บท
ตั้งค่า

3.ติดกับนางสมัน

***ทักทายคร้า ***

แม้ภายในรถคันหรูจะเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศชั้นดี แต่มันก็ไม่ทำให้คนที่ร้อนรุ่มเพราะแรงเสน่หาที่ถูกปลุกเร้าเมื่อสักครู่เย็นลงได้ กลิ่นกายหอมจรุงใจติดที่ปลายจมูกโด่ง ความนุ่มหยุ่นของผิวกายกลมกลึงติดที่ปลายมือ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงจูบแรกจะสะกดเขาได้ขนาดนี้แม่สาวน้อย

อังเดรมองใบหน้าคมที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างแปลกใจ

“มีอะไรหรือเปล่า นายมองฉันแปลก ๆ ตั้งแต่ออกจากผับนั้นแล้ว” จิมมี่ถามแต่ไม่ยอมหันมามองลูกน้องคนสนิท

อังเดรหันหลังกลับไปสบตาเจ้านายหนุ่ม

“ผมให้คนของเราสืบประวัติคุณมณีจันทร์เรียบร้อยแล้วนะครับ บอสจะอ่านในอีเมลหรือจะให้ผมพูดให้ฟังคร่าว ๆ ครับ”

คำพูดของอังเดรดึงความสนใจของคนเป็นนายให้หันมามอง แววตาที่เจือไปด้วยความสุขทำให้อังเดรอมยิ้ม

“ว่าไป” จิมมี่บอกสั่งสั้น ๆ

“คุณมณีจันทร์จบการตลาดระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในเมืองไทยเมื่อสองปีก่อน แล้วเข้ามาทำงานกับทีแท็คตามพินัยกรรมที่พ่อของเธอระบุไว้ โดยมีนายคณิตบริหารและถือหุ้นใหญ่ แม่เธอชื่ออุไร ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล” อังเดรหยุดรายงานเพื่อดึงความสนใจของคนฟัง

“แม่เธอเป็นอะไร” จิมมี่ถามพลางเมินมองไปนอกตัวรถ แต่หูคอยฟังเรื่องราวของเธอด้วยใจจดจ่อ

“เป็นมะเร็งครับ เธอหาเงินรักษาแม่ตัวเป็นเกลียวโดยที่นายคณิตไม่ดูดำดูดีอย่างที่ควรจะเป็น และเงินที่เป็นมรดกในส่วนของเธอนายคณิตก็ไม่ยอมให้ บุญคุณที่ต้องทดแทนทำให้เธอไม่กล้าทวงสิทธิ์ของตัวเอง”

“โกงกันหน้าด้าน ๆ” จิมมี่สบถหน้าตึงด้วยรู้สึกโกรธแทนหญิงสาว

“งานนี้นายคณิตคงใช้เธอเป็นเหยื่อล่อเสือ”

จิมมี่กระตุกยิ้มกับคำพูดของคนสนิท

“ถ้ามันไม่กลัวเสือกัดก็ปล่อยให้มันเข้ามา ไม่ว่านางสมันเนื้อหวานหรือนายพรานเจ้าเล่ห์ ฉันจะกัดไม่ปล่อยแน่” จิมมี่กดเสียงต่ำแววตาดุดันขึ้น

“หน่วยเหนือฝากย้ำบอสว่าให้อ่านอีเมลของวันนี้ด้วยครับ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องรายงาน จิมมี่ก็ส่งเสียงจิ๊กจั๊กในลำคออย่างหงุดหงิด อังเดรพูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของชายหนุ่มก็ดังขึ้น จิมมี่เห็นเบอร์โชว์ที่หน้าจอก็กดรับแล้วถอนหายใจดัง ๆ เพื่อให้คนที่โทรเข้ามาได้ยิน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถอนหายใจดังแบบนี้แสดงว่าเครียดเรื่องสาวมากกว่าเรื่องงาน” คนปลายสายทักทายอย่างอารมณ์ดี

“ใครว่าล่ะครับแด๊ด เครียดตั้งแต่ถูกแม่ยื่นคำขาดจะให้ผมแต่งงานแล้ว ดีนะที่แด๊ดหาทางออกให้ แต่ทางออกของแด๊ดดูจะเป็นทางตันกับผมไปแล้วตอนนี้” คำสารภาพของเสือร้ายแห่งท้องทะเล ทำเอาคนเป็นพ่อหัวเราะดังลั่น

“ไม่ตลกนะแด๊ด ให้ผมรับตำแหน่งประธานบริหารฮิลล์กรุ๊ปแทน แล้วใช้ให้มาสืบคดียาเสพติดแบบนี้ได้ไง” จิมมี่โวยวายกับพ่อบุญธรรมที่ตัวเองทั้งรักทั้งเคารพอย่างไม่จริงจังนัก

“เอาน่าไอ้ลูกชาย ทุกอย่างมีข้อแลกเปลี่ยน ถ้าเสร็จคดีนี้แด๊ดจะคุยกับแม่ให้เปลี่ยนตัวเจ้าสาว จากหนูซูซานเป็นน้องสาวนายคณิตแทน”

จิมมี่ไม่ทันได้โต้ตอบสายก็ถูกตัดไป ชายหนุ่มจึงครางในลำคอและออกอาการหงุดหงิด ทุกอย่างไม่เคยรอดสายตาพ่อเขาไปได้จริง ๆ ให้ตายสิ แม้จะส่งลูกชายสุดที่รักให้มาทำงานเสี่ยง ๆ แต่ก็มีซีไอเอแฝงตัวตามมาอีกไม่รู้กี่คน ซึ่งจิมมี่รู้ดีว่าคนเป็นพ่อไม่ได้กลัวว่างานจะผิดพลาด แต่เป็นห่วงเขามากกว่า

“บอสจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ”

“ไม่ล่ะ อยากพักผ่อนมากกว่า พรุ่งนี้เราคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ”

อังเดรคลี่ยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้า พลันสายตาบอดี้การ์ดหนุ่มก็ไปสะดุดกับร่างโปร่งระหงในชุดราตรีสีดำที่เดินเปิดประตูลงจากรถ เมื่อเห็นเจ้าของรถคันงามที่จอดนิ่งอยู่ข้างทางเปลี่ยว อังเดรก็เอี้ยวตัวไปข้างหลัง

“แต่ผมว่าเราคงได้งานเร็วกว่ากำหนดแล้วล่ะครับบอส” อังเดรบอกพลางส่งสัญญาณให้คนขับชะลอความเร็ว

จิมมี่มองตามสายตาคนสนิท จังหวะนั้นรถก็เคลื่อนผ่านไป ทำให้ชายหนุ่มเห็นเสี้ยวหน้างามชัดเจน

“จอด”

เร็วเท่าคำสั่ง รถคันงามจอดนิ่งห่างจากรถของมณีจันทร์ไปไม่ไกล จิมมี่รีบเปิดประตูออกไปทันที

“รถเป็นอะไรคุณจันทร์”

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเปล่งประกายออกมาทันทีที่เห็นชายหนุ่ม

“ไม่รู้สิคะ วิ่งมาดี ๆ ก็ดับไปเฉย ๆ” เธอบอกพลางยกมือเท้าสะเอว

“เปิดกระโปรง” เขาสั่งสั้น ๆ

มณีจันทร์ถึงกับหน้าแดงแปร๊ด ตาคมโตมองเขาเขียวปัดอย่างเอาเรื่อง

“ไอ้คนทุเรศ รถฉันเสียยังจะมาพูดทุเรศ ๆ แบบนี้อีก ถ้าลงมาแล้วพูดแบบนี้ก็ไปไกล ๆ ฉันโทรตามช่างก็ได้” เธอบอกอย่างโมโห ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงไปหยิบโทรศัพท์ในรถ มือหนาคว้าข้อมือบางไว้ หญิงสาวสะบัดเต็มแรงแต่ก็ไม่หลุด

“ผมหมายถึงกระโปรงรถ คุณก็คิดไปซะไกล ผมไม่หื่นขนาดปล้ำผู้หญิงข้างถนนหรอกน่า” เขาอธิบายแต่ตาคมวับวาวจนเธออยากจะต่อยให้ตาเขียวนัก

“ถ้าไม่ปล้ำก็ปล่อย ฉันจะโทรตามช่าง”

“เดี๋ยวให้อังเดรจัดการ ส่วนคุณจะไปไหนเดี๋ยวผมไปส่ง”

เขาบอกพลางออกแรงดึงเธอไปขึ้นรถ อังเดรเดินไปดูรถให้หญิงสาว

“ฉันไม่ไป ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างคุณ ปล่อยฉันสิ” เธอดิ้นช่วยตัวเองและขืนตัวไว้สุดกำลัง แต่ก็แพ้แรงของอีกฝ่าย

“ฉันจะไปเอาของในรถ”

“ก็บอกดี ๆ สิครับคุณผู้หญิง ดิ้นอยู่นั่นแล้วใครจะรู้ล่ะ”

จิมมี่ยอมปล่อยมือ ร่างงามเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายที่เบาะหลังแล้วส่งกุญแจรถให้อังเดร

“ฝากด้วยนะคะ ถ้าเสร็จแล้วรบกวนคุณให้คนขับไปส่งที่โรงพยาบาลนี้ด้วย ฉันอยู่ที่นั่น” เธอจดชื่อโรงพยาบาลยื่นให้

อังเดรก้มศีรษะรับคำเล็กน้อย ก่อนจะมองเลยไปสบตาคมกริบที่มองมา

“เจ้านายคุณบ้าอำนาจแบบนี้ทนอยู่ด้วยทำไมคะ”

เธอถามเสียงดังเพื่อให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยิน และใบหน้าคมสันก็ตึงขึ้นทันที

“ผมทำกับคนดื้อเท่านั้น ยิ่งดื้อยิ่งอยากปราบและใช้อำนาจ” จิมมี่ตอบแทนลูกน้องเลยได้รับค้อนงาม ๆ ส่งมาให้

“จัดการต่อด้วยนะอังเดร” จิมมี่สั่งเสร็จก็ก้าวขึ้นรถไปนั่งคู่กับเธอที่เบาะหลัง

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel