8 อ้อมกอดของฆาตกร
การถุยน้ำลายลงในมื้อเช้าให้พี่เธียรกินนี่ถือเป็นการแก้แค้นไหมนะ? ตลกเป็นบ้าที่ฉันคิดแบบนั้น! ต่อให้เขารู้ว่าในซุปถ้วยนี้มีน้ำลาย เขาก็ไม่รู้สึกอะไร…เมื่อคืนเขากินมากกว่าน้ำลายฉันอีก ฉันจะไม่มานั่งสะใจความชัยชนะเล็กๆน้อยๆแบบนี้หรอก มันดูอ่อนด๋อยเกินไป คิดงั้นไหม?
พอทำมื้อเช้าเสร็จฉันก็ยกมาให้พี่เธียรที่โต๊ะกินข้าว…บ้าจริง! ฉันจำได้ว่ามิรันตีผู้อาภัพนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น…ในอีก 364 วันข้างหน้า แล้วในห้องนั่งเล่น…คือจุดเกิดเหตุ!
“ทำไมรันทำหน้าแบบนั้น?” คำถามของพี่เธียรทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ “ไม่สบายหรือเปล่า?”
“ปะ…เปล่าค่ะ”
“พี่ตกใจนะ รันทำหน้าเหมือนจะฆ่าใครสักคนให้ตายคามือ” พี่เธียรดึงตัวฉันให้ไปนั่งบนตัก เขาโอบเอวฉัน ทำเหมือนว่ากลัวฉันจะหนีไปไหน สายตาที่มองมาก็ทำเหมือนกับว่ารักฉันเสียเต็มประดา เห็นแล้วคลื่นไส้ชะมัด!
“รันไม่ได้จะฆ่าใครหรอก ความตายไม่สะใจมากเท่าได้เห็นเขาทุกข์ทรมาน”
“เขาไหน?”
“ฮะๆ รันก็พูดไปอย่างนั้นค่ะ ว่าแต่ทำไมอยู่ๆที่เธียรถึงอยากกินมื้อเช้าฝีมือรัน?”
“ทำไมถามแบบนั้นครับ ผัวก็ต้องได้กินอาหารฝีมือเมียสิ” เหอะ! ตอแหล!
“รันหมายถึงป้ารำภาไปไหน?” ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงานกัน ถ้าอดีตก่อนหน้าที่ฉันจะมาถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราย้ายเข้าบ้านหลังนี้กันมาราวๆหนึ่งอาทิตย์ แล้วป้ารำภา…พี่เลี้ยงที่เลี้ยงฉันหลังจากแม่ตายก็ตามมาด้วย
“พี่ให้ป้ารำภากลับบ้านน่ะ อาทิตย์หน้าถึงจะกลับ”
“อ๋อ…งั้นก็แปลว่าพี่เธียรไม่ได้อยากกินอาหารฝีมือรัน แต่เพราะป้ารำภาไม่อยู่ก็เลยต้องจำใจกินสินะ?”
“ใครบอก? พี่น่ะชอบอาหารที่รันทำ ไม่ใช่แค่อาหาร…เค้กพี่ก็ชอบ” ชอบแต่ไม่เคยกิน! ฉันรู้หรอกน่ะว่าตอนนี้นายไม่มีทางเลือกก็เลยต้องยอมกินมัน!
“งั้นก็กินให้หมดนะคะ” ว่าแล้วฉันก็ลุกจากตักเขา คิดจะชิ่งหนี แต่เขากลับรั้งมือฉันไว้
“รันดูเปลี่ยนไปนะ”
“คะ?” ไม่เอาน่ะ ต่อให้เขาฉลาด…แต่ก็ไม่น่าจะมองขาดขนาดนั้น เขาจะมาจับสังเกตอะไรได้เร็วเบอร์นี้?
“การแต่งตัวน่ะ” เขาว่าพลางไล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “มันโป๊จัง…”
“อะไรคะ? โป๊ที่ไหน…ปกติรันก็ใส่แบบนี้”
“ไม่ครับ ปกติรันแทบไม่ใส่สายเดี่ยว คอก็ไม่เว้าลงมาจนเห็นเนินอกแบบนั้น…ไม่แหวกลึกจนเกือบจะเห็นก้นด้วย” ไม่ชอบสินะ? ชอบสายหวานแบบมิรันตีคนเก่างั้นสิ?
“แล้วพี่เธียรไม่ชอบเหรอคะ?”
“ไม่ใช่ไม่ชอบครับ แต่พี่หวง พี่ไม่อยากให้ใครมาเห็นผิวสวยๆของรัน” เอาจริงดิ? นอกจากหมาหวงก้างแล้วฉันก็ไม่เคยเห็นใครหวงผู้หญิงที่ไม่ได้รักเลยสักคน ชิ!
“ไม่เห็นจะต้องหวง…ยังไงพี่เธียรก็ได้เห็นมากกว่าคนอื่น แล้วก็…มันเป็นเทรนด์น่ะค่ะ ช่วงนี้เทรนด์สาวแซ่บกำลังมาแรง…รันแค่ไม่อยากตกเทรนด์ พี่เธียรกินให้หมดนะคะ เดี๋ยวรันมา”
“แล้วรันจะไปไหน? ไม่กินด้วยกันเหรอ?”
“ยังค่ะ รันยังไม่หิว…แค่จะไปทำงาน” ฉันไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น พูดจบก็แกะมือเขาแล้วเดินออกมา
สตูดิโอที่ฉันใช้ทำงานศิลปะอยู่ที่สวนหลังบ้าน จะไปที่นั่นฉันต้องเดินผ่านที่ที่ไม่อยากไป นั่นก็คือห้องนั่นเล่น…ฉันหยุดยืนมองจุดที่ตัวเองนอนตาย ภาพที่ไอ้สารเลวนั่นยิงฉันแวบเข้ามาในหัว อยู่ๆหัวใจก็บีบรัด…น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้ ทำไมมันเจ็บปวดแบบนี้…มันเจ็บรุนแรงขึ้นมาที่กลางอก ตรงจุดที่กระสุนทะลุเข้ามา
“ฮึก!” ฉันทรุดลงไปนั่งกับพื้น ในตอนนั้นพี่เธียรก็วิ่งเข้ามา
“รัน! เป็นอะไร?! เจ็บตรงไหน?!”
“ไม่! ออกไปนะ! ฮึก! อย่าเข้ามา! อย่าโดนตัวฉัน!” ฉันปัดมือเขาออก พยายามถอยหนี แต่แล้วเขาก็เข้ามากอดฉัน
“พี่อยู่ตรงนี้! รันเจ็บตรงไหน? บอกพี่!”
“ฮึก!” นี่มันเรื่องอะไรกัน? อยู่ๆความเจ็บปวดก็หายไปเมื่อพี่เธียรเข้ามากอดฉัน ทำไม…เพราะอะไร? ฉันเจ็บปวดจนเหมือนจะตาย แต่กลับรู้สึกดีขึ้นเมื่อโดนคนที่ฆ่าฉันเข้ามาโอบกอดเนี่ยนะ?
“บอกพี่ครับ…เจ็บตรงไหน?”
“…”
“สะดุดล้มเหรอ? ตกใจอะไร?” อย่า…ได้โปรดอย่ามองฉันด้วยสายตาเหมือนว่านายเป็นห่วงฉันยิ่งกว่าอะไรบนโลกนี้ อย่าทำให้ฉันหวั่นไหว…เพราะฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายแค่เพราะความหวั่นไหวแน่ๆ
“พี่เธียร…ฮึก! ทำกับรันแบบนั้นทำไมคะ? ทำทำไม?!”
“รันพูดเรื่องอะไร? พี่ทำอะไร?”
“…” ฉันหลุดปากพูดออกไป…ความหวั่นไหวทำให้ฉันอ่อนแอ พออ่อนแอก็พูดอะไรไม่คิด ตั้งสติหน่อยมิรันตี…ไม่งั้นทุกอย่างจะพังตั้งแต่ที่ยังไม่ทันเริ่ม ถ้าเขารู้ว่าเธอรู้แผนการในอนาคต รับรองได้เลยว่าเขาจะฆ่าเธอก่อนจะถึงวันครบรอบแต่งงานหนึ่งปี
“บอกมาว่าพี่ทำอะไร? ถ้าพี่ทำผิดพี่จะแก้ไข…”
“เอ่อ…” ฉันรีบปาดน้ำตา ต้องคิดหาคำตอบอีกแล้วสิ “รันหมายถึง…พี่เธียรกินมื้อเช้าคนเดียวน่ะสิ! ทำแบบนั้นทำไมคะ? แค่เพราะรันบอกว่ายังไม่หิว พี่เธียรก็เชื่อเหรอ? ไม่คิดจะแบ่งให้รันกินบ้างเลยหรือไง?”
เอาสิ เฉไฉ ถูไถเบี่ยงประเด็นจนสีข้างพรุนกันไปเลย!
“ฮะๆ เรื่องแค่นี้เอง…ถึงกับต้องร้องไห้โวยวายเลยเหรอ? อยากให้พี่แบ่งให้ก็บอกกันดีๆสิ…มาครับ ไปกินด้วยกันนะ” เขายิ้มออกมาพร้อมกับลูบแก้มฉัน ช่วยเช็ดน้ำตาให้ จากนั้นก็ลูบหัวเหมือนที่ชอบทำ “เมียพี่นี่น่ารักจังเลยนะ งอแงเพราะหิวอย่างนั้นใช่ไหมครับ?”
“?!” เอาจริงดิ? นี่เชื่อเหรอวะ? โอ…พี่เธียรนี่โง่เป็นเหมือนกันนะ! ไอ้ฆาตกร!
ฮีลใจ
อย่างน้อยมิรันตีผู้มากับไฟก็ยังมีโชคมากกว่าคนเก่า ตอนแรกไอ้พี่เธียรทำท่าเหมือนจะเฝ้าฉันทั้งวัน แต่แล้วที่บริษัทก็มีเรื่องด่วน เขาเลยต้องรีบออกไป…ฉันเลยมีโอกาสได้ออกจากบ้านมาหาฮีลเลอร์ที่บาร์
“เปลี่ยนลุคเหรอ?” ฮีลเลอร์ที่มั่นใจแล้วว่าไม่ใช่มนุษย์เอ่ยถามฉันพร้อมรอยยิ้มในทันทีที่ฉันเดินเข้ามานั่งหน้าบาร์
“อืม…ใส่ชุดลูกไม้สีขาวแก้แค้นแล้วมันไม่ได้ฟีล ต้องเดรสอกเว้าแหวกจนแทบเห็นก้นแบบนี้แหละเหมาะที่สุดแล้ว ขอแรงๆแก้วนึง” วันนี้ต้องเมา ถ้าไม่เมาก็ไม่รู้จริงๆว่าจะคิดแผนแก้แค้นออกมาไหม
“คุณดูสดใสขึ้นนะ”
“เพราะฉันเพิ่งฟื้นจากความตายไง แล้วไฟแค้นก็ทำให้ฉันมีพลังขึ้นมา นี่รู้ไหมว่าฉันตั้งชื่อให้ตัวเองใหม่ด้วยล่ะ”
“ว่ามาครับ”
“มิรันตีผู้มากับไฟแค้น”
พรวด!!!
“ฮะๆๆๆ” ในขณะที่ฉันพูดชื่อใหม่ออกไปด้วยความมั่นใจ ฮีลเลอร์ก็ทำลายมันด้วยการหัวเราะที่พ่นน้ำลายออกมาด้วย
“สกปรกน่ะฮีลเลอร์! แล้วนั่นคุณตลกเหรอ?!”
“ฮะๆๆๆ ก็แล้วคุณว่ามันไม่ตลกหรือไง? ลอก Katniss Everdeen จาก The Hunger Game มาทั้งดุ้นเลย…” เขาคงหมายถึงสาวน้อยผู้มากับไฟจากเขต 12 เขาไม่ใช่คนด้วยซ้ำ รู้จักได้ไง?
“ชิ!”
“นี่ผมรู้นะ ต้องให้บอกไหมว่าผมรู้หมดว่าในความคิดคุณมีอะไรบ้าง ถึงผมจะไม่ใช่คน…แต่นิยายดังแบบนั้น ผมต้องรู้จักอยู่แล้ว”
“ถามจริง? คุณรู้เหรอว่าฉันคิดอะไร”
“วันนี้คุณมาพร้อมคำถาม เยอะมากเลยด้วย…แต่ผมตอบไม่ได้ทั้งหมด เพราะงั้นจะเลือกตอบเฉพาะบางข้อก็แล้วกัน” ฮีลเลอร์ว่าพลางวางเครื่องดื่มลงบนบาร์ ไม่รอช้าฉันรีบคว้ามันมากระดกรวดเดียวหมดแก้ว
“เอามาอีก! แล้วก็พูดมา…พูดสิ่งที่ควรพูดออกมาให้หมด”
“เหตุการณ์จะเปลี่ยนตามการตัดสินใจ เป็นหลักการง่ายๆเลย…เมื่อการกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน”
“งั้นก็หมายความว่าถ้าฉันทำให้ไอ้ชั่วนั่นรักฉันจริงๆได้ ฉันก็จะไม่ตายงั้นสิ?”
“ฟังให้จบก่อนสิ…อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่าสุดท้ายปลายทางจะเหมือนเดิม เพราะมันคือโชคชะตา คุณเปลี่ยนโชคชะตาไม่ได้”
“ยังไงซะต่อให้พี่เธียรรักฉันขึ้นมา ฉันก็ยังต้องตาย…”
“หรืออาจไม่ตาย”
“เดี๋ยวนะ…แปลว่า…” ฉันว่าฮีลเลอร์กำลังบอกใบ้อยู่ล่ะ
“ครับ ผมบอกได้แค่ว่าถ้าคุณอาจจะไม่ตาย เพราะงั้นคิดดูให้ดีมิรันตี…ว่าจะแก้แค้นหรือแก้ไข”
“ตลก! ฉันโดนยิงโดนพี่เธียรยิงทะลุเข้านี่! ตรงกลางอกนี่! จะไม่ตายได้ไง?” ฉันจิ้มลงไปที่กลางอกตัวเองเพื่อบอกให้ฮีลเลอร์รู้ว่ามันคือจุดไหน ซึ่งเขาอาจจะรู้อยู่แล้ว
“ครับ”
“ครับอะไร?”
“ก็ถ้าคุณอยากจะเชื่อแบบนั้น…ถ้าคิดว่ายังไงซะก็ต้องตาย งั้นถือซะว่าการย้อนอดีตกลับมาคือทริปสุดท้ายของชีวิตคุณก็แล้วกัน”
“ไม่ใช่แค่ทริปธรรมดานะ แต่มันคือทริปโหด…ซิ่งแซงโค้งทะลุนรก!”
“ผมว่าฉันตลกขึ้นด้วยนะ…ฮะๆๆ”
