บทที่ 5 คนเฝ้าไข้
ทั้งสองนั่งทานหมูกระทะจนเกือบหนึ่งทุ่ม ภูวิศอิ่มจนแทบจะสำลอกออกมา เพราะโดนรินดาบังคับให้ทานให้หมดเพราะกลัวโดนค่าปรับ สำหรับเขาแล้วค่าปรับไม่กี่บาทจ่ายได้สบายอยู่แล้ว แต่รินดาก็ไม่ยอมอยู่ดีเพราะเสียดายเงิน ภูวิศเลยจำใจต้องยัดหมูที่รินดาตักมาเยอะเกิน กินแทนเธอจนหมด
“ตักมาซะเยอะเลย คุณรู้ไหมผมแทบอ้วก”
คนตัวสูงบ่นอุบ เมื่อทั้งคู่พากันเดินออกมาจากร้านหมูกระทะ หน้าท้องเขาแน่นเปี๊ยะ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับภูวิศเลยก็ว่าได้
“ก็ฉันกลัวไม่อิ่มนี่นา ไม่คิดว่ามันจะเหลือ”
“เหลือก็แค่โดนปรับ...จ่ายเงินก็จบ”
“คุณนี่ไม่รู้จักคุณค่าของเงินเลย โดนปรับตั้งหลายบาท”
“สองร้อยเนี่ยนะ!!...ให้ตายเถอะเชื่อเขาเลย”
คนตัวสูงบ่นอุบ พลางส่ายหัวไปมากับความขี้งกของรินดา กับเงินค่าปรับแค่ไม่กี่บาท ถึงกับต้องบังคับให้เขายัดหมูที่ตักมาให้หมด ทั้งคู่พากันเดินมาที่รถซุปเปอร์คาร์คันสีดำที่จอดอยู่ คนในร้านต่างพากันมองทั้งคู่เป็นตาเดียว พวกเขาไม่เคยเห็นคนขับรถหรูมานั่งกินหมูกระทะแบบนี้
รินดาเปิดประตูแล้วก้าวขาเข้าไปด้านในรถ ภูวิศก็ก้าวขาเข้ามาติดๆ เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องโดยสาร รถก็พุ่งทะยานออกไปจากร้านหมูกระทะทันที
“คุณผมรู้สึกปวดท้องแปลกๆ”
ภูวิศพูดขึ้นขณะที่ขับรถออกมาได้สักระยะหนึ่ง เขาเอามือกุมหน้าท้องตัวเอง พลางทำหน้าเบ้
“กินเยอะเกินไปมั้งสงสัยจะอืด”
“เพราะใครล่ะ”
“เพราะคนน่ารักอย่างฉันไง อิๆ”
รินดาหัวเราะร่าที่แกล้งคนตัวใหญ่รูปร่างกำยำได้ แต่ดูเหมือนอาการปวดท้องของภูวิศจะเริ่มหนักขึ้น เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดขึ้นตามกรอบหน้า เขายกมือขึ้นมาปาดมันออกอย่างไว
“ผมปวดท้องมากเลยคุณ หมูกระทะคุณทำพิษผมแน่เลย”
ภูวิศเริ่มหน้าซีด อยากจะถ่ายหนักขึ้นมา โชคดีที่ถึงบ้านรินดาพอดี ภูวิศไม่รอช้าเขารีบเปิดประตูลงจากรถทันที
“ลงมาเร็วๆ คุณ มาเปิดประตูบ้านหน่อย ผมจะเข้าห้องน้ำ”
คนตัวสูงยืนบิดไปบิดมา ขนลุกชันไปทั้งตัว รินดาค่อยๆ เปิดประตูรถแล้วก้าวขาออกมา เดินอย่างช้าๆ แกล้งคนตัวสูงที่ยืนทรมานอยู่
“นี่คุณไวหน่อยได้ไหมผมจะไม่ไหวอยู่แล้ว”
“ปวดขี้เหรอ”
“อือ”
รินดาเปิดประตูบ้านให้ภูวิศเข้าไป เขารีบเข้าไปอย่างไว พลางสำรวจมองไปรอบๆ ว่าห้องน้ำไปทางไหน
“ห้องน้ำไปทางไหน”
“เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปแล้วเลี้ยวขวา”
พอได้ยินดังนั้นเขาไม่รอช้า ภูวิศรีบวิ่งเข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำทันที เขาใช้เวลาเกือบสิบนาทีอยู่ในนั้น ก่อนที่จะเดินออกมาด้วยใบหน้าอิดโรย
“หมูกระทะคุณเล่นงานผมแล้ว”
ยังไม่ทันขาดคำเขาก็ต้องหันกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ เพราะข้าศึกเข้ามาจ่อที่ประตูอีกแล้ว ภูวิศรีบสืบเท้าก้าวเดินไปอย่างไว รินดาเห็นแล้วอดขำไม่ได้กับท่าทางของคนตัวสูง
“กระเพาะบอบบางเหลือเกินนะ...ฉันกินยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
คนตัวเล็กตะโกนเข้าไปให้คนด้านในห้องน้ำได้ยิน พลางหัวเราะคิกคักชอบใจ แต่หารู้ไม่ว่าภูวิศตอนนี้เขาปวดท้องจะตายอยู่แล้ว รินดาเดินมานั่งอยู่ที่โซฟาตัวสีครีมที่ห้องนั่งเล่น ดูภูวิศวิ่งเข้าห้องน้ำเป็นสิบๆ รอบ เขาแทบคลานออกมาจากห้องน้ำเลยทีเดียว ตอนนี้เขาทนแทบไม่ไหวแล้ว
“พาผมไปหาหมอเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”
ภูวิศเอ่ยขอร้องรินดา เพราะตอนนี้เขาไม่ไหวแล้วจริงๆ แรงแทบจะไม่มีขับรถเลยก็ว่าได้
“ให้ฉันพาคุณไปหาหมอ?”
“ใช่ไง...คุณพาผมไปกินอะไรแปลกๆ ผมท้องเสียเลย”
“แปลกตรงไหนเขากินกันทั่วบ้านทั่วเมือง”
รินดากลอกตามองบนให้ภูวิศ พลางนึกในใจคุณชายจริงๆ เลย หมูกระทะมันแปลกตรงไหน ชาวบ้านเขาก็กินกันทั้งนั้นอร่อยเสียอีก เธอพ่นลมหายใจออกจากปาก ที่ภูวิศมาอาหารเป็นพิษเพราะหมูกระทะเจ้าโปรดของเธอ แถมยังมาเป็นภาระเธอให้พาไปหาหมออีกต่างหาก นี่มันก็ดึกแล้วเกือบสามทุ่มแล้วด้วย
“มันดึกแล้วนะ”
“แต่ผมไม่ไหวแล้วนะ...อยากให้ผมตายคาบ้านคุณรึไง”
“ไปก็ไป ไวๆ เลย”
คนตัวเล็กเดินนำหน้าภูวิศไปที่รถของตัวเอง ยืนกอดอกมองดูคนตัวสูงที่ค่อยๆ เดินลากขากุมหน้าท้องมาอย่างช้าๆ ราวกับเต่าเดิน
“ให้ไวเดี๋ยวฉันเปลี่ยนใจนะ”
“ไวได้แค่นี้แหละครับ...ผมจะเดินไม่ไหวแล้วมาช่วยพยุงหน่อย”
“จิ๊!!...เรื่องมาก”
รินดาทำเสียงจิ๊ปาก แต่ก็ยอมไปพยุงตัวภูวิศให้เดินมาที่รถ เหงื่อที่ผุดตามกรอบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเขา มันบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขาอาการแย่จริงๆ
“เหงื่อออกเต็มเลย ปวดมากไหม?”
“มากสิ”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณจะลำไส้อ่อนแอขนาดนี้ กินของข้างทางกับเขาไม่ได้”
คนตัวเล็กรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่เห็นว่าอาการของภูวิศเป็นเยอะจริงๆ เธอค่อยๆ ประคองคนตัวใหญ่รูปร่างกำยำ สูง 183 เซนติเมตร ไปที่รถอย่างทุลักทุเล เมื่อทั้งสองเข้าไปอยู่ในรถ รินดาก็รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที
ณ โรงพยาบาล
รถญี่ปุ่นสีขาวเทียบจอดที่หน้าทางเข้าห้องฉุกเฉิน รินดารีบเลื่อนกระจกรถลงเพื่อคุยกับเวรเปลทันที
“พี่คะ เขาท้องเสียค่ะ รบกวนพาเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหมคะ เดี๋ยวหนูไปจอดรถก่อน”
“ได้ครับ”
ภูวิศถูกนำตัวเข้าไปด้านในห้องฉุกเฉิน คุณหมอที่มาดูอาการและให้น้ำเกลือเขาทันที เพราะเขาเสียน้ำในร่างกายไปมาก อาจทำให้ช็อกได้ ดีที่เขามาไวไม่งั้นแย่แน่ๆ
“ญาติคนไข้อยู่ไหนครับ”
รินดารีบวิ่งมาที่หน้าประตูทันที
“อยู่นี่ค่ะ”
คนตัวเล็กยกมือแล้วเดินเข้าไปหาคุณหมอที่ยืนอยู่หน้าห้องตรวจ
“เดี๋ยวคืนนี้ให้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลสักสองคืนนะครับ ต้องให้น้ำเกลือเพราะคนไข้เสียน้ำในร่างกายไปเยอะ ญาติต้องคอยอยู่เฝ้าด้วยนะครับเผื่อคนไข้เข้าห้องน้ำ จะได้คอยช่วยพยุงคนไข้ครับ”
คุณหมอเอ่ยพลางยิ้มให้รินดา
“เอ่อ...ไม่มีพยาบาลคอยดูเหรอคะ พอดีไม่สะดวกเฝ้าค่ะ”
“ไม่มีครับ พยาบาลจะไม่ได้อยู่ด้วยตลอด เพราะต้องคอยดูคนไข้ท่านอื่นด้วยครับ”
รินดาหน้าเสียขึ้นมาทัน แต่ก็ต้องตอบตกลงกับคุณหมอไป เพราะว่าไม่มีใครแล้วนอกจากเธอ เดี๋ยวพอถึงห้องพักค่อยให้เขาโทรตามญาติมาเฝ้าเองแล้วกัน
รถนอนที่ภูวิศนอนอยู่ถูกเข็นเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย รินดาเดินตามมาติดๆ สายน้ำเกลือระโยงระยางที่มือของภูวิศเต็มไปหมด ถ้าไม่ได้น้ำเกลือเขาต้องแย่แน่ๆ เลย
“ให้ตายสิรินดาเอ๊ย!!...ไม่น่าพาไปกินหมูกระทะเลย ใครจะไปคิดว่าจะท้องเสียหนักขนาดนี้วะ”
เธอบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พลางเดินวนไปวนมารอบเตียงผู้ป่วย ตอนนี้เขานอนขดตัวเป็นกุ้ง สงสัยคงจะปวดท้องมาก จนรินดาอดที่จะสงสารไม่ได้
“นี่คุณมีใครมาเฝ้าคุณได้บ้าง”
รินดาเอ่ยถามภูวิศที่นอนบิดตัวไปมาอยู่บนเตียงผู้ป่วย
“ไม่มี ผมตัวคนเดียว”
“แฟนคุณล่ะ”
“ผมไม่มีแฟน”
“เพื่อนล่ะ”
“มันไม่มาเฝ้าให้ผมหรอกคุณ คุณเป็นคนพาผมไปกินก็ต้องรับผิดชอบอยู่เฝ้าผมสิ”
คนตัวเล็กยืนกัดเล็บตัวเอง พลางครุ่นคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรดี อยู่ๆ จะมาให้นอนเฝ้าไข้คนที่เพิ่งรู้จักเนี่ยนะ
“จ้างพยาบาลได้ไหม”
“ไม่ได้!!...ต้องเป็นคุณเท่านั้น!!”
คนตัวเล็กทำหน้ายู่ เดินไปกระแทกก้นนั่งที่โซฟาตัวสีครีม นั่งมองคนป่วยที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงอย่างคิดหนัก
“ก็ได้...ดีนะพรุ่งนี้วันหยุดฉันไม่ต้องไปทำงาน วันหยุดสุดสัปดาห์ของฉันต้องมานั่งเฝ้าคุณเนี่ยนะ”
รินดาอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เธอกะว่าพรุ่งนี้จะตื่นสายๆ นอนหลับให้สบายๆ สักหน่อย แต่กับต้องมานอนที่โรงพยาบาลแทน เป็นอะไรที่โคตรจะแย่เลย ผิดแผนไปหมด
“ช่วยไม่ได้...ถ้าไม่ไปกินหมูกระทะอะไรของคุณน่ะ ผมคงไม่ต้องมานอนแหมบอยู่อย่างนี้หรอก”
“โอยยยย....ปวดท้องชะมัดเลย”
ภูวิศโอดครวญด้วยความเจ็บปวด มันรู้สึกมวนท้องปวดบิดไปหมด อยากจะอาเจียนออกมา แต่มันก็ไม่ออก เป็นอะไรที่ทรมานสุดๆ เขาเข็ดขยาดกับหมูกระทะไปเลย
“พาผมไปเข้าห้องน้ำหน่อย...ผมลุกเองไม่ไหว”
คนบนเตียงเอ่ยขึ้น รินดาต้องรีบลุกขึ้นพาภูวิศไปเข้าห้องน้ำอย่างห้ามไม่ได้ สงสัยว่าคืนนี้เธอคงจะไม่ได้นอนแน่ๆ คงต้องพาคนป่วยเดินเข้าห้องน้ำทั้งคืน คนตัวเล็กคิดในใจเมียก็ไม่ใช่ เป็นใครก็ไม่รู้กับต้องมาอยู่ดูแล ราวกับว่าเป็นผัวตัวเองเลย
_____________________
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าอีพี่ดีนะ แค่ท้องเสียยังไม่เท่าทิ้งน้องไว้ข้างทางเลย ชิๆ
