทำขนาดนี้คะ ความจริงแล้วคุณไม่ต้องดูแลฉันขนาดนี้เลยก็ได้”

“ก็ถ้าคุณไม่สำคัญสำหรับผม ผมก็คงไม่ดูแลขนาดนี้” คำพูดของเธียรวิชญ์ทำให้อันนารู้สึกใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก

“หมายความว่าไงคะ” เธียรวิชญ์เบี่ยงตัวเดินออกมานั่งยังโซฟาในท่าสบาย

“ผมทำขนาดนี้แล้ว คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าผมคิดอะไรกับคุณ” หญิงสาวนิ่งเงียบพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาและ ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

“ผมจะไม่ถาม ว่าคุณรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า แค่ให้คุณรู้ไว้ว่าคุณเป็นคนพิเศษสำหรับผมก็พอ แล้วถ้าวันไหนคุณพร้อมขอให้บอก ผมจะรอวันนั้นโดยไม่เร่งรัดอะไรคุณเลย” อันนาสบสายตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของเขาอยู่ไม่น้อย หากแต่ต้องรักษากิริยาไว้ จึงไม่ตอบโต้เขา ได้แต่หันใบหน้าหวานกลับมายังถนนแห่งนั้น

“คุณตามสบายเลยนะ เดี๋ยวค่ำ ๆ ผมจะมารับไปทานข้าว”

“เดี๋ยวค่ะคุณเธียร” หญิงสาวหันมาเรียกเขา หากแต่ไม่ทันการณ์ ชายหนุ่มเดินหายลับออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เธอใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในห้องอันกว้างขวางเพียงผู้เดียว

“นายใหญ่ครับ นั่นคุณอันนา เธอยอมมาจริง ๆ เหรอครับ” วิชิตพูดพลางไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากเห็นเธียรวิชญ์เดินเข้ามาในห้องพักที่อยู่ไม่ไกลกับห้องของอันนาเท่าไหร่นัก

“มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธฉันด้วยงั้นเหรอ” เธียรวิชญ์หันหน้าเข้ม มาตอบการ์ดคนสนิท พลางเอนกายเปิดทีวีดูอย่างสบายใจ

“นายใหญ่จะทำอะไร”

“แก้แค้น” เขาพูดอย่างไม่สะทกสะท้านพลางหยิบแอลกอฮอล์ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ขึ้นมาดื่ม

“คุณอันนาเธอเป็นคนดีจริง ๆ นะครับ”

“น่ารำคาญ พูดอยู่ได้ว่าเธอเป็นคนดี คนดีแล้วยังไง คนไม่ดีแล้วยังไง สุดท้ายแล้วทุกคนก็วิ่งเข้าหาผลประโยชน์กันทั้งนั้น” เธียรวิชญ์วางแก้วลง แล้วหันมองวิชิตอย่างไม่พอใจ

“มีอะไร ทำไมถึงเข้าข้างเธอนัก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel