บทที่ 7 ออกเดินทาง
เช้าวันรุ่งขึ้นรินดารีบตื่นแต่เช้า เธอเลือกที่จะอาบน้ำแต่งตัวที่โรงพยาบาลเพื่อไปทำงานเลย และทิ้งให้ภูวิศอยู่ที่นี่เพราะวันนี้เธอต้องเดินทางไปที่ภูเก็ต คนตัวเล็กเดินเข้ามาหาคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง พลางเอามือสะกิดเขาให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล
“นี่คุณ...คุณ”
ภูวิศค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ มองหน้าคนตัวเล็ก ที่มาก่อกวนให้เขาตื่นจากการนอนหลับ พลางทำคิ้วยู่ขมวดเข้าหากันเป็นปม
“มาปลุกผมทำไมเนี่ย”
ภูวิศเอ่ยออกมาอย่างหัวเสียที่ถูกปลุกขึ้นมา เขากำลังนอนหลับสบายเลยเชียว
“ฉันจะบอกว่าฉันต้องไปแล้ว วันนี้ฉันต้องไปทำงานที่ภูเก็ต เดี๋ยวคุณให้เพื่อนคุณมาเฝ้าคุณแทนแล้วกันนะ ฉันอยู่ด้วยไม่ได้จริงๆ”
คนบนเตียงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถึงว่าสิทำไมมานอนโรงพยาบาลแค่อีกคืนเดียว ขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาเชียว ที่แท้ต้องไปทำงานต่างจังหวัดนี่เอง
“ออ...ได้ๆ ผมดีขึ้นแล้วแหละ วันนี้หมอคงให้กลับแล้ว เดี๋ยวให้เพื่อนผมมารับก็ได้”
“โอเคงั้นฉันไปก่อนนะ...ขอให้โชคดี หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะ”
รินดายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พลางยกมือขึ้นมาบ๊ายบายเขา ก่อนที่จะยิ้มให้ภูวิศจนตาหยี ภูวิศถึงกับยิ้มร่าเมื่อเห็นท่าทางราวกับเด็กน้อยของรินดา
“ทำอย่างกับผมอยากเจอคุณงั้นแหละ หึๆ”
“เหรอ...งั้นฉันเปลี่ยนใจดีกว่า หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ...บาย”
พูดจบเธอไม่รอช้ารีบลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกไปจากห้องพักผู้ป่วยทันที ภูวิศได้แต่นอนมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินหายลับไป พลางส่ายหัวไปมากับท่าทีเหมือนเด็กของรินดา
“ยัยเด็กกะโปโลเอ๊ย”
พอรินดาออกจากห้องไป ภูวิศก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนหัวเตียง มาต่อสายหาวายุลูกน้องของเขาทันที ความจริงเขาให้ลูกน้องมาอยู่เฝ้าเขาก็ได้ แต่แค่อยากแกล้งรินดาก็เท่านั้น
“ฮัลโหล มึงมาโรงพยาบาลไอ้หมอธันวาหน่อย”
(ไปทำไมครับนาย)
“ถามมาก...กูนอนโรงพยาบาลมาสองคืนแล้ว มารับกูกลับคอนโดหน่อย”
(นายเป็นอะไรครับ ทำไมไม่โทรบอกผม)
“ท้องเสีย...รีบมากูอยากกลับคอนโดแล้ว”
พูดจบเขาก็กดปุ่มวางสายทันที
.
.
ณ สนามบิน
“เกือบตกเครื่อง”
รินดาเดินเข้าเกทไป แล้วขึ้นเครื่องไปนั่งในห้องโดยสารที่จองไว้ติดริมหน้าต่าง ตอนนี้เธออยากจะหลับเต็มทนแล้ว วันหยุดที่เธอควรได้พักอย่างสบายๆ กลับกลายต้องมาเป็นคนคอยดูแลภูวิศ แล้ววันนี้ยังต้องมาทำงานต่างจังหวัดอีก เป็นอะไรที่โคตรเฮ็งซวยสำหรับเธอเลยก็ว่าได้
“ไม่น่าแกล้งพาไปกินหมูกระทะเลย กรรมตามสนองต้องไปนอนเฝ้าไข้เขาตั้งสองคืน เฮ้อ!!”
คนตัวเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเอาที่ปิดตามาปิดตาตัวเองเพื่อที่จะนอนหลับ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีกระเป๋าหนึ่งหล่นมาใส่ตัวเธออย่างจัง
“ขอโทษครับๆ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่ม รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่งราว 180 เซนติเมตร ผิวขาวออร่าราวกับดาราเกาหลี รินดายิ้มให้ตาหยีเพราะรัศมีความหล่อของเขา ทำให้เธอให้อภัยผู้ชายคนนี้ในพริบตา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ เธอ ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้รินดา ที่ตอนนี้เอาที่ปิดตาออกแล้ว
“ไปเที่ยวเหรอครับ”
เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มหู พลางส่งยิ้มหวานให้เธอ รอยยิ้มนี้มันช่างสะกดใจหญิงสาว ให้รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมาทันที ผู้ชายอะไรยิ้มได้ละลายใจขนาดนี้ โคตรโชคดีได้นั่งใกล้ผู้ชายหล่อๆ เธอคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ไปทำงานค่ะ”
“ออ...เหมือนกันเลย”
เขาตอบเสียงเรียบพลางจับระเบียบร่างกายตัวเองให้เข้าที่
“ผมน่านฟ้านะครับ คุณ....”
“รินดาค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“เช่นกันค่ะ”
พูดจบคนตัวเล็กก็หันหน้ากลับไปมองตรง แล้วหลับตาลงช้าๆ น่านฟ้าแอบมองรินดา ที่กำลังนอนหลับอยู่เงียบๆ พลางนึกในใจเขาถูกใจผู้หญิงคนนี้ จนอยากจะขอคอนแทคไว้ติดต่อ แต่ก็กลัวว่าเธอจะกลัวเพราะเพิ่งรู้จักกันเอง
ไม่นานเครื่องก็ลงจอดที่รันเวย์ของสนามบินภูเก็ต ทุกคนทยอยเดินออกจากห้องโดยสาร ส่วนรินดาที่พยายามเอามือเอื้อมไปหยิบกระเป๋าใบเล็ก ที่ถือขึ้นเครื่องออกมาจากชั้นวางของ มันไหลเข้าไปอยู่ในซอกหลืบ แต่ด้วยความตัวสูงไม่มากนักของเธอ จึงทำให้เอาออกมาได้อย่างยากลำบาก
“เดี๋ยวผมหยิบให้ครับ”
น่านฟ้าอาสาหยิบกระเป๋าให้รินดา พลางช่วยเธอถือกระเป๋าเดินออกไปพร้อมๆ กัน ระหว่างทางสองคนพูดคุยทำความรู้จักกัน ในที่สุดน่านฟ้าก็ได้เบอร์โทรศัพท์มือถือจากรินดามาจนได้
“ไว้เดี๋ยวว่างๆ ผมโทรหานะครับ”
“ค่ะ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินแยกทางกันออกไป รินดาเดินไปที่รถของบริษัทที่เตรียมไว้ให้เพื่อที่จะเข้าเช็คอินที่โรงแรม ก่อนที่จะเริ่มเข้าไปที่ไซด์งาน เธอขับออกมาจากสนามบินไม่นานก็ถึงโรงแรม และทำการเช็คอินเข้าห้องพักทันที เหมือนสวรรค์เมื่อถึงห้องเธอรีบวิ่งกระโดดไปที่เตียงนุ่ม นอนแผ่หลาอยู่ประมาณห้านาที ตอนนี้เตียงมันกำลังจะดูดวิญญาณเธอให้หลับใหล
“ขอนอนก่อนได้ไหมค่อยทำงาน งื้อออออ”
คนตัวเล็กบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ดิ้นพล่านไปมาราวกับเด็กน้อย ตอนนี้เธอขี้เกียจมากๆ อยากจะนอนพักก่อนไหนๆ ก็เดินทางมาเหนื่อยแล้ว จึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ค่อยเข้าไปทำงานก็แล้วกัน วันนี้ของนอนเล่นสักวันนึงก่อนคงไม่เป็นอะไรมั้ง แอร์เย็นปะทะใบหน้ามนของคนตัวเล็ก ไม่นานรินดาก็เผลอหลับลงอย่างง่ายดาย
ครืดดดดด....ครืดดดดด....ครืดดดดด
เสียงสายโทรศัพท์เข้าในกระเป๋าสะพายของรินดา เธอลืมตาตื่นขึ้นแล้วลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์มือถือ เป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นตา
“หรือว่าคุณน่านฟ้า”
คนตัวเล็กคิดในใจ พลางกดปุ่มรับสายทันที
“สวัสดีค่ะ รินดาพูดสายค่ะ”
(สวัสดีครับ ตอนนี้ถึงที่ทำงานรึยัง?)
เสียงผู้ชายปลายสายเอ่ยถามขึ้นมาทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วยู่เข้าหากัน นั่นใครกัน?
“คุณน่านฟ้าเหรอคะ?”
(น่านฟ้าไหน? ...ผมภูวิศ จะโทรมาถามว่าถึงที่ทำงานหรือยัง)
“เกี่ยวอะไรกับคุณ ฉันไม่จำเป็นต้องรายงานคุณนะคะ”
(ผมแค่เป็นห่วง อุตส่าห์โทรถามดีๆ)
“ห่วงเด็กกะโปโลอย่างฉันด้วยเหรอ?”
รินดายกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย พลางทำหัวเราะร่าออกมาเสียงดัง
(......เออน่า ถึงรึยัง?)
“ถึงโรงแรมแล้ว วันนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงาน ค่อยไปพรุ่งนี้มีอะไรอีกไหม ฉันจะได้วางสาย”
(รถผมจอดอยู่บ้านคุณ คุณกลับวันไหนเดี๋ยวผมเข้าไปเอา)
“เออจริงด้วย...ฉันลืมทิ้งกุญแจบ้านไว้ให้เลย ฉันกลับวันศุกร์เลยคุณ”
“เอ๊ะ!!!...ว่าแต่เอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ย?”
รินดาอดสงสัยไม่ได้ว่าภูวิศเอาเบอร์เธอมาจากไหน ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่เคยให้ไว้ด้วยซ้ำ แล้วเขาไปเอาเบอร์เธอมาจากไหนกัน
(บอกแล้วไงไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้วไม่รู้ ไม่มีอะไรที่ผมอยากได้แล้วไม่ได้)
ภูวิศเอ่ยออกมาอย่างกวนๆ ทำน้ำเสียงยียวนกวนประสาทรินดา
“จิ๊!!...กวนประสาทกันได้ตลอดจริงๆ ฉันกลับวันศุกร์ถ้าถึงบ้านเดี๋ยวโทรหา แค่นี้นะ”
พูดจบรินดาก็กดปุ่มวางสายทันที ไม่รอให้คนปลายสายได้พูดอะไรต่อ มือถือเครื่องหรูถูกโยนไปที่เตียงนุ่ม ก่อนที่รินดาจะเดินเข้าไปอาบน้ำ แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงโทรศัพท์เข้ามาอีกครั้ง
“หึ๊ย!!...จะโทรมาทำไมนักหนาเนี่ย พูดไม่รู้เรื่องรึยังไงนะ”
คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาที่เตียง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่มันไม่ใช่เบอร์ของภูวิศ เป็นเบอร์ของพี่ที่บริษัทเธอเอง
“สวัสดีค่ะพี่ชาญชัย”
(น้องดาถึงไหนแล้วครับ วันนี้ช่วงบ่ายเข้ามาด้วยนะครับ เจ้าของโครงการเขามาที่ไซด์งานวันนี้”
รินดาถึงกับหน้ายู่ทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนปลายสาย เธอกะจะนอนพักเอาแรงสักวัน แต่กับต้องเข้าไซด์งานตอนบ่ายเหมือนเดิม
“ถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวบ่ายดาเข้าไปค่ะ”
(โอเคครับ แค่นี้นะครับ)
“ค่ะ”
พูดจบนิ้วเรียวก็กดปุ่มวางสายทันที คนตัวเล็กกระแทกก้นนั่งอยู่ที่ปลายเตียงอย่างไม่สบอารมณ์ ดีนะที่เธอได้งีบไปพักหนึ่ง ไม่อย่างงั้นคงได้ไปยืนหาวให้ชาวบ้านดูแน่ๆ
_________________
ไหนบอกไม่สนใจน้องไง จะโทรถามทำไมไม่ทราบยะคุณชาย
