บทย่อ
บ้าจริง...ฉันย้อนเวลากลับมาเป็นเมียไอ้ชาติหมาชื่อเธียรที่ฆ่าฉันอีกครั้ง! ฉันกำลังจะตาย…หรือไม่ก็อาจตายไปแล้ว ลาก่อน…มีผู้ชายสองคนบนโลกใบนี้ที่ฉันทั้งรักและเกลียดในเวลาเดียวกัน คนหนึ่งคือพ่อ ผู้ชายที่ทิ้งฉันกับแม่ไปเพื่อเสวยสุขกับรักใหม่ ปล่อยให้เราสองคนต้องอยู่อย่างทุกข์ใจ จนกระทั่งแม่ตายจากไป อีกคนคือสามี ผู้ชายที่ฉันเทความรักให้เขาจนหมดใจ คนที่เข้ามาหลอกให้รักแล้วปอกลอกเอาทุกอย่างไปจากฉัน ชาตินี้ฉันโชคร้ายที่ต้องมารักผู้ชายใจดำคนนี้ หากชาติหน้ามีจริง…ขอให้เราได้อย่าพบเจอกันอีกเลย แต่หากเลี่ยงไม่ได้ หากว่าต้องเจอกันอีกครั้งจริงๆ สาบานเอาไว้ตรงนี้เลยว่าฉันจะทำให้เขาเจ็บช้ำจนกระอักความทรมานออกมาเป็นเลือดแล้วอ้อนวอนขอความเมตตาจากฉัน! ...สุดท้าย... มีประโยคหนึ่งที่ฉันคิดว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์…หากย้อนเวลากลับไปได้…ฉันจะไม่รักใครจนไม่เผื่อใจไว้รักตัวเองอีกแล้ว “อย่ามาพูดจาหมาๆ นะ! พี่เธียรหลอกใช้รัน! เข้ามาหลอกให้รักก็เพราะหวังจะฮุบธุรกิจ! รันรักพี่เธียรหมดใจ! รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหนตอนที่รู้ความจริงทุกอย่าง! รันเก็บเรื่องนี้อยู่คนเดียวมาเป็นเดือนๆ รันเห็นกับสองตาตัวเองว่าพี่เธียรมีอะไรกับชัญญา! รันเห็นด้วยสองตาคู่นี้ว่าพี่เธียรพาอีนังนักร้องรินรินนั่นเข้าโรงแรม! หย่าให้รันเดี๋ยวนี้! หย่าซะ! แล้วเอาทุกอย่างคืนมา!” “ขอโทษนะ…ที่พี่เลือกรันไม่ได้” ในเมื่อมันคือโชคชะตาของฉัน ฉันก็จะต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นเมียไอ้คนทรยศนั่นและฉันถูกเขาฆ่าตายด้วยปืนที่ฉันเป็นคนจ่ายเงินซื้อ ฉันจะย้ำมันอยู่แบบนี้เพื่อเตือนใจตัวเอง จะได้ไม่ลืมว่าชีวิตใหม่ของฉันมีไว้สำหรับการแก้แค้นเท่านั้น ฉันจะไม่กลับไปรักเขา จะไม่หวั่นไหวเป็นอันขาด! และสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการตั้งชื่อชีวิตใหม่ ฉันเรียกตัวเองคนเก่าที่โดนฆ่าตายว่ามิรันตีผู้อาภัพ ส่วนตัวฉันคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมคือมิรันตีผู้มากับไฟแค้น หึ! WARNING นางเอกเรื่องนี้ด่าเก่ง ด่าตลอดและมีคำหยาบคาย พระเอกเรื่องนี้เลว (ไหมนะไม่แน่ใจ) นิยายเรื่องนี้มีดราม่า น้ำตา เลือด แน่นอนว่ามี NC แบบจัดเต็ม อายุต่ำกว่า 18 ขอให้ยกมือปิดตา ฝากนิยายเรื่องใหม่ที่ดราม่าก็มี ฟินๆก็เยอะ หยอดมุกเบาๆ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
1 Destiny
ฮีลใจ
“ฉันฆ่าเขาดีไหม?”
คำถามถูกเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมสายตาอันเลื่อนลอย มิรันตี โรจนโภคินทร์ หญิงสาวผู้ที่ใครๆก็ต่างอิจฉา เพราะเธอนั้นทั้งรวย สวย มากด้วยความสามารถ เป็นถึงจิตรกรชื่อดังที่ผลงานทุกชั้นราคาไม่เคยต่ำกว่าหลักแสน สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด…หลักใหญ่ใจความที่สาวๆหลายคนพากันอยากได้อยากมีเหมือนเธอก็คือสามีแสนเพอร์เฟคอย่าง เธียร โรจนโภคินทร์
“ยังไงซะ…ชีวิตฉันก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่แล้ว ถ้าฆ่าเขาตายแล้วเกิดติดคุกขึ้นมา ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก”
ในสายตาของคนนอก มิรันตีเป็นเหมือนคุณหนูที่เกิดมาพร้อมกับความโชคดี เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ทัพพ์ เจนกิจธนทรัพย์ CEO ซึ่งถือหุ้นมากที่สุดของ เจนวานิช คอร์ปอเรชั่น บริษัทผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทยและภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งเธอยังถือหุ้นบริษัทอยู่อีก 20% ทั้งๆที่ไม่ได้มีหน้าที่บริหารงาน เพียงแค่เอ่ยถึงชื่อเธอ ใครๆก็ร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘อ๋อ ไฮโซสายติสต์ที่สวยๆเก่งๆคนนั้นน่ะเหรอ?’ และแม้ว่ามิรันตีจะไม่ใช่ดารา แต่เพราะทุกคนเคยได้เห็นเธอผ่านสื่ออยู่บ่อยๆ จึงทำให้เป็นที่รู้จัก หากแต่พวกเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงมุมมองจากภายนอกเท่านั้น ไม่มีใครรับรู้ว่าจริงๆแล้วชีวิตของมิรันตีนั้นอาภัพแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าก่อนที่เธอจะมาถึงจุดนี้ จุดที่แสงไปส่องถึง ชีวิตของเธอลำบากเพียงใด และไม่มีใครคาดถึง…ว่าต่อให้เธอมีทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีนั้นคือความสุข
“ถ้าฉันฆ่าเขาโดยที่ไม่บอกอะไรเลย มันจะสะใจพอไหมนะ? ไม่หรอก…การตายไปอย่างโง่ๆมันไม่เห็นจะน่าสะใจตรงไหน เขาควรได้รู้สิว่าตอนนี้ฉันไปผ่าตัดเขาออกจากหัวแล้ว ฉันไม่ใช่ควายตัวเดิมที่ไอ้คนเลวนั่นสวมเขาให้แล้ว!”
“…”
“ใช่…ฉันควรเฉลยทุกอย่าง ว่าเขามันเป็นผู้ชายเฮงซวยที่เข้าหาฉันเพื่อผลประโยชน์ บอกเขาว่าฉันรู้แล้วว่าเขานอกใจ…ไม่ใช่แค่คนเดียวแต่ถึงสองคนด้วยกัน บอกเขา…ว่าฉันรู้…ฮึก! ฉันรู้หมดแล้วว่าเขาไม่เคยรักฉันเลยแม้แต่นิดเดียว!”
‘เขา’ ที่ว่าไม่ใช่ใครอื่นใด แต่คือเธียร สามีที่เธอแต่งงานและอยู่กินด้วยมาหนึ่งปีเต็ม ผู้ชายที่เธอรักมาสี่ปี…ยอมให้เขาได้ทุกอย่าง เขาได้ทุกอย่างไปจากเธอ ทั้งกาย ทั้งใจ ทั้งความเชื่อมั่น เขาได้แม้กระทั่งจิตวิญญาณของเธอไปด้วย อย่าว่าแต่หุ้น 20% ของเจนวานิช ที่เธอเคยถืออยู่เลย
แต่แล้วเขาก็ทำลายหัวใจด้วยปลายเท้า บดขยี้ก้อนเนื้อที่รักเขาจนแทบถวายชีวิตให้จนมันแหลกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี ตลอดหนึ่งปีที่แต่งงานเป็นเมียเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะเลวระยำได้ถึงเพียงนี้…เธียรสวมเขาให้เธอมาตลอด เธอรู้เมื่อตอนที่สาย…เพราะทุกอย่างกลายเป็นของเขาไปหมดแล้ว ทั้งหุ้นของเธอและพ่อ รวมกัน 50% ทั้งตำแหน่ง CEO ทั้งบริษัท เจนวานิช คอร์ปอเรชั่น ที่พ่อเธอสร้างมากับมือ รวมถึงชีวิตของชีวิตเธอ
เธียร โรจนโภคินทร์ ผู้ชายที่เธอรักทั้งใจ ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี เขามาเพื่อหลอกให้รักแล้วปอกลอกทุกอย่างไปจากเธอ
“รู้ไหมว่ามันตลกตรงไหน? ฉันรู้ทุกอย่าง…แต่ฉันกลับไม่ทำอะไรเลย ฉันได้แต่ร้องไห้เสียใจไปวันๆ ฉันรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันต่ำช้าจนให้อภัยไม่ได้ ฉันเกลียดเขาจนอยากจะฆ่าให้ตาย…แต่ถึงอย่างนั้น ฮึก! ถึงจะเป็นอย่างนั้น…ฉันก็ยังโง่รักเขาอยู่”
“มันคือความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียด ผมเคยบอกเรื่องนี้กับคุณไปแล้ว” เขาคนนี้คือฮีลเลอร์ เป็นทั้งเพื่อน บาร์เทนเดอร์ นักจิตบำบัด หรือไม่ก็ใครสักคนที่กำลังหลบซ่อนตัวเองจากสังคม เพราะเขาไม่เคยเปิดเผยตัวตน ไม่เคยออกไปที่ไหน แม้แต่ชื่อจริงๆเขาก็ไม่เคยบอก มิรันตีเพิ่งรู้จักฮีลเลอร์ได้เพียงสามเดือน แต่เธอก็เชื่อใจจนเล่าทุกอย่างให้เขาฟังจนหมดเปลือก
มันเริ่มขึ้นเมื่อคืนวันนั้น…วันที่จับได้ว่าเธียรนอกใจ เธอมาเมาที่บาร์แห่งนี้…บาร์ลับในซอกตึกที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาเจอได้ยังไง บาร์ลับที่เปิดรอเธอทุกครั้งในตอนที่เธอต้องการใครสักคน บาร์…ที่มากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยเห็นลูกค้าคนอื่นเลยนอกจากเธอคนเดียว
“รู้ไหมว่าตอนนี้ในกระเป๋าฉันมีอะไรอยู่ในนั้น?” มิรันตีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาหยดติ๋งในตอนที่ปรายตาไปมองกระเป๋าใบแพงที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ปืน”
“รู้ได้ยังไง?”
“ก็คุณพูดเรื่องอยากฆ่าสามีตัวเองมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมเลยเดาว่าในกระเป๋าคุณมีปืน”
“คุณเดาถูก”
“มิรันตี…คุณฆ่าเขาไม่ลงหรอก เพราะคุณรักเขามากกว่าชีวิตตัวเองอีก สิ่งที่คุณกำลังเผชิญมันเรียกว่าโชคชะตา”
“โชคชะตาบ้าบออะไร?! โชคชะตามีสิทธิ์อะไรมาบงการชีวิตฉัน? โชคชะตามันหน้าตาเป็นยังไงเหรอ? หน้าตาเหมือนคุณหรือเปล่า?! ฮึก! กล้าดียังไงมาทำให้ชีวิตฉันพัง?!”
“คุณเมาหนักแล้วนะ โชคชะตามีตัวตนที่ไหนกัน…เอาปืนนั่นมาให้ผมเถอะ ต้องให้พูดอีกครั้งไหมครับว่าปืนนั่นน่ะ คุณไม่กล้าใช้มันหรอก เพราะคุณใจดีเกินไป สุดท้ายคุณจะใจอ่อน…เพราะคุณรักเขามาก”
“แต่ฉันก็เกลียดเขาเหมือนกัน วันนี้จะเป็นวันตายของเขา…ดีเลยที่เป็นวันนี้ เพราะมันคือวันสำคัญของฉันกับเขา เป็นวันเกิดฉัน เป็นวันที่เขาขอฉันคบ วันแต่งงาน แล้วก็วันตายของเขาด้วย”
“คุณคิดว่าการฆ่าเขามันช่วยอะไรได้งั้นเหรอ? ความตาย…ไม่ช่วยให้คุณมีความสุขขึ้นมาได้หรอก”
“ฮึก! แล้วอะไรที่จะทำให้ฉันมีความสุขขึ้นมาได้?”
“หย่ากับเขาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่…คนที่หวังดีกับคุณคงจะตอบแบบนั้น”
“ไม่มีใครหวังดีกับฉัน แม้แต่พ่อ…ฮึก! ฉันโทษพ่อได้ไหม? โทษพ่อที่ทิ้งแม่ไป โทษพ่อที่ทำให้แม่ตาย โทษพ่อทุกอย่างเลย…เพราะถ้าพ่อไม่พาพี่เธียรมาเจอฉันเมื่อสี่ปีที่แล้ว ชีวิตฉันอาจจะไม่ต้องทรมานแบบนี้ก็ได้”
“ทำแบบนั้นแล้วคุณสบายหรือไง?”
“ทำไมคุณเอาแต่พูดแบบนี้? ไม่คิดจะเข้าข้างกันเลยหรือไง? ในสายตาคุณ ฉันไม่น่าสงสารบ้างเหรอ? ฉันโดนสามีนอกใจไปเอากับผู้หญิงอื่นตั้งสองคน! โดนเขาปอกลอกเอาทุกอย่างไปหมด ฉันไม่เหลืออะไรเลย…หุ้น บริษัทของพ่อ ตำแหน่ง CEO ของพ่อ! พ่อฉันต้องหลบหนีก็เพราะสามีฉันกล่าวหาว่าเขาขี้โกง!”
“แก้ไขมันสิ…นั่นอาจดีกว่าการเอาแต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย”
“ฉันจะทำอะไรได้? ตอนนี้ทางเดียวที่คิดออกคือฆ่าเขาซะ!”
“งั้นก็ไปฆ่าเขาครับ”
“ฮีลเลอร์!”
“ก็พอผมบอกให้คุณตั้งสติ คุณก็ไม่เอา ตอนนี้คุณคิดแต่จะฆ่าเขาอย่างเดียว ถึงขั้นซื้อปืนมาแล้วด้วย…งั้นก็ไปฆ่าเขาเลย จากนั้นก็ไปนอนในคุก นั่นแหละครับจุดจบของชีวิตที่น่าสงสารของคุณ”
“ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว…” มิรินตีคว้าเหล้ามากระดกจนหมดแล้ว ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วลงจากเก้าที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์
“มิรันตี…ผมถามจริงๆนะ ถ้าคุณได้โอกาสอีกครั้ง…คุณจะแก้ไขมันไหม?”
“แก้ไขอะไร?” หญิงสาวหันกลับมาถาม
“ความผิดพลาดทุกอย่างในชีวิตคุณ”
“ไม่…ทำไมฉันต้องแก้ไขมันด้วย? ถ้าเกิดมีโอกาสจริงๆ สิ่งที่ฉันจะทำคือแก้แค้น!” จบคำนั้นมิรันตีก็เดินออกมา จุดหมายต่อไปของเธอคือบ้าน…เพราะคืนนี้เธอมีนัดฉลองครบรอบวันแต่งงานกับสามีสุดที่รัก…

